WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 24, 2008

ปรีดี ผู้สร้างทฤษฎี ... ป๋วย ผู้นำทฤษฎีสู่ปัญญาชน ... ทักษิณ ผู้นำทฤษฎีไปใช้สู่รากหญ้าและมหาชน

ที่มา Thai E-News

โดย คุณ ปีศาจเงินตรา
ที่มา เวบบอร์ด พันทิปราชดำเนิน
23 ธันวาคม 2551

ผมมักได้รับการต่อต้านและตำหนิ จากหลายๆ ความเห็นเสมอ ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

เป็นคำตำหนิในเชิงไม่เห็นด้วย ที่นำคุณทักษิณไปเปรียบเทียบกับอาจารย์ปรีดี เป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบ 2 คน ที่อยู่ในช่วงเวลาห่างกันครึ่งศตวรรษว่า มีคุณค่าแก่สังคมไทยอย่างเอนกอนันต์ไม่แพ้กัน

ทุกวันนี้ ผมก็ยังยืนยันความคิดเดิมเสมอว่า คุณทักษิณเป็นบุคคลที่สำคัญมากๆ ซึ่งผมถือว่า เป็นคนที่ 3 ที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการทางการเมืองไทยอย่างมากที่สุด และเป็นผู้ที่ทำให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ในระดับ "ปรากฏการณ์"

การมองและอธิบายว่า ทั้ง 3 คน จะเหมือนหรือแตกต่าง คงไม่ใช่ประเด็นที่ควรจะเป็นไป แต่การมองทั้งสามคนในเชิงบทบาทสำคัญต่อยุคสมัย และเป็นผู้ทำให้เกิดกระบวนการต่อเนื่องนั้น น่าจะตรงประเด็นกว่า

แนวคิดประชาธิปไตยของไทยนั้น อ.ปรีดี เป็นหนึ่งในจุดเริ่มที่สำคัญมาก อ.ปรีดี มีบทบาทสำคัญมาก ที่ทำให้แนวคิดประชาธิปไตยไทย ได้เข้าสู่ชนชั้นนำในสังคม แต่ด้วยเหตุที่การเปลี่ยนแปลงเมื่อ 2475 นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่คนมีส่วนร่วมน้อยมาก ผลลัพธ์ก็จึงออกมาแบบที่เราเห็น

ผมคิดว่า อ.ป๋วย ได้พาสังคมไทยไปไกลมากขึ้น เพราะประชาธิปไตยได้แพร่เข้ามาสู่ปัญญาชน และชนชั้นกลาง ฐานของจำนวนพลเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง กว้างขวางมากขึ้นอย่างมาก และพลังของคนหนุ่มสาวในยุคนั้น ก็ยังได้ส่งทอดมายัง พค 2535 และส่งทอดมาถึงอุดมการณ์ของพรรคไทยรักไทย

ซึ่งการเกิดขึ้นของพรรคนี้ พร้อมคุณทักษิณ ได้ทำให้เกิด "ปรากฏการณ์" ในระดับที่ 3

คุณทักษิณไปได้ไกลกว่า ทั้ง อ.ป๋วย และ อ.ปรีดี มันเหมือนกับว่า คุณทักษิณรับไม้มา แล้ววิ่งต่อและวิ่งต่อโดยมีแรงหนุนจากทั้งอุดมการณ์ และผู้คนที่เป็นผลผลิตจากยุคสมัยของทั้ง อ. ปรีดี และ อ.ป๋วย

คุณทักษิณ ทำให้ประเทศทั้งประเทศและประชาชนทั้งหมด เข้ามามีส่วนร่วมในการปกครอง และการใช้อำนาจอย่างตื่นตัว

ประชาธิปไตย ได้เดินลงไปสู่ทุกครัวเรือน และผู้คนทั้งประเทศได้ตื่นขึ้นมา ผมคิดว่า สิ่งสำคัญที่คุณทักษิณได้บอกประชาชนก็คือ "คุณเป็นเจ้าของประเทศ และพวกคุณมีสิทธิ"

การต่อสู้ของ อ.ปรีดี และ อ.ป๋วยได้สิ้นสุดลงไปแล้ว แต่การต่อสู้ของคุณทักษิณ เพิ่งจะจบบทที่ 2 ลงไป ทุกวันนี้ เพียงอ่านหน้าข่าวต่างๆ ก็จะพบว่า คุณทักษิณ ยังมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยอย่างมาก ทั้งทางตรงและทางอ้อม

คุณทักษิณเป็นทั้ง ผู้นำ เป็นสัญลักษณ์ เป็นแสงสว่าง เป็นปีศาจ เป็นเงา เป็นความหวาดกลัว และบางครั้งก็เป็นถึงตัวแทนของอุดมการณ์ และเหนือสิ่งอื่นใด สำหรับผม คุณทักษิณยังเป็นความหวังอีกด้วย

การเข้ามาครองอำนาจแบบนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ นับเป็นความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามคุณทักษิณ

การตัดสินใจเดินหมากแบบนี้ ผมไม่ทราบได้ว่า พลาดเพราะคิดพลาด หรือว่าพลาด เพราะเคยชินกับการกระทำแบบนี้ ผมคิดว่ามันดันทุรังเกินไป จ่ายแพงเกินไป จนไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยกับอำนาจรัฐที่ได้มา

หลังจาก ครม.อภิสิทธิ์ ที่ขี้เหร่เหลือประมาณ ประชาชนก็เริ่มจะโหยหาคุณทักษิณมากขึ้น และผมเชื่อว่า ปีหน้า สถานการณ์ประเทศจะยิ่งเลวร้ายลง และคุณทักษิณจะกลายเป็นคนที่ประชาชนคิดถึงที่สุด และโหยหาที่สุด

การโหยหาและไขว่คว้า เป็นกุญแจสำคัญ ไปสู่ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลง ก่อนจะเปลี่ยนแปลงอะไรดีๆ อุดมการณ์และจิตใจมันต้องมาก่อน นั่นคือสิ่งที่ อ.ปรีดี และ อ.ป๋วยทำไว้ และยังไม่สำเร็จทั้งหมด และคุณทักษิณกำลังทำมันต่อ ร่วมกับพวกเราทุกคน

ผมถือว่านี่คือ "ปรากฏการณ์" มันเป็นกงล้อประวัติศาสตร์ ที่มันต้องหมุนไป ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนก็ได้ จะสามารถฝืนมันได้

ประเทศไทยต้องเปลี่ยนแปลง เพราะมันต้องเปลี่ยน