WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 24, 2008

นักวิชาการออกแถลงการณ์จี้หยุดปลุกกระแสพระวิหาร

“นักวิชาการ-นักศึกษา-สื่อ-ภาคประชาชน” ร่วมกันออกแถลงการณ์จี้แก้ปัญหา “ปราสาทเขาพระวิหาร” โดยสันติวิธี ระบุกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวควรยอมรับในประวัติศาสตร์ว่าตัวปราสาทเป็นของเขมรมาตั้งแต่ 46 ปีที่แล้ว ขืนดึงดัน-บิดเบือน ส่อทำให้ชาวโลกมองว่าเป็น “อันธพาล” ด้านนายกฯ เชื่อหลังเลือกตั้งในกัมพูชา การเจรจาจะง่ายขึ้น

กรณีของปราสาทเขาพระวิหาร ที่มีกลุ่มคนพยายามปลุกกระแส “คลั่งชาติ” เพื่อเป็นชนวนในทางการเมือง จนเกิดเป็นความขัดแย้งและความวุ่นวายทั้งในประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซ้ำยังส่อว่าอาจจะบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โตนั้น

ในวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กลุ่มนักวิชาการ ภาคประชาชน และกลุ่มประชาชนผู้รักสันติ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ เพื่อให้มีการร่วมกันยุติปัญหาดังกล่าวด้วยสันติวิธี โดยระบุว่า

จากความพยายามของกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ที่พยายามปลุกระดมกระแสชาตินิยม เรียกร้องให้มีการยึดปราสาทเขาพระวิหาร และดินแดนทับซ้อนมาเป็นของไทย รวมทั้งส่งคนเข้าไปเคลื่อนไหวในบริเวณใกล้ปราสาทเขาพระวิหาร จนกระทั่งทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกองกำลังของไทยและกัมพูชาบริเวณชายแดน และอาจนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศได้นั้น พวกเราในฐานะพลเมืองผู้รักสันติ มีความวิตกกังวลอย่างยิ่งและขอเสนอจุดยืนต่อปัญหาดังกล่าวดังต่อไปนี้

*แนะยอมรับความจริงพระวิหาร
1. สังคมไทยควรยอมรับการตัดสินของศาลโลกเมื่อ 46 ปีที่แล้วว่าปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่ที่ตั้งปราสาทอยู่ในอำนาจอธิปไตยของประเทศกัมพูชา การปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น “รัฐอันธพาล” ในสายตาของชาวโลก แต่จะนำพาประเทศชาติไปสู่สงครามโดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ชีวิตและเลือดเนื้อของทหารของชาติไม่ควรต้องสูญเสียไปเพราะสาเหตุจากการปลุกปั่นของคนบางกลุ่มเท่านั้น

2. ขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งของไทยและกัมพูชา ยึดมั่นและหนักแน่นในแนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น โดยไม่หวั่นไหวต่อเสียงเรียกร้องและความพยายามให้เกิดสงครามจากคนบางกลุ่ม อนึ่ง ประเทศไทยมีปัญหาข้อพิพาทเหนือพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ด้าน หากสังคมไทยคล้อยตามกระแสคลั่งชาติที่กำลังถูกปลุกเร้าในขณะนี้ เราคงต้องทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 4 ประเทศ มีแต่แนวทางสันติวิธีและการร่วมมือกันพัฒนากับเพื่อนบ้านเท่านั้น ที่จะนำสันติสุขและความเจริญก้าวหน้ามาสู่สังคมไทยและผู้คนในภูมิภาคนี้

*จี้เลิกปลุกกระแสคลั่งชาติ
3. ขอให้กลุ่มการเมืองยุติการปลุกปั่นกระแสคลั่งชาติที่อาจนำไปสู่สงครามระหว่างประเทศ ขณะนี้ ประเทศไทยมีปัญหารุมล้อมในทุกด้าน ทั้งปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความตกต่ำทางเศรษฐกิจ และการเมือง ชะตากรรมของประชาชนไทยในขณะนี้ไม่สมควรถูกซ้ำเติมด้วยสงครามคลั่งชาติใด ๆ ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ผู้ร่วมลงนามมีอาทิ พระไพศาล วิสาโล เครือข่ายพุทธิกา นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ นายเกษียร เตชะพีระ คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ นายยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ นายธร ปีติดล คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

