แม้ผลการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. จะไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ผลจาก Exit Poll ก็คงไม่ผิดเพี้ยนไปมากนัก ก็คงประเมินได้แล้วว่า คุณอภิรักษ์ เกษะโยธิน จะได้เป็นผู้ว่า กทม. สมัยที่สอง
ก็ยอมรับก็แล้วกันครับ ว่าคุณอภิรักษ์ ได้เสียงสนับสนุนอย่างขาวสะอาดจากคน กทม. และผมไม่คิดว่า พรรคพลังประชาชน จะไปดำเนินการอย่างให้ใหุ้คุณอภิรักษ์ต้องได้ใบแดง เพราะมันไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด เพราะ "เสียงที่ลงคะแนนให้คุณอภิรักษ์กว่า 50%" มันฟ้องว่า คนส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ เขาต้องการอย่างนี้ เมื่อเสียงของประชาชนต้องการอย่างนี้เราก็ควรให้ความเคารพ และยอมรับแต่โดยดี
ประชาธิปไตยก็สวยงามอย่างนี้แหละครับ หากเรายอมรับการตัดสินของประชาชน
ไม่ต้องไปด่าว่าประชาชนเขาโดนซิ้อ เขาโดนหลอก ประชาชน เขาย่อมมีวิจารณญาณ ของตนเอง เมื่อเขาต้องการอย่างนี้ มันก็ต้องเป็นอย่างนี้
ดังนั้น นักประชาธิปไตยทั้งหลายควรยอมรับ และแสดงความยินดีกับคุณอภิรักษ์ ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม. สมัยที่สองอย่างจริงใจ
และผมหวังว่า "พวกอันธพาล" ทางการเมืองอย่าง ม็อบพันธมิตร หรือแม้แต่คนชั้นกลางทั้งหลาย รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ควรรู้จักค่านิยมของการยอมรับเสียงข้างมากนะครับ แม้ว่ามันไม่ตรงกับใจเรา บ้านเมืองวุ่นวายมาสามปีนี้ เพราะการไม่ยอมรับเสียงข้างมากนี่แหละ และพยายามกล่าวหาว่าเสียงข้างมาก โง่อย่างโน้น โง่อย่างนี้ โดนหลอกอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วพาลจะเอาระบบแต่งตั้งขึ้นมาแทน เพี้ยนกันได้ถึงขนาดนี้ สำหรับประเทศไทยในยุคนี้
หากยอมรับเสียอย่างนี้ ยอมรับเสียงข้างมาก บ้านเมืองมันก็สงบ
อีกสี่ปีก็มีการเลือกตั้งใหม่ สู้ไม่ได้วันนี้ ก็กลับไปประเมิน วิเคราะห์ืว่าแพ้เพราะอะไร แล้วจะได้แก้ไข หรือเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้กับประชาชน ประชาธิปไตย ไม่ได้ยอมให้ใคร ดำรงตำแหน่งไปจนตาย หรือ "สืบสกุลในตำแหน่ง สส." หรือ ตำแหน่งนายกฯ ตำแหน่งผู้ว่าฯ ไปจนตาย
ประชาธิปไตยมีเทอมของมัน และเมื่อประชาชนตัดสินแล้วก็ต้องยอมรับ
และผมขอแสดงความยินดีกับคุณอภิรักษ์ ด้วยใจจริงที่ได้่ชนะเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งนะครับ
การเป็นผู้แทนของปวงชน มันสง่างา่มอย่างนี้แหละครับ เมื่อประชาชนอยู่้ข้างเรา เลือกเรา ให้ความนับถือเรา ใครก็ทำอะไรเราไมไ่ด้ครับ
สำหรับพรรคพลังประชาชน การพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด ผมไม่คิดว่าคนของพรรคพลังประชาชน จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่แล้ว แม้แต่ช่วงทักษิณเป็นนายกฯ กระแสพรรคไทยรักไทย ทั่วประเทศมาแรงที่สุด สส. ไทยรักไทย ใน กทม.กว่า 30 คน แต่ตำแหน่งผู้ว่า กทม. พรรครัฐบาลก็ไม่เคยชนะสักที
คนกรุงเทพฯ ชอบเลือก ฝ่ายค้านหรือ ผู้สมัครอิสระเป็นผู้ว่า ว่างั้นเถอะ
แต่ที่ผมแปลกใจคือ ผมคิดว่า คุณประภัสร์ จงสงวน จะมาที่สามหรือที่ 4 ด้วยซ้ำ เพราะออกตัวช้า และหาเสียงเบาเหลือเกิน ช่วงแรกดูเหมือนว่า ดร.เกรียงศักดิ์ และ ชูวิทย์ จะออกตัวแรงกว่าด้วยซ้ำไป
คุณประภัสร์ เพิ่งมาออกตัวช่วงท้ายๆ ด้วยกระแสพรรคนี่เอง แทบจะเป็นสัปดาห์สุดท้ายเลยด้วยซ้ำ และได้ที่สอง ผมถือว่า กระแสพรรคพลังประชาชนในกรุงเทพฯ ไม่ได้ตกลงแต่อย่างใด
ครั้งนี้ยืนยันถึงกระแสพรรคอย่างแท้จริง หากได้ 600,000 คะแนนขึ้นไป ถือว่าฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน ใน กทม. ยังไม่ได้อ่อนลงไปมากแต่อย่างใด
ถือว่า การต่อสู้ครั้งนี้พรรคไม่พร้อมด้วยซ้ำไป มารณรงค์กันทางอินเตอร์เน็ตไม่เท่าไหร่ รวมทั้งติดป้ายทั่ว กทม.ไม่มากนัก
ที่แรกคาดว่ากระแสชูวิทย์มาแรง ได้ที่สอง แต่จากที่ดูโพล ก็ยังไม่แรงเท่าไหร่ ได้เสียงเท่าเดิม คือประมาณ 300,000 คะแนน ซึ่งเป็นฐานเดิมของชูวิทย์ ที่อยู่ประมาณนี้
ส่วน ดร.แดน ถือว่าทำได้ดีพอสมควรทีเดียว
แต่เมื่อประชาชนเขาตัดสินแล้ว ก็ถือว่า ต้องเป็นไปตาม “มติของประชาชน” แหละครับ
จาก thaifreesnews