
คอลัมน์ : ละครชีวิต
    ช่วงนี้ตื่นนอนมาสัมผัสอากาศในยามเช้าแล้วก็รู้สึกว่าเริ่มมี “ลมหนาว” ผ่านเข้ามาให้กระชุ่มกระชวยกันบ้างแล้ว
  
     เรียกได้ว่าเข้าสู่ไฮซีซั่น ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปก็ใกล้จะถึงเทศกาลแห่งความสุขกันแล้ว  
  
     ปี 2551 ถือว่าเป็นปีที่คนไทยต้องเผชิญกับความเลวร้ายมาทั้งปี แม้ว่าหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปได้ “พรรคพลังประชาชน” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตามวิถีทางระบอบประชาธิปไตย
  
     แต่ก็ไม่ได้ทำให้บ้านเมืองคลี่คลายความตึงเครียด แถมยังแย่ลงกว่าเดิม 
  
     จนกระทั่งเมื่อ 4 วันที่ผ่านมามี “ข่าวดี” ที่ทำให้รู้สึกว่าความขัดแย้งทางการเมืองในบ้านเราเริ่มมีทางออก 
       หลังจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้ถูกตำรวจจับขณะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ถ.พระราม 5 เขตดุสิต
  
       พล.ต.จำลอง ถูกนำตัวไปขังที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกันกับที่เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม ตำรวจได้จับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนำไปฝากขังต่อศาลด้วยหมายจับข้อหาเป็น “กบฏในราชอาณาจักร”
    
      การจับกุม 2 แกนนำพันธมิตรฯ ที่โดนข้อหา “กบฏ” น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะขณะนี้คนส่วนใหญ่กำลังเบื่อการประท้วงของพันธมิตรฯ ที่ยืดเยื้อยาวนาน และเรียกร้องผลประโยชน์เกินสมควร
     
      วันนี้ ...5 ตุลาคม 2551 เหลือเพียงอีก 1 เดือนกว่าๆ ก็จะถึงงานสำคัญมากในประเทศไทย 
     
      ผมและเพื่อนๆ ร่วมอุดมการณ์ล้วนจดจ่อรอคอยที่จะขอแสดงความจงรักภักดีเป็นครั้งสุดท้าย
    
     ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของงานส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งรัฐบาลกำหนดจัดในวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
    
     วันเวลางวดมาทุกทีแล้ว ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการก่อสร้างพระเมรุต่างเร่งมือกันร่วมแรงทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ
    
      พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากเพราะจะมีแขกบ้านแขกเมือง เดินทางมาร่วมงานอย่างมากมาย
    
      ด้วยเหตุผลประการนี้ เราจึงไม่ควรปล่อยให้บรรยากาศทางการเมืองต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
    
     ไม่ควรปล่อยให้มีการประท้วงขับไล่รัฐบาล ทำลายภาพลักษณ์ประเทศไทยให้กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน
    
     เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าใครจะกล้าเดินทางเข้ามาบ้านเรา
    
     นอกจากนี้ หลังจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเสร็จสิ้นลง อีก 20 วันต่อมาก็เป็นวันสำคัญคือวันที่ 5 ธันวาคม
     เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
        เป็นช่วงเวลาที่คนไทยต่างรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระเมตตาคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด
   
       บรรยากาศในช่วงเดือนธันวาคมของทุกๆ ปี จึงเป็นเดือนที่ทุกคนมีความสุขมากที่สุด
    
      เพราะมีงานสำคัญ และ ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่
    
       ดังนั้นเมื่อมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากนี้คงไม่มีม็อบออกมาประท้วงทำลายประเทศ หากใครดื้อด้านก็ขอให้สังคมช่วยกันประณาม!     
ลวดหนาม



 
 
 