*นักวิชาการลงชื่อหนุนสันติวิธี
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นางอรอนงค์ ทิพย์พิมล นายอัครพงษ์ ค่ำคูณ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายอุกฤษณ์ ปัทมานนท์ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย นายกนกรัตน์ เลิศชูสกุล นางฉันทนา บรรพศิริโชติ นายเวียงรัฐ เนติโพธิ์ นายนิติ ภวัครพันธุ์ นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นางณัฐพร ไทยจงรักษ์ นางมรกต เจวจินดา ไมยเออร์ นายสัญญา ชีวะประเสิรฐ ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายบุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์ คณะอักษรศาสตร์ นายชาญณรงค์ บุญหนุน นายสุนัย ครองยุทธ นายเชษฐา พวงหัตถ์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นายชาตรี ประกิตนนทการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

นายกฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
นายอาดาดล อิงคะวณิช มหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ นายอติภพ ภัทรเดชไพศาล วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล นายชำนาญ จันทร์เรือง นายสมเกียรติ ตั้งนโม มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน

*สื่อ-นักศึกษา-ประชาชนหนุน
นายสุเจน กรรพฤทธิ์ นางกรรณิการ์ กิจติเวชกุล สื่อมวลชน นางสุภลักษณ์ กาญจนขุนดี หนังสือพิมพ์ The Nation นายธนาพล อิ๋วสกุล นายกิตติศักดิ์ สุจิตตารมย์ นาย
วิทย์ ประสมปลื้ม วารสารฟ้าเดียวกัน

นางอารีวรรณ คูสันเทียะ กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (Local Act) นายเพียรพร ดีเทศน์ โครงการแม่น้ำเพื่อชีวิต นางกรรณิการ์ ควรขจร มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม นางดวงพร โซสเซย์ ZOA Refugee Care นายภูมิวัฒน์ นุกิจ นักธุรกิจและนักลงทุนเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม นายนครินทร์ วิศิษฎ์สิน กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นางจิตรา คชเดช ประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่มนิด้าเสวนาสาธารณะ นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ Thai Labour Campaign

นายทรงศักดิ์ ปัญญา นายชัยพงษ์ สำเนียง นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายปกป้อง เลาวัณย์ศิริ นักสิทธิมนุษยชน นายวิศรุต ทิพย์โสดา นักวิชาการแรงงาน สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน นายวิโรจน์ ณ ระนอง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ฯลฯ

*เชื่อหลังเลือกตั้งกัมพูชาคุยง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจา 2 ฝ่าย เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่ไม่บรรลุข้อตกลง ฝ่ายไทยเองก็เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งในกัมพูชาที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม นี้ ที่คาดหมายกันว่า พรรคประชาชนแห่งกัมพูชา (ซีพีพี) ของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน จะเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมากนั้น การเจรจาตกลงต่างๆ จะง่ายขึ้น

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของหลายฝ่ายให้รีบแต่งตั้ง รมว.ต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ว่า จะให้เร่งตั้งเลยคงประดักประเดิดไปเพราะต้องพาเข้าเฝ้าฯ ก่อน ซึ่งอีก 4-5 วัน ก็จะถึงวันที่ 28 กรกฎาคม ก็จะมีการแต่งตั้งแล้ว ตอนนี้เตรียมไว้เสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้มันควรจะเร่งตั้งหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ใครจะเร่งไปข้างเดียวก็ช่าง ตนไม่จำเป็นต้องไปเล่นตาม ทั้งหมดตนได้ชั่งน้ำหนักดูแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้

เมื่อถามว่าหลังจากที่กัมพูชามีการเลือกตั้งแล้วคิดว่าท่าทีจะเปลี่ยนไปหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า คิดว่าจะเบาบางลง และได้บอกไปแล้วว่าหลังการเลือกตั้งแล้วก็คงจะได้พูดกันง่ายขึ้น ตอนนี้ก็ปล่อยให้เขาแสดงไป ไม่มีอะไรเสียหาย เขาต้องการ เพียงแต่ว่าเขาจะเลือกตั้งในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าไทยจะรักษาดินแดนเอาไว้ได้ โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อนจะไม่ตกเป็นของกัมพูชา นายสมัคร กล่าวว่า ไม่มี ต้องมั่นใจ 100 % ในเรื่องพรรค์นี้ และการที่ไทยไม่พูดก็ถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน