WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, October 8, 2008

สร้างสถานการณ์ ป่วนเมือง! นปช.เคลื่อนต้านรัฐประหาร


ม็อบชั่ว! สร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ปิดล้อมรัฐสภาหวังล้มการแถลงนโยบายรัฐบาล จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสลายการชุมนุมด้วยการยิงแก๊สน้ำตาตามวิธีการสากล หลังการเจรจาไม่เป็นผล ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกอาการยั่วยุเจ้าหน้าที่ตลอดทั้งวัน ทั้งยังกระจายไปป่วน บช.น. และพรรคชาติไทย ที่อยู่ใกล้เคียง เผยม็อบมีอาวุธครบมือไล่ตีตำรวจที่มีแต่โล่ จนเจ้าหน้าที่ 2 นาย โดนเหล็กเสียบทะลุปอด ขณะที่อีก 2 นายถูกอาวุธปืนยิงเข้าใส่อาการสาหัส หวังคาร์บอมบ์ เอาระเบิดยัดรถจี๊ปจอดหน้าพรรคชาติไทยตายไปอีก 1 แถมคล้องโซ่ปิดสภาขัง ส.ส. หวังจับตัว “สมชาย”

* ม็อบชั่วอาวุธครบมือยิง-แทงตร.สาหัส
จากเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมรัฐสภา หวังไม่ให้รัฐบาลสามารถแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาได้ โดยมีการก่อตัวมาตั้งแต่คืนวันที่ 6 ตุลาคม ด้วยคนจำนวนหลายพัน นั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มแข. และมีการเสริมกำลังตำรวจตระเวนชายแดน 7 กองร้อย ตรึงกำลังประชิดกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา

ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และ ตำรวจภูธรอีกส่วนคอยรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณรอบนอก ส่วนที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา สบ 10 และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมเครียด เนื่องจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยึดรถประจำทางขวางทางเข้าออกรัฐสภาทุกทาง

ตร.ใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุม
กรัทั่งในช่วงเช้าของวันที่ 7 กันยายน เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พร้อมอาวุธปราบม็อบครบมือ ได้รับคำสั่งให้เดินทางมาบริเวณหน้ารัฐสภา กระทั่งเวลา 06.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาหลายสิบลูกเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ตั้งเวทีและชุมนุมอยู่ด้านข้างรัฐสภาบริเวณ ถ.พิชัย เพื่อสลายการชุมนุม ส่งผลให้กลุ่มพันธมิตรฯ แตกกระจายไปรอบทิศทาง บางส่วนขยับหนีไปที่หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม และบางส่วนถอยไปที่หน้าสวนสัตว์ดุสิต ขณะที่บางส่วนใช้วิธีหมอบลงพร้อมใช้ผ้าเช็ดหน้าและน้ำล้างหน้าเพื่อบรรเทาอาการ โดยโห่ร้องว่าจะปักหลักต่อไป ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนบางส่วนได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตาด้วย

โดยก่อนหน้านี้ที่บริเวณ ถ.พิชัย มีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 400 นาย เข้าเผชิญหน้ากับพันธมิตรฯ พร้อมโล่และแก๊สน้ำตา

ใช้แก๊สน้ำตาตามหลักสากล
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าสลายการชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาว่าเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องสลายการชุมนุมดังกล่าว เพื่อเปิดทางให้คณะรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ได้ประกาศปิดล้อมทางเข้า-ออก และถนนโดยรอบ

ส่วนการใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น เป็นเครื่องมือควบคุมฝูงชนตามหลักสากลที่ใช้กันทั่วโลก พร้อมปฏิเสธไม่ได้ใช้กระสุนยาง หรือระเบิดแบบเศษแก้วแต่อย่างใด ส่วนผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บนั้น อาจเกิดจากการวิ่งและลื่นหกล้ม เนื่องจากผู้ชุมนุมมีการนำน้ำมันมาราดบนพื้นถนน และนำลวดหนามมาวางกั้นไว้จนทำให้เกิดอันตราย พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวสลายการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลด้วย พร้อมเปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายใช้ความละมุนละม่อม เน้นการเจรจา ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

ตร. ถูกเหล็กเสียบเจ็บสาหัส 2 นาย
ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ กำลังประชุมหารือวางแนวทางปฏิบัติดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งเครียด อยู่นั้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณแยกอู่ทองในได้ใช้หนังสติ๊กยิงลูกเหล็ก ลูกหิน ลูกแก้ว นอตเหล็ก ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและใช้ด้ามธงที่เป็นเหล็กแหลมไล่ตีและไล่แทงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่บริเวณนั้น จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยออกไม่สามารถต้านทานการผลักดันของกลุ่มผู้ชุมนุมได้

จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นอีกครั้งเพราะกำลังตำรวจไม่สามารถสู้ได้ มีเพียงโล่กำบังอย่างเดียว

หลังเหตุสงบพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นายคือ ด.ต.ทวีป กลั่นเนียม สังกัดตำรวจภูธร จ.นครปฐม มีบาดแผลถูกปลายเหล็กแหลมแทงเข้าที่ชายโครงด้านซ้ายทะลุปอด นำตัวส่งห้องไอซียูโรงพยาบาลพระมงกุฎฯโดยเร่งด่วน

แพทย์เผยตร.พ้นขีดอันตรายแล้ว
พ.อ.นพ.พีรพล ปกป้อง หัวหน้าศูนย์ประสานงานประชาสัมพันธ์และกิจการพิเศษ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุมที่ส่งมารักษาตัว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย คือ ด.ต.ทวีป กลั่นเนียม ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.กำแพงแสน ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกปลายธงแทงเข้าชายโครงด้านขวา ทีมแพทย์ได้ผ่าตัดเย็บซ่อมแซมตับที่ฉีกขาด และเย็บปิดแผลเรียบร้อยแล้ว แพทย์เฝ้าดูอาการที่ห้องไอซียู ถือว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว และ ด.ต.ลอนดร ดวงกลางใต้ ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า ซึ่งได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลตำรวจ

ส่วนผู้ชุมนุมจำนวน 7 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 3 ราย ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ได้ขอดูอาการก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้

บช.น.อลหม่านถูกตัดน้ำ
เวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เกิดเหตุโกลาหลขึ้นภายในบช.น.เล็กน้อย เมื่อน้ำประปา ภายในอาคารทั้งหมดไม่ไหลแม้แต่หยดเดียว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างสันนิษฐานกันว่า อาจจะถูกกลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ตัดน้ำ อันมีสาเหตุเนื่องมาจากการสลายการชุมนุมของตำรวจ

ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบบริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลด้านซ้ายพบว่า วาล์วน้ำถูกขันจนนอตขาด ทำให้ลิ้นวาล์วไปอุดรูน้ำ ส่งผลให้น้ำประปาไม่ไหล ซึ่งตำรวจได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ของการประปานครหลวงเพื่อให้มาดำเนินการซ่อมแซมแล้ว

นอกจากนี้มีรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าพันธมิตรฯ ได้นำสิ่งปฏิกูลไปเทไว้ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล จนมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว

แถลงประณามพันธมิตรฯ
กลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทยนำโดย นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเห็นด้วยที่จะดำเนินการเพื่อแก้วิกฤติชาติไม่ใช่แก้ปัญหาให้นักการเมือง โดยต้องเปิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม อีกทั้งวิกฤติการเมืองน่าเป็นห่วงหากรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องไม่หันหน้าร่วมมือแก้ปัญหา เชื่อว่าสักวันจะมีการฆ่ากันเลือดนองแผ่นดิน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้แทนปวงชนชาวไทยขอประณามกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กระทำผิดมาตรา 28 เพราะเป็นปรปักษ์กับรัฐธรรมนูญรวมทั้งกระทำผิดมาตรา 112 และมาตรา 116 เพื่อให้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาลจะใช้กำลังข่มขืนหรือใช้กำลังประทุษร้าย รวมถึงเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบในราชอาณาจักรและเพื่อให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

ขายหน้า ! เอพีตีข่าวทั่วโลก
สำนักข่าว AP รายงานว่า จากการยั่วยุของม็อบที่ขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาลจนเป็นเหตุให้ตำรวจไทยได้ยิงแก๊สน้ำตา เข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนที่มีจุดมุ่งหมายในการปิดกั้นสมาชิกรัฐสภา ไม่ให้เข้าไปยังอาคารรัฐสภาของไทยในกรุงเทพมหานครได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงของไทยยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ใช้ปืนแต่อย่างใดแม้จะมีรายงานว่า มีผู้ได้ยินเสียงปืนก็ตาม

ผู้สื่อข่าว AP ระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วงในครั้งนี้ ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (People's Alliance for Democracy: PAD) ได้พยายามโค่นล้มรัฐบาลไทย โดยกล่าวหาว่าเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งถูกแกนนำกองทัพยึดอำนาจ ในปี 2006

ระเบิดหน้า “พรรคชาติไทย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.55 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น บริเวณหน้าที่ทำการพรรคชาติไทย แรงระเบิดทำให้รถยนต์ จี๊ป เชโรกี สีขาว หมายเลขทะเบียน พต 9588 ได้รับความเสียหายหลังคาเปิด และพังยับทั้งคันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่กระเด็นออกมานอกรถ และบริเวณรอบข้าง มีเศษเนื้อกระจัดกระจายออกมา

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีกล่าวเตือน ผู้หลักผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เตรียมรับโทษความผิดที่ทำร้ายประชาชนและให้ถอยออกจากทำเนียบและรัฐสภาเพราะ รัฐบาลนี้จะอยู่ไม่เกิน 6 โมงเย็นของวันที่ 7 ตุลาคม นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต ที่ไปรับใช้นายสมชาย ทำร้ายประชาชน ใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงประชาชนขาขาด ตนบอกตั้งแต่สะพานมัฆวานฯแล้วว่า ผู้ชุมนุมทั้งผู้หญิงผู้ชายล้วนแต่เป็นทหารเสือพระราชา

