แฉ! ขบวนการโค่นรัฐบาล สุดอำมหิตใช้ประชาชนเป็นเหยื่อการเมือง สร้างสถานการณ์ทำลายกันเองโยนผิดให้รัฐบาล ปชป.หางโผล่ แถลงข่าวประณามรัฐบาลรับลูกพันธมิตรฯ อย่างกับพิมพ์เดียวกัน ร้องผบ.ตร. เอาผิด "สมชาย" ด้าน “หมอประเวศ” รับลูกกบฎเชิญชวนทหารออกมาปฏิวัติตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มกบฏพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมด้านหน้าอาคารรัฐสภา และด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่พบว่ามีการสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 เพื่อหวังให้เหตุกาณ์รุนแรง และพบมีการเชื่อมโยงเป็นกระบวน นั้น
ปชป. สบชองรีบถล่มรัฐบาล
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อเถลงนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ปรากฎภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อรัฐสภาเป็นอย่างยิ่งองค์ประกอบของสมาชิกในรัฐสภาไม่มีสมาชิกพรรคฝ่ายค้านและวุฒิสมาชิกบางส่วน จึงเปรียบเสมือนเป็นสภาเถื่อนมีการอภิปรายใส่ร้ายสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่เพียงฝ่ายเดียว
ด้าน นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ส.ส.ของพรรค เข้ายื่นเรื่องกล่าวโทษนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรี กับพวก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 84 157 295 297 288 และ 289 หลังสั่งการให้ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งทางตำรวจต้องรับเรื่องไว้พิจารณาภายใน 1 เดือน ก่อนส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ดำเนินการ
ส.ว.ลากตั้งออกแถลงการณ์
ขณะที่ กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดย พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.ได้ออกแถลงการณ์กลุ่มส.ว. ฉบับที่ 3 ซึ่งมีข้อเรียกร้อง 6 ข้อ คือ
1.ขอแสดงความเสียใจและห่วงใยต่อญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกคน ทุกฝ่าย และเห็นว่ารัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขควรดูแลรับผิดชอบและเยียวยาทุกคนทุกฝ่าย ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว
2.เพื่อคลายความกังวลของสังคมเราเห็นว่า ตชด.ที่มีความคุ้นเคยต่อการปฏิบัติการรับในชายแดนต้องออกจากพื้นที่กทม.ในทันที
3.รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตและเลือดเนื้อของทุกคนทุกฝ่าย ด้วยการสอบสวนเอาผิดกับผู้สั่งการที่ละเมิดวิธีปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างไร้มนุษยธรรม และรัฐบาลต้องยุติปฏิบัติการความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยทันที
4.จะประเมินเหตุการณ์ทั้งหมดและหลักฐานทั้งภาพ เสียง วีดิทัศน์ และเอกสารต่อคณะสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ต่อ Human Right Watch ต่อสถานเอกอัครราชทูตแห่งประเทศไทยเพื่อให้เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง
5.จะตั้งกระทู้ด่วนต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้นายกฯมาตอบคำถามต่อที่ประชุมวุฒิสภาให้ชี้แจงแสดงเหตุผลว่าใครเป็นคนสั่ง ใครเป็นผู้ปฏิบัติต้องการให้เกิดผลอะไร และรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร
และ
6.คณะกรรมาธิการหลายคณะของวุฒิสภาจะตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติการใช้ความรุนแรงเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกมาร่วมด้วย
“หมอประเวศ” เชิญทหารปฏิวัติ
น.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวว่า การสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตและ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารงานของประเทศ ควรที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ พร้อมกันนี้ ได้เสนอให้มีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาแก้ไขวิกฤต โดยใช้กระบวนการคัดสรรของรัฐสภา รวมถึงผลักดันให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขณะเดียวกันเห็นว่า นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ควรที่จะเข้ามาเป็นคนกลางในการเจรจากับพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม ราษฎรอาวุโส กล่าวด้วยว่า หากสถานการณ์ยังไม่ยุติ สมควรให้ทหารออกมาเป็นคนกลางในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อป้องกันการปะทะกันของทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมกันนี้ ยังเห็นว่าทุกฝ่ายควรที่จะแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาความรู้สึก โดยถือเอาวิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นโอกาสในการพัฒนาการเมืองให้ดีขึ้น
ชมรม ส.ส.ร.50รับลูกจี้ลาออก
ขณะที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานชมรม ส.ส.ร.50 ได้ออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์การสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีเนื้อหาว่า สถานการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการทำหน้าที่ของรัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศ และฝ่ายนิติบัญญัติที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีความสามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้ หากยังฝืนจะรั้งอยู่ต่อรัฐบาลก็ไม่สามารถบริหารประเทศได้ เพราะไม่เห็นทางที่จะคลี่คลายหรือกลับคืนสู่สภาวะปกติได้
นายเสรี กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุติการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยวิธีความรุนแรง พร้อมให้มีการเยียวยารับผิดชอบต่อคนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของทุกฝ่ายอย่างทันทีทันใด และเมื่อรัฐบาลไม่สามารถบริหารบ้านเมืองต่อไปได้ จึงไม่มีประโยชน์ในการอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคืนอำนาจให้แก่ประชาชนอันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว
ประธานวุฒิฯ หนุน “ประเวศ”
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยน.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภา ได้แถลงเพื่อแสดงจุดยืนถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ตนในนามของวุฒิสภา และส.ว.ทุกท่านจึงมีความเห็นดังนี้
1.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอเป็นกำลังใจให้ผู้บาดเจ็บทุกคนหายเป็นปกติโดยเร็ว
2.ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน โดยการประนีประนอม เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมก่อนที่จะสังคมจะแตกแยกกันไปมากกว่านี้
3.ได้ตระหนักดีว่าการควบคุมประชาชนจำนวนมากนั้นไม่ง่าย แต่การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เพราะมีแต่ความสูญเสีย ความแตกแยกจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น การสร้างความสมานฉันท์อย่างที่ทุกคนมุ่งหวังจะยากลำบากขึ้น จึงเห็นว่ามาถึงจุดนี้แล้วการเยียวยาน่าจะเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการทั้งต่อผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่อาจพิการให้อนาคต
ต่อข้อถามว่าถึงเวลาที่รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือยัง นายประสพสุข กล่าวว่า จะบอกว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล และสภา วุฒิสภาไปก้าวล่วงไม่ได้ ทางออกต้องทำให้นุ่มนวล เหมาะสม ทุกฝ่ายยอมรับได้ อย่างน้อยที่สุดต้องเจรจากัน ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยังมีอยู่ อย่าทิ้งเรื่องการเจรจา ไม่อย่างนั้นก็คงจบด้วยดีไม่ได้ ถึงแม้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯจะลาออกไป ก็หาคนใหม่ ซึ่งสื่อก็คงทราบดีว่าใครที่เป็นกลางและสังคมที่เชื่อ เมื่อถามต่อว่าผู้ใหญ่อย่างนพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโสก็ออกมาปฎิเสธ นายประสพสุข กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่านพ.ประเวศยังคงเหมาะสมที่เป็นผู้ใหญ่ในการเจรจากับทุกฝ่าย และไม่คิดว่าท่านจะปฎิเสธเด็ดขาด
"ณัฐวุฒิ"ยันรัฐบาลทำตามกม.
นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า เรื่องนี้ขอเรียนประชาชนว่าทางรัฐบาล นายกฯ มีความรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความเจ็บปวดของทุกคน รัฐบาลไม่อยากให้เกิดความรุนแรง รัฐบาลยืนยันได้ว่าไม่ต้องการใช้กำลังสลายกำลัง ซึ่งเป็นการสานต่อจากนโยบายชุดที่ผ่านมา ว่าไม่ต้องการใช้ความรุนแรงสลายม๊อบ เพราะหากมีความต้องการใช้กำลังก็สามารถทำได้สะดวก ไม่ต้องมาใช้ช่วงชุลมุนเช่นนี้
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมและบรรยากาศความคึกคักของที่ชุมนุมในทำเนียบถอยลงไปมาก หากต้องการใช้กำลังก็สามารถดำเนินการได้สะดวกมากกว่าในวันที่กลุ่มแกนนำประกาศว่าเป็นสงครามครั้งสุดท้ายก็ตาม ดังนั้นการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่ในความต้องการของการใช้กำลังสลายแต่เพียงต้องการเปิดทางเข้าได้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้นเพื่อให้ส.ส.และส.ว.เข้าร่วมประชุมแถลงนโยบายได้ให้สำเร็จลุล่วง มีการตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลต้องแถลงอย่างเร่งด่วนและนำไปสู่การกระทบกระทั่งในที่สุด
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การแถลงของรัฐบาลเป็นไปตามรธน.น170 ซึ่งจากกรณีนี้วันสุดท้ายจะตรงวันที่ 9 ต.ค. แต่รัฐบาลได้นัดหมายไว้แล้วจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามนั้นและคาดหวังว่าสามารถเปิดช่องเข้าสภาฯได้และสามารถแถลงได้อย่างลุล่วงจะเห็นว่าตลอดระยะเวลาทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทำให้พันธมิตรฯนำกำลังเข้ามายึดได้ ขอยืนยันและทำความเข้าใจตรงกัน เพราะหากรัฐบาลไม่สามารถแถลงได้ การดำเนินการด้านนโยบายที่จะผลักดันงบฯไปสู่ประชาชนไม่ได้ ผลกระทบก็จะตกกับประชาชนทั่วประเทศ
พธม. ชี้ทำร้ายตำรวจเรื่องเล็ก
ขณะที่ นายพิภพ ธงไชย และ นายสมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าว โดยยืนยันว่า ขณะนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะไม่มีการเจรจากับรัฐบาล หรือตัวแทนของรัฐบาลอีกต่อไป เนื่องจาก เหตุการณ์ปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่รัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ชี้ให้เห็๋นว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชนในการสลายการชุมนุม จึงหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศอย่างสินเชิง พร้อมทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังไม่ได้มีกล่าวแสดงความเสียใจ ต่อกรณีดังกล่าวต่อสาธารณชน ถือว่าขาดจริยธรรมและคุณธรรม
ทั้งนี้นายพิภพ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯจะตั้งคณะกรรมการ ญาติวีรชน 7 ตุลาเพื่อเผยข้อเท็จจริงกรณีที่ตำรวจใช้ความรุนแรงต่อประชาชนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมกับเรียกร้องให้ทางกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ คณะกรรมาธิการสมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน ทำการตั้งคณะกรรมการกลาง ทำการสอบสวนในข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อสรุปต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อจะทำการรสบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายประชาน และผู้สังการที่เกี่ยวข้องมาลงโทษทางกฎหมายให้ได้