เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่นายกฯ ระบุว่าจะเปิดรายการตอบโต้เอเอสทีวีทุกวันในเวลา 22.00 น. ผ่านสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีว่า รูปแบบรายการดังกล่าวจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงที่กลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหารัฐบาลผ่านสถานีเอเอสทีวีตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ประชาชนบริโภคอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นทีมโฆษกรัฐบาลและคณะทำงานของนายกฯ จึงหารือกันว่าควรจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ในสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯพูดแบบวันต่อวัน ซึ่งรูปแบบรายการจะมีทีมโฆษกรัฐบาล 4 คนเป็นผู้ดำเนินรายการ ชี้แจงสิ่งที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหาให้ประชาชนรับทราบความจริง โดยจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องในการถูกกล่าวหามาร่วมออกรายการด้วย เพื่อให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เรียกว่ากลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหามาอย่างไรก็จะชี้แจงกลับทันที แบบวันต่อวัน และขณะนี้ทีมโฆษกรัฐบาลกำลังหารือกันว่าจะใช้ชื่อรายการอย่างไร คาดว่าจะได้ข้อสรุปในวันที่ 21 ก.ค. โดยจะมีการออกอากาศทุกวัน เวลา 22.00-23.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เริ่มออกอากาศครั้งแรกวันที่ 21 ก.ค. บิ๊กเอ็นบีทีขานรับจัดเวลาให้เสียบ ด้านนายสุริยงค์ หุณฑสาร รักษาการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอการประสานงานจากทีมงานโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับรายการดังกล่าว เพราะไม่เคยได้รับการประสานงานมาก่อน เพิ่งทราบตอนที่นายกฯพูดในรายการสนทนาประสาสมัครทางสถานีพร้อมดำเนินการตามนโยบาย สำหรับช่วงเวลาดังกล่าวนั้นตามผังรายการเดิมเป็นรายการ “ข่าวหน้า 4” หนุ่มบุกชกนักบวชสันติอโศก ด้านบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักปิดถนนราชดำเนิน ตั้งเวทีอยู่ที่สะพานมัฆวานฯ ในเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ก.ค. นายธวัลรัตน์ รวยเกียรติรชตะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/102 ม.9 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ชุติพงษ์ ตะกรุดทอง พงส. (สบ2) สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความว่าถูกกลุ่ม รปภ.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บเป็นรอยฟกช้ำที่บริเวณไหล่ขวา โดยนายธวัลรัตน์ กล่าวว่า ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับชายอยู่ที่ร้านแร็บบิท ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมสยามเบเวอรี่ ย่านรัชดา หลังเลิกงานเดินทางมาสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเคยมา 2-3 ครั้งแล้ว ช่วงที่อยู่ที่หน้าเต็นท์ของกองทัพธรรม ตนมองแล้วคิดว่าการมาชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้ นอกจากนี้ยังทำให้การจราจรติดขัด รู้สึกรำคาญใจจึงได้เข้าไปสอบถามชายที่แต่งกายคล้ายนักบวชว่า แต่งกายแบบนี้ศาสนาอะไร ชายคนดังกล่าวตอบว่า ศาสนาพุทธ จึงถามต่อไปว่า ศาสนาพุทธมีจีวรสีนี้ด้วยหรือ นักบวชคนเดิมตอบว่า มีเพราะไม่ใช่สีต้องห้าม สีต้องห้ามตามหลักศาสนาพุทธมี 7 สี ตนถามว่าสีต้องห้าม 7 สี นั้นบัญญัติไว้ที่ไหน นักบวชคนดังกล่าวตอบว่า อยู่ในพระไตรปิฎก อยู่ที่วัด ด้วยความโมโหจึงต่อยนักบวชคนนั้นเข้าที่โหนกแก้มซ้าย 1 ที หลังจากนั้น รปภ.ของกลุ่มพันธมิตรฯ นับสิบคน ได้คว้าไม้พลองกรูเข้ามารุมทำร้าย ตนพยายามวิ่งหนี แต่ไม่วายถูกตีเข้าที่บริเวณไหล่ขวาได้รับบาดเจ็บ
อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