“สนธิ” แอบอ้างเบื้องสูง
นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้รู้แล้วทำร้ายลูกหลานพระองค์ท่าน ทำร้ายประชาชน ด้วยเหตุนี้พระองค์ท่านจึงพระราชทานเงินมาช่วยเหลือหนึ่งแสนบาท และรับเป็นคนไข้ส่วนพระองค์ทั้งหมด รัฐบาลคงนึกไม่ถึง ว่าวิชามารออกหมายจับพวกตน ที่เชื่องอย่างกับแมว ประมาทว่าทำอะไรไม่ได้ ขอให้ประชาชนรอสักนิดจะมีข่าวดีมาให้ จะเปลี่ยนความแค้นน้ำตาเป็นความมุ่งมั่นไล่พวกโจรออกไป นายสมชายเตรียมหนีออกจากสภาแล้ว ตำรวจคุ้มกันช่วยเหลือนายสมชายให้ระวังตัว นายสมชายคือตัวการบงการเข่นฆ่าประชาชนครั้งนี้

“แก๊สน้ำตาของตำรวจไทยกำลังจะถูกกองทัพอเมริกานำไปใช้ในอิรักเพราะมันตัดขาคนขาดได้ เศษระเบิดประจักษ์พยานขาขาดที่เก็บไว้ทั้งหมดถูกเช็กบิลไปตั้งแต่คนยิงและนายตำรวจผู้บังคับบัญชาทุกคน สนุกนักสั่งยิงแก๊ส สนุกสั่งจับ คราวนี้รอความสนุกจากพวกพันธมิตรฯ ทำให้การติดคุกของ พล.ต.จำลอง คุ้มค่า ขอให้เชื่อในแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งรุ่นหนึ่งรุ่นสอง คนที่บ่นๆ หลายคนว่าชอบเป่านกหวีดแล้วไม่มีอะไร แกนนำพันธมิตรฯ ต้องการให้ประชาชนสู้อย่างอหิงสาสันติ ไม่ต้องการให้เสียเลือด วันนี้อย่าไปไหน อย่ากะพริบตา หนังเรื่องยาวจะจบอยู่แล้ว หนังเรื่องนี้อำนวยการสร้างปี 2548 ฉายมาเรื่อยๆ ต่อ 2550 ถึงปี 2551 บอกว่าจะจบแล้ว ถ้าจบแล้วอย่าคิดถึงแกนนำพันธมิตรฯ หนังจบแล้วจะไม่เห็นผมต่อไป” นายสนธิ กล่าว

กระทบศก.-ธุรกิจท่องเที่ยวซบ
นายเดชา ตุลานันท์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในรอบนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่มองว่านักธุรกิจจะไม่ให้น้ำหนักมากนัก เนื่องจากส่วนหนึ่งเริ่มรับรู้ปัญหาเหล่านี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งประเทศต่างๆ ในขณะนี้ก็ให้ความสำคัญกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกมากกว่าทำให้ความสนใจปัญหาการเมืองในประเทศมีน้อยกว่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม มองว่าส่วนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ภาคการท่องเที่ยว แต่ในภาคธุรกิจนั้นนักธุรกิจยังคงมีความระมัดระวัง อีกทั้งประชาชนก็ยังมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากอยู่แล้ว ซึ่งก็หวังว่าปัญหาดังกล่าวจะยุติได้โดยเร็ว

ด้าน นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะของตำรวจและกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและจะกระทบต่อคนไทย ซึ่งภาครัฐและเอกชนจะต้องร่วมมือกันเร่งหาทางออก เพราะหากเหตุการณ์ยืดเยื้อประเทศไทยจะเสียเปรียบต่อการแข่งขันทางการค้าได้

ทั้งนี้จากปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลงอย่างหนัก ตั้งแต่ปลายปีนี้ถึงปีหน้า เชื่อว่าหากความขัดแย้งในประเทศยังเกิดอยู่ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติ ที่จะหยุดชะงักรวมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในประเทศก็ไม่รู้ทิศทางว่าจะส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้อย่างไร เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะสงบสุขเมื่อไร จึงอยากให้ทุกฝ่ายพูดจายุติปัญหาความขัดแย้ง ประนีประนอมด้วยเหตุด้วยผล บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง อย่าใช้อารมณ์ตัดสิน

ด้านนายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ยังอยู่ในวิสัยที่ภาคเอกชนรับได้ แต่มีความเป็นห่วงว่าเหตุการณ์บานปลายไปถึงรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีการกีดขวางเส้นทางคมนาคม ย่อมส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจอย่างแน่นอน

นปช.ย้ำจุดยืนต้านรัฐประหาร
ขณะเดียวกันมีรายงานว่ากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้มีการหารือกัน เพราะมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการปฏิวัติรัฐประกหารเกิดขึ้น ต่อเนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบดังกล่าว โดยย้ำจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร เพราะเป็นการทำลายประชาธิปไตย และส่งผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างประเมินค่ามิได้

ซึ่งจ่ากการหารือมีความเห็นร่วมกันว่าหากเกิดเหตุการณ์รัฐประหารอีกครั้ง จะจัดให้มีกิจกรรมต่อต้าน ซึ่งจะมีการกำหนดรายละเอียดกิจกรรมกันต่อไป