* พบกันทุกวันจันทร์ ที่นี่ที่เดียว หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน หนังสือพิมพ์ทางเลือกเพื่อคนที่เลือกแนวทางประชาธิปไตย ไม่ฝักใฝ่เผด็จการ และอำมาตยาธิปไตย จงรัก ภักดีราช รายงานตัวเป็นประจำ พร้อมกับนำข่าวเล่า ข่าวลับ และข่าวล้วง มารายงานเหมือนเช่นเคย
* เดินผ่านกันเมื่อวันวาน เห็นสีข้าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เหวอะหวะ เพราะเอาเข้าถูกับกำแพง เพื่อตะแบง ปัดความรับผิดกรณี สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำม็อบพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของพรรค และพรรคไม่เคยสนับสนุนสมเกียรติในบทบาทหัวหน้าม็อบ (แต่...ก็ไม่เคยห้าม)
* ข้ออ้างที่ว่า กรณี สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แตกต่างจาก จักรภพ เพ็ญแข แม้จะโดนคดีเดียวกัน แต่ประชาธิปัตย์จำเป็นต้องมี 2 มาตรฐาน กรณีผู้ต้องคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ เพราะว่าจักรภพมาจากการแต่งตั้ง แต่สมเกียรติมาจากการเลือกตั้ง พรรคจึงดำเนินการอะไรไม่ได้ ก็แล้วที่บอกว่า พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค แปลว่าอะไร หรือว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องรับผิดชอบกับพฤติกรรมของคนที่พรรคเลือกมา โยนภาระไปให้ประชาชนที่ลงคะแนนให้รับผิดชอบกันเอง
* ก็ดี...จะได้จารึกและบันทึกไว้ว่า ประชาธิปัตย์ยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค ได้แสดง จุดยืนที่จะปกป้องสมาชิกพรรค มากกว่าพระเกียรติยศขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงไม่แปลกใจที่จะมีฉายา มาร์ค ม.7 ปลิวว่อนทั่วทั้งวงการการเมือง เพื่อกันลืมว่า ครั้งหนึ่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยหวังจะใช้พระราชอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือกำจัดคู่แข่งทางการเมือง เพราะรู้ว่าสู้ไม่ได้ในเวทีเลือกตั้ง
* นายรักษ์ รักษ์พงษ์ (โพธิรักษ์) เหิมเกริมใหญ่นักแล้ว พี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย โดยอุตริเทศน์โปรดสัตว์น้อยใหญ่ ทั้งเขาแหลม เขาทู่ ที่ทุ่งเลี้ยงสัตว์มัฆวานฯ ว่า พระพุทธเจ้าเป็นนักการเมือง ทั้งๆ ที่ตัวเองก็นั่งฟังพวกใจบาปหยาบช้าขึ้นเวทีด่ากราดนักการเมืองเป็นอมนุษย์ เป็นสัตว์เลื้อยคลาน อยู่ทุกวัน จึงต้องพิเคราะห์ให้ดีว่ามีเจตนาอย่างไร
* ปฏิปักษ์ของพระพุทธศาสนาผู้นี้ยังอวดอุตริสำแดงธรรมเทศนาว่า ศาสนาแยกออกจากการเมืองไม่ได้ ซึ่งย่อมมีเป้าหมายในใจแน่นอน เนื่องเพราะ สันติอโศก เป็นลัทธิแอบอ้างพระพุทธศาสนา แสวงหาอำนาจทางการเมือง มาโดยตลอด พลังธรรม และเพื่อฟ้าดิน คือสองพรรคการเมืองในสังกัด หากเผลอไผล ไม่ระวัง ปล่อยให้ม็อบพันธมิตรฯ ยึดครองอำนาจ จำลอง ศรีเมือง เป็นใหญ่ในแผ่นดิน พุทธบริษัททั้งหลายเห็นทีจะอยู่ลำบาก ในวันที่ โพธิรักษ์ สถาปนาตนเป็นศาสดาองค์ใหม่
* พวกสัตว์นรก กระหายเลือด คลั่งสงคราม มิใช่ประชาชนที่ถูกปั่นหัวจนไปแสดงอาการยั่วยุทหารกัมพูชา หากแต่เป็นผู้กำกับการแสดงหลังเวทีพันธมิตรฯ 4-5 คน ที่มี หัวขบวน “ลูกป๋า” ฉายา “หน้าแหลมฟันดำ” เป็นตัวนำทีม เพราะต้องการดึงทหารออกมาเกี่ยวข้อง และยุ่งเกี่ยวกับการเมืองให้จงได้ เมื่อหมดหนทาง จนปัญญา ทางเดียวที่ต้องทำก็คือ ยั่วยุกัมพูชา ให้ประกาศสงครามกับไทย
