ร้องเรียนกันสนั่นเว็บไซต์ ระบุช่อง 9 อสมท. ทำแปลก ปล่อยเทปหาเสียง “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” 6 นาทีเต็ม ช่วงเช้ามืดวันเลือกตั้ง ส่อเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กกต.กทม.เด้งรับ ทราบเรื่องแล้วรอการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมดำเนินการสอบสวนทันที ขณะที่ “ชูวิทย์” ขอทำงานตรวจสอบโครงการฉาวของ กทม.ต่อไป ด้าน กกต. ระบุรับรองผลได้ภายใน 7 วัน
แม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ในภาพรวมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็ตามที แต่กลับปรากฏว่าบนเว็บไซต์หลายแห่งได้มีการตั้งกระทู้และโพสต์ข้อความ เรื่องราวที่ส่อว่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และอาจนำไปสู่การแจกใบเหลือง หรือใบแดง ให้กับ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน โดยระบุว่าในเวลาประมาณ 03.15 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ช่อง อสมท. ได้มีการนำเอาเทปสัมภาษณ์หาเสียงมาออกอากาศยางถึง 6 นาที โดยไม่มีผู้สมัครรายอื่นได้ออกอากาศด้วยเลย
แฉคาเว็บ “อภิรักษ์” ออกทีวีผิดเวลา
บนเวบไซต์ชื่อดังอย่างพันทิป ในห้องราชดำเนิน ซึ่งเป็นเรื่องราวทางการเมือง http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7065245/P7065245.html มีการตั้งกระทู้ไว้ว่า “เมื่อคืนตอนตี 3.15 ช่อง 9 ลักไก่เอาเทปรายการสัมภาษณ์ ปิลัก มาออกอากาศ.ผิดกม.เลือกตั้งเต็มๆ “ พร้อมกับข้อความว่า “บังเอิญเมื่อคืนต้องนอนดึกต้องเคลียร์งานเลยเปิดทีวีไว้เป็นเพื่อน โดยเปิดช่อง 9 ทิ้งไว้
ตอนตี 3.15 เป็นรายการนำเทปที่ออกอากาศไปแล้วมาฉายซ้ำชื่อรายการ น้ำใจคนไทย(ประมาณนี้) พิธีกรก็มี อ.วันชัย และคณะ (จำชื่อไม่ได้) เริ่มต้นก็แนะนำว่าวันนี้จะมีนักการเมืองรูปหล่อ ที่โดนซัดซะน่วมมาร่วมรายการด้วย เขาผู้นั้นคือนายอภิรักษ์ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้
นายปิลักก็เดินมาเข้ากล้อง โดยพิธีกรตั้งกติกาว่าให้แถลงนโยบาย3นาที และให้ตอบคำถามรวมๆ 9 ข้อที่ทางรายการตั้งเอาไว้ภายใน3นาที
ตอนแรกผมคิดว่าการตั้งเวลาคงจะต้องเชิญคนอื่นๆมาด้วย(ในเทปนั้น) นั่งดูนายปิลักพูดอยู่6 นาทีเต็ม แต่ไม่เห็นมีคนอื่นๆออกมาเลย พิธีกรก็ตัดไปช่วงอื่นๆของรายการ
กม.เลือกตั้งกำหนดไว้ว่าหลังในวันเลือกตั้งห้ามหาเสียงและอื่นๆ ที่จะเป็นการชี้นำ(ประมาณนี้) ตอนตี3.15ของเช้าวันที่ 5 นะครับ ที่รายการนี้ออกอากาศ ผิด กม.ชัดเจนโดยเฉพาะคนนำมาออกอากาศ จะว่ารายการนี้ไม่รู้กม.ก็ไม่ใช่แน่นอน เพราะพิธีกรรายการนี้คือทนายความชื่อดัง ที่จัดรายการสอน กม.แทบทุกช่องทุกวัน
กกต.ถ้าเป็นกลางจริงตรวจสอบด้วยนะ หรือว่า เจอพรรคนี้แล้วหูหนวก/ตาบอดครับ
ขณะเดียวกันก็มีการโพสต์ข้อความไว้มากมาย โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นการจงใจสร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้ง
กกต.กทม.พร้อมรับลูกสอบ “หล่อเล็ก”
กรณีดังกล่าว นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธาน กกต.กทม. กล่าวถึงกรณีการแพร่ภาพสัมภาษณ์นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้มีบุคคลโทร.เข้ามาแจ้งแล้วสำหรับเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนได้ขอร้องให้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ได้รู้รายละเอียดว่าเกิดเมื่อใด ที่ไหน ใครกับใคร และใครเป็นผู้ร้องเรียน จะได้มีต้นเรื่อง หากไม่รู้รายละเอียดที่แน่ชัดก็ไม่สามารถส่งเข้าฝ่ายสืบสวนสอบสวนดำเนินการได้ จึงอยากขอให้แจ้งเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อที่จะสามารถส่งให้คณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้
