WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, December 25, 2008

“ภัย”ในเมืองสุราษฎร์ธานี (3)

ที่มา ประชาทรรศน์

คอลัมน์ : ภัยแผ่นดิน

โดย ชัยอารีย์


“นักการเมือง” ที่อาสาประชาชนเข้าสู่เส้นทางการเมือง ส่วนมาก หรือ ส่วนใหญ่ มักจะบอกกับพ่อแม่พี่น้องว่า เข้าไปทำหน้าที่ “แทน” ชาวบ้าน...มีเรื่องราวประการใดพึ่งพาอาศัยกันได้เสมอ
แต่หลังจากได้รับเลือกเข้าไปชูคอกันในสภาอันทรงเกียรติแล้ว...มักจะมองข้ามหัวสิ่งที่เป็น “ภัย” ของสังคมส่วนรวม ที่มีผลกระทบกับประชาชนโดยตรง
พึ่งพาอาศัยกันได้น้อยมากครับ!
โดยเฉพาะ...นายทุนที่เข้าไปปล้นทรัพยากรธรรมชาติ ในหลายพื้นที่ของ จ.สุราษฎร์ธานี
เจ้าของสัมปทานเหมืองยิปซั่ม ที่ผมชี้นำให้เห็น เป็น “ภัย” ใน จ.สุราษฎร์ธานี ไปบ้างแล้วนั้น
ทั้งนักการเมืองระดับชาติ และนักการเมืองระดับท้องถิ่น เป็นที่พึ่งของชาวบ้านไม่ได้เลย

ส่วนใหญ่มองข้ามหัวชาวบ้าน วิ่งไปซุกหัวอยู่กับนายทุน ทั้งๆ ที่เป็นความเดือดร้อนของส่วนรวม ที่นักการเมืองจะต้องเป็นตัวแทนของพวกเขา เข้าไปต่อรองป้องกันเหตุ จากผลกระทบรุนแรง ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว

นักการเมืองก็รู้อยู่ครับ...เหมืองแร่ยิปซั่มที่ทำกันอยู่ ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ หรือ อ.บ้านนาสาร ฯลฯ

นายทุนในธุรกิจนี้ ไม่แยแสกับเสียงเรียกร้องของประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะพวกเขาได้ร่วมทุนกันทำ และส่งเสียเบี้ยใบ้รายทาง ตั้งแต่ระดับนักการเมืองผู้มีอำนาจ ในพื้นที่และนักการเมืองระดับชาตินั่นแหละ...ล้วนเป็นสายโยงใยในการใช้อิทธิพล ไม่ให้ชาวบ้านชี้ผิดไปยังหน่วยงานรับผิดชอบได้

ในส่วนของข้าราชการประจำ....ไม่ว่าจะเป็นระดับเจ้าเมืองหรือนายอำเภอ หรือ กรมทรัพย์ฯ ป่าไม้เขต ป่าไม้อำเภอ ล้วนเป็นพวกนายทุน พวกนักการเมือง
เฉยเมยกับความเดือดร้อน ที่ส่งผลระยะยาวกับชาวบ้าน ก็ไม่มีใครใส่ใจ เป็นตัวแทนร้องทุกข์ให้พวกเขาเหล่านั้น

เหมืองแร่ยิปซั่ม...ที่ว่านี้ อยู่ไม่ห่างเมืองไม่มากนัก แค่ไม่ถึง 30 กม. ที่เขาใช้เครื่องมือระเบิดแร่ ขุดแร่ ออกมาใส่รถพ่วง เดินทางเข้าสู่เมือง

มันก็ผ่านหูผ่านตาผู้มีอำนาจรัฐตลอดทาง...แหละมองเห็นได้ชัดเจน ว่าความเสียหายเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง

ถนนหนทางไม่ต้องพูดถึง...เลอะเทอะ เป็นหลุมเป็นบ่อ จนชาวบ้านเอามะพร้าวมาปลูกกลางถนนประท้วงไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง

บริเวณพื้นที่ทำเหมือนแร่ เป็นหมู่บ้านและชุมชน เรือกสวน ล้วนมีผลกระทบโดยตรง จากฝุ่นละอองมีพิษลอยไปเกาะกับต้นไม้และบ้านเรือนประชาชน ฝนตกลงมาละลายไหลไปทั่วลำคลอง

เสียงระเบิดเหมืองแต่ละครั้ง สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น เหมือนถูกโจมตีด้วยแรงระเบิดหนักจากข้าศึก...รอยแตก รอยร้าว และร่องรอยจากแรงระเบิด ที่มีการขุดเจาะซ้ำลงไปอีก เป็นบริเวณพื้นที่รอบๆ ภูเขา เหมือนมีใครไปขุดหลุมลึกล้อมภูเขาเอาไว้

ฤดูฝน...ฝนตกหนักลงมา จนน้ำล้นจากร่องแร่รอบเขาลูกโตหลายลูกตรงนั้น นำเอากากดินโสโครกไหลตามลงมาข้างล่าง ล้วนเป็นสารพิษที่ถูกละลายลงมารวมไว้ทั่วพื้นที่

น้ำฝนตามธรรมชาติ ที่ชาวบ้านรองรับไว้ใช้ดื่ม ก็เหมือนกับดื่มน้ำที่เจือปนไปด้วยพิษร้าย สะสมไว้ในร่างกายวันแล้ววันเล่า...ในที่สุดก็ตายไปด้วยไม่ทราบสาเหตุแห่งโรค

ที่น่าตกใจกลัว สำหรับคนที่มีความรู้เรื่องนี้ก็คือ....บริเวณพื้นที่ 2 ตำบล ต.ป่าร่อน ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ ใต้ดินที่ลึกลงไปไม่ถึง 100 เมตร ทางการห้ามไม่ให้มีการเจาะบ่อบาดาล เนื่องจากใต้พื้นดินรอบๆ บริเวณที่กว้างไกลใน 2 ตำบลดังกล่าว....

มี “แก๊สไข่เน่า” ชนิดร้ายแรงเป็นทะเลแก๊สอยู่ใต้ดิน พ่นขึ้นมาเมื่อใด จะมีผลทำให้คนที่ได้กลิ่นและรับพิษเข้าไป ถึงตายได้

แต่พวกนายทุน เจ้าของเหมือง ขุดเจาะลึกลงไป เพื่อเอาแร่ยิปซั่มออกมา มันใช้ระเบิด และขุดเจาะ มีความลึกถึงบ่อแก๊สไข่เน่าดังกล่าว ใครจะไปรู้ว่าสักวันหนึ่งชาวบ้านตายหมู่เพราะเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง เข้าไปรู้เห็นเป็นใจให้นายทุนทำแร่

ท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนั้น นั่งมองตาปริบๆ อยู่ได้อย่างไร??