* เดี๋ยวนี้โฆษณากระเบื้องที่บอกว่าอย่างหนาต้อง ตราช้าง เอามาอ้างอีกไม่ได้แล้ว เพราะมี หนากว่า ทั้งหนา ทั้งด้าน ทั้งทน ต้องตรา ป.ป.ช. ถ้ามีรูป “คนหัวล้าน หน้าติดหนวด” เป็นโลโก้ รับรองเชื่อได้ว่า หนาจริง ด้านจริง ถูกจี้ทุกวัน ถูกไล่ทุกเวลา ให้แสดงสปิริต กรรมการ ป.ป.ช. ที่ไม่ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ขัดกฎหมาย ป.ป.ช. แต่ก็ยังดึงดันดื้อด้านที่จะอยู่ต่อ มิหนำซ้ำกรรมการบางคนยัง ยกอำนาจ คมช. เทียบเท่าพระราชอำนาจ เคารพโจรปล้นประชาธิปไตยเสมอเท่าพระมหากษัตริย์
* มิใช่แต่กรรมการ ป.ป.ช. 9 คน เท่านั้น ที่มาจากการแต่งตั้งของ โจรปล้นประชาธิปไตย มิใช่มาจากพระราชอำนาจตามที่กฎหมายบัญญัติ หากแต่ กกต. 5 คน ก็เหมือนกัน มาด้วยน้ำมือโจร และยังคงใช้ฐานะที่โจรแต่งตั้ง เฉกเช่นเดียวกับ กกต. ชุดก่อนๆ ที่พระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ฉะนั้นแล้ว หาก ป.ป.ช. อยู่ไม่ได้ กกต. ก็ต้องไปเช่นเดียวกัน
* ข่าวลับที่ จงรัก ภักดีราช ล้วงมาจากสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำสัปดาห์นี้ ก็คือว่า คำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. สายม็อบพันธมิตรฯ รายงานทรัพย์สิน ครอบครองที่ดิน ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จำนวน 5 ไร่ มูลค่า 400,000 บาท แต่ทว่าเอกสารสิทธิหามีไม่ ที่พอหาได้ก็คือ ภบท.5 ซึ่งไม่นับเป็นเอกสารสิทธิครอบครองที่ดิน แต่เหตุไฉนสิทธิในที่ดินจึงตกเป็นของ คำนูณ สิทธิสมาน ได้ ทั้งยังบอกมูลค่าราคาที่ดินได้อีกด้วย
* ภบท.5 ของ คำนูณ สิทธิสมาน กับ ภบท.5 “เขายายเที่ยง” ของท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แตกต่างกันอย่างไร ต้องไหว้วาน รสนา โตสิตระกูล สมชาย แสวงการ และ ประสาร มฤคพิทักษ์ 3 ส.ว. นักขุดคุ้ย ช่วยทำหน้าที่เพื่อ รักษาแผ่นดินของชาติ ให้ด้วย อย่าให้ใครๆ ครหาได้ว่าเลือกปฏิบัตินะท่าน ส.ว.
* มิน่าเล่า เมื่อวันที่ “หน้าแหลมฟันดำ” ถล่ม ภบท.5 เขายายเที่ยง ของ สุรยุทธ์ จุลานนท์ หวังฟันให้ขาดสองท่อนคาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คำนูณ สิทธิสมาน นั่งเงียบกริบ ไม่พูดไม่จาเรื่อง ภบท.5 สักคำ ก็น่าแปลก สองคนผัวเมีย คำนูณ–สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน มีอาชีพนักสื่อสารมวลชนด้วยกันทั้งคู่ ปลูกบ้านสร้างเรือนก็อยู่ในเมืองหลวง แต่ ดันไปครอบครองที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิอยู่กลางป่าลึกได้
* ตกลงว่าประเทศไทยแห่งนี้ตีความกฎหมายกันที่เจตนา หรือว่ากันตามตัวอักษร หลังจากที่ จงรัก ภักดีราช นำ หุ้นต้องห้ามของ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ สมชาย แสวงการ มาเปิดเผย ตามด้วย ศุภชัย ใจสมุทร ยื่นตรวจสอบ 33 ส.ว. 28 ส.ส. ถือหุ้นสัมปทานรัฐ ขัดรัฐธรรมนูญ ก็มีนักวิชาการ-นักวิชาเกิน-นักวิชากลวง ออกมาตีความกฎหมายแบบลับ-ลวง-พราง จนสับสนไปหมด ฤๅว่าความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายประเทศนี้อยู่ที่คนใช้กฎหมาย และอยู่ที่ว่าใช้กับใคร พวกเราหรือไม่ หาใช่อยู่ที่ตัวกฎหมายไม่