ทั้งนี้จึงอยากขอร้องไปยังผู้ที่ได้รับชมรายการดังกล่าวเขียนรายละเอียดเข้ามายื่นที่ กกต.กทม. เนื่องจากตนไม่ได้ชมรายการดังกล่าวจึงไม่สามารถตัดสินได้ อีกทั้งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลถึงนายอภิรักษ์ หรือไม่ เนื่องจากยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งทาง กกต.กทม.ก็ให้ความเป็นกลางกับทุกฝ่าย
ประธานกกต.กทม. กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องกติกาการแพร่ภาพออกอากาศของสื่อห้ามเผยแพร่ภาพ เวลา 18.00 น.ของวันที่ 4 ตุลาคม – 18.00 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม หากใครดำเนินการในช่วงเวลาดังกล่าวตามกติกากฎหมายแล้วถือว่าเป็นความผิด เนื่องจากเป็นการหาเสียงในช่วงระยะเวลาต้องห้าม
ส่วนกรณีป้ายโฆษณาแฝงของนายอภิรักษ์ กกต.กทม.ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการของทาง กกต. อีกทั้งประชาชนเองก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นกัน ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าวันจันทร์จะเสร็จทันหรือไม่
“ชูวิทย์” กัดไม่ปล่อยโปรเจกต์ฉาว
ส่วนทางด้านผลการเลือกตั้งนั้น หลังจากรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กล่าวขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ให้กำลังใจหลังรู้ผลเอ็กซิทโพล ว่า ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 3 โดย ยืนยันว่า จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นครั้งที่ 3 แต่จะไปเล่นการเมืองระดับประเทศ โดยขณะนี้ได้ตั้งพรรคการเมืองพรรคสู้เพื่อไทยไว้รองรับแล้วและตนเองก็เป็นหัวหน้าพรรค และได้ใช้รูปกำปั้นเป็นรูปโลโก้ของพรรค
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวฝากถึง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ให้ทำงานให้หนักขึ้น เพราะ 4 ปีที่ผ่านมามีผลงานไม่มาก ส่วนตนเองจะเดินหน้าตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อเป็นของขวัญให้กับคนไทย โดยจะเริ่มการตรวจสอบที่โครงการรถดับเพลิงและโครงการรถบีอาร์ที
“ประภัสร์” ควงลูก-เมียหย่อนบัตร
ส่วนระหว่างวันของผู้สมัครแต่ละคนนั้น เมื่อเวลา 09.20 น. นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อม นางดารณี น.ส.นภัสนันท์ จงสงวน ภรรยาและบุตรสาว เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 13 เขตสาทร ถนนจันทร์ 24 ซึ่งทั้ง 3 คน พร้อมใจกันสวมเสื้อสีส้มเดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
โดยนายประภัสร์ กล่าวว่า วันนี้ตื่นนอนเวลา 07.00 น. ถือว่า ได้พักผ่อนเต็มที่ หลังออกหาเสียงตลอดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ส่วนการเลือกตั้งมั่นใจการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเคารพการตัดสินใจของประชาชน ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเพื่อนและบุตรสาวอีกคนที่ศึกษาอยู่ที่อังกฤษ โทรศัพท์มาให้กำลังใจ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ระหว่างหาเสียงได้เข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง นายสมัคร ได้ให้กำลังใจ และในวันนี้หลังใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ตนและครอบครัวรวมทั้งบิดา มารดา จะร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน เนื่องจากปกติในวันหยุดจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอยู่แล้ว แต่ช่วงหาเสียงไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน จากนั้นจะไปดูภาพยนตร์ และเวลา 15.00 น. จะเดินทางไปที่พรรคพลังประชาชน (พปช.) เพื่อรอลุ้นผลคะแนน
“ชูวิทย์” ขอโทษและขอบคุณคนกทม.
