คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
เกียรติตำรวจของไทย เกียรติวินัยกล้าหาญมั่นคง
ต่างซื่อตรง พิทักษ์สันติราษฎร์นั้น
ถึงตัวจะตายก็ช่างมัน มิเคยคำนึงถึงชีวัน
เข้าประจันเหล่าร้าย เพื่อประชา
ไม่ยอมเป็นมิตร ผู้ผิดกฎหมาย
ปราบโจรผู้ร้าย กล้าตายเรื่อยมา
เนื้อของเราเราเชือด พร้อมทั้งเลือดเราพลี
เอาชีวีของเราเข้าแลกมา เพื่อให้ประชาดำรง...สุขสถาพรชัย
เกิดมาแล้วต้องตาย ชาติชายเราไว้ลายตำรวจไทย
ช่วยประชาไม่ว่าหนไหน เป็นมิตรด้วยดวงจิตสดใส... เราอยู่ไหนประชาอุ่นใจทั่วกัน
ปราบภัยและผองพาลให้เข็ดขาม เราปราบปรามเสริมความสุขสันต์เหล็กที่แกร่งกล้านั้นเราฝึกกายาทุกวัน แข็งกว่าเหล็กนั้น ตำรวจไทย มาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์ ทำนองประพันธ์โดย นารถ ถาวรบุตร เนื้อร้องโดย แก้ว อัจฉริยะกุล แต่งขึ้นก่อนปี พ.ศ.2500
ครูนารถ ถาวรบุตร แต่งเพลงนี้ขึ้นโดยคำสั่งของ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น โดยมีเงื่อนไขว่า จะแพ้เพลงมาร์ชกองทัพบกไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่งท่านก็สามารถแต่งสำเร็จได้ในเวลาไม่นานนัก
พล.ต.อ.เผ่า ประทับใจกับผลงานชิ้นนี้มาก โดยเฉพาะเนื้อร้องในท่อน "เกิดมาแล้วต้องตาย? ?ชาติชายเราไว้ลายตำรวจไทย..." ถึงกับมอบรางวัลให้ครูนารถเป็นเงินปึกหนึ่ง
วันนี้ ตำรวจได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง ในการใช้ความเข้มแข็ง กล้าหาญ เข้าทำการจับกุม 2 ใน 9 แกนนำกบฏคนสำคัญ ที่ยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง และทำเนียบรัฐบาล หลายวันมาแล้ว สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คน
การตัดสินใจปฏิบัติการเข้าจู่โจม จับกุมในครั้งนี้ ไม่มีการเสียเลือดเนื้อชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น มีกระแสเสียงวิจารณ์
บ้างก็ว่า เป็นการทำลายนโยบายความสมานฉันท์
บ้างก็ว่า เป็นการเตะตัดขารองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง
บ้างก็ว่า เป็นการทดสอบกระแส
บ้างก็ว่า ซูเอี๋ยกัน แกล้งให้จับ
แต่...การที่ตำรวจตัดสินใจดำเนินการใช้ความเด็ดขาดในเรื่องเสียทีหนึ่ง เป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสม และสมควรจะกระทำเป็นอย่างยิ่ง วัน เวลา เหมาะสม สถานการณ์สุกงอม เพราะจะไปเจรจาความกับผู้ร้าย อาชญากร คงไม่ได้
งานนี้ “ทหาร” ที่ว่าแน่ๆ มีสรรพกำลัง อาวุธ ยังต้องถอยร่นไม่เป็นกระบวนท่า ช่วงการประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตัดสินในชาร์จ 2 ใน 9 แกนนำ ถือว่าเป็น ผลงานชิ้นโบแดงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทีเดียว สมแล้วดังคำสร้อยของเพลงที่ว่า...
“ไม่ยอมเป็นมิตร ผู้ผิดกฎหมาย
ปราบโจรผู้ร้าย กล้าตายเรื่อยมา
เนื้อของเราเราเชือด พร้อมทั้งเลือดเราพลี
เอาชีวีของเราเข้าแลกมา เพื่อให้ประชาดำรง...สุขสถาพรชัย”