กรณีที่องค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้หนังสือออกแถลงการณ์มา 2 ฉบับ โดยมีความหมายที่การขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างฉบับแรกและฉบับที่สอง ซึ่งหนังสือแถลงการณ์ฉบับแรกมีความหมายประณามความรุนแรงของตำรวจในการเข้าปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข้ปัญหาอย่างสันติและรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนอีกฉบับระบุว่าแถลงการณ์ฉบับแรก ไม่ได้ผ่านมติกรรมการการบริหารฯ และขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุและให้ตรวจสอบการใช้กำลังของกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมกับเรียกร้องให้ พธม. ยุติการล้อมสภา และคัดค้านการรัฐประหาร รัฐบาลแห่งชาติ
โดย นายธีรนัย จารุวัสตร์ สมาชิกกลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยว่า กรณีที่ อมธ. ได้ออกแถลงการณ์ถึง 2 ฉบับนั้น เกิดขึ้นจากปัญหาภายในที่มีการแบ่งฝ่ายองค์กร โดยมีสมาชิกบางคนที่มีแนวคิดที่เข้าข้างกับการกระทำของพันธมิตรฯ จึงได้ออกแถลงการณ์เพื่อสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯทันที โดยไม่ได้ผ่านมติคณะกรรมการบริหารฯ
ดังนั้น อมธ.จึงร่วมกับ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชมรมนักสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (กปก.) กลุ่มราษฎรเดินนำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์อีกฉบับ เพื่อเป็นการชี้แจงว่า แถลงการณ์ฉบับแรกนั้นเป็นเพียงความคิดของคนเพียงกลุ่มเดียว ไม่ใช้ขององค์กรตามที่กล่าวอ้าง
นายธีรนัย กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเกิดขึ้นจากพันธมิตรฯที่สร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ ทำให้สังคมมีแต่ความขัดแย้งในมหาวิทยาลัยเองก็เช่นกัน ย่อมต้องมีผลกระทบตามไปด้วย ซึ่งการนำกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ไปแอบอ้างเท่ากับเป็นการทำลายชื่อเสียงขององค์กร หรือแม้แต่ทำให้ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยนั้นเสื่อมเสียไปด้วย ตนไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้นแต่ต้องการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนให้เห็นถึงความถูกต้อง ไม่ใช้ทำอะไรโดยพลการโดยไม่ถามความเห็นเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งนี้เป็นหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตย
ด้าน แหล่งข่าวของ อมธ. ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า แถลงการณ์ฉบับแรกนั้น เป็นเพียงเสียงอีกฝ่ายที่ต้องการแสดงจุดยื่นที่สนับสนุนพันธมิตรฯ แต่ฉบับที่ 2 ออกมาเพื่อแก้ไขว่า แถลงการณ์ฉบับแรกนั้นเป็นการแอบอ้างชื่อองค์กร โดยที่มีความเห็นของมติส่วนใหญ่ ส่วนเนื้อหาของฉบับที่ 2 ก็เพื่อต้องการชี้แจงให้เห็นว่า มาตรการรัฐบาลและตำรวจใช้กับ พธม. นั้นสมควรแก่เหตุแล้วซึ่งเข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายถูกยั่วยุและพันธมิตรฯ เป็นฝ่ายกดดันก่อน
ส่วนเรื่องการแถลงการณ์ที่มีการออกซ้ำซ้อนนั้น ตนขอเรียนว่า เป็นเพียงการแบ่งแยกความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งต่างฝ่ายก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นแต่ไม่ควรใช้ชื่อองค์กรแอบอ้าง ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นได้