ด้านนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมภรรยา เดินทางใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 ภายในสวนเบญจสิริ เขตคลองเตย ด้วยสีหน้าที่แจ่มใส โดยกล่าวว่า หลังใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วจะพักผ่อนกับครอบครัวไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ จ.นนทบุรี จากนั้นช่วงบ่ายจะเข้าไปยังพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางทำบุญตักบาตรที่วัดเบญจมบพิตรในช่วงเช้า ก่อนจะไปไหว้ศาลเจ้ามารดาที่โรงแรมเดอะเดวิส ถนนสุขุมวิท 24 โดยกล่าวว่า ได้ขอพรจากแม่ให้ดลใจคนกรุงเทพเลือกตนเข้ามาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ตนเป็นลูกคนสุดท้องที่ใกล้ชิดผูกพันกับแม่มาก พร้อมโชว์พระนารายณ์ทรงครุฑที่พกติดตัวไว้ ซึ่งได้มาจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และไปลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 84 แขวงและเขตดินแดง
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า ต้องขอโทษสื่อสำหรับการกระทำที่ผ่านมา และขอบคุณที่ได้ติดตามทำข่าวมาโดยตลอดช่วงหาเสียง โดยหลังปิดหีบ คน กทม.จะทราบผลคะแนนที่น่าจะไม่แตกต่างกันทั้ง 50 เขต เพราะคน กทม.เลือกตั้งด้วยกระแส ซึ่งระหว่างก่อนเวลา 15.00 น. ตนจะใช้เวลาทำภารกิจส่วนตัวกับครอบครัว เพราะไม่ได้พบหน้าลูกมานาน
“ดร.แดน”ขอทำงานเพื่อปชช.ต่อไป
นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางออกจากบ้านย่านถนนนางลิ้นจี่ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ 115 หน้าตลาดมหาสิน แขวงและเขตบางนา เมื่อเวลา 09.09 น.
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ประทับใจในสิ่งที่ได้รับจากการตอบสนองของประชาชนระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่ตนจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต จากนี้ไปไม่ว่าผลเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร จะตั้งใจทำงานการเมืองต่อเพราะได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตทำประโยชน์ให้แก่ประชาชน ส่วนจะเล่นการเมืองระดับชาติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคต โดยพร้อมจะร่วมงานกับพรรคการเมืองที่มีแนวคิดทำประโยชน์ให้ประชาชน แต่ไม่ยึดติดว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด
ขณะที่นางลีนา จังจรรจา ผู้สมัครหมายเลข 7 ได้เดินทางไปไหว้ศาลหลักเมืองตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นเดินทางไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมบุตรชายทั้ง 2 คน คือ นายวิชชุ และ นายวินัย แสงพรศรีอรุณ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงเรียนสยามธุรกิจพาณิชยการ หน่วยเลือกตั้งที่ 5 แขวงพญาไท เขตราชเทวี พร้อมกล่าวว่า หลังจากใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว ตนจะเก็บตัว และช่วงเวลาหลังปิดหีบจะเดินทางไปรอลุ้นผลการนับคะแนน ที่ศาลาว่าการ กทม. อีกครั้ง เพื่อต้องการให้แน่ใจว่าการนับคะแนนเป็นไปด้วยความโปร่งใส
ปธ.กกต.ยันรับรองผลผู้ว่าฯใน7วัน
ด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.ได้รับเรื่องการทุจริตเลือกตั้งแล้ว 2 เรื่อง คือ เรื่องป้ายหาเสียงเลือกตั้ง และการแจกไว-ไฟ ส่วนอีก 1 เรื่อง อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเข้าข่ายทุจริตการเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งการทุจริตเลือกตั้งในปีนี้ถือว่าน้อยกว่าการเลือกตั้งในปี 2547 จึงถือเป็นเรื่องที่ดี
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ได้ก่อนเวลา 24.00 น. และมั่นใจว่าจะสามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ผู้ที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.คงจะต้องเจอกับงานหนัก เพราะมีปัญหาความเดือดร้อนที่ต้องได้รับการแก้ไขอยู่มาก ดังนั้น หากได้รับเลือกเข้ามาก็จะต้องคำนึงถึงนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนที่ต้องปฏิบัติตามด้วย เพราะหากไม่ปฏิบัติตามก็เท่ากับผิดคำพูด และอาจนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมพบว่าบางหน่วยเลือกตั้งมีการทำเอ็กซิทโพลในลักษณะสอบถามประชาชนก่อนลงคะแนน ซึ่งอาจเข้าข่ายหาเสียงได้ จึงกำชับผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้ง ดูแลและเตือนสำนักโพลต่างๆ