WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, December 27, 2008

นายทุนกับการเมือง

ที่มา ไทยรัฐ

นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ คุณกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังที่จะให้มีการนำอัตราดอกเบี้ยในการผ่อนซื้อบ้านและ คอนโดมิเนียมหลังใหม่ไปหักลดหย่อนภาษีได้เต็มๆ อธิบายให้เข้าใจก็คือ รัฐบาลเป็นคนเสียดอก ชาวบ้านเป็นคนเสียเงินต้น ส่วนเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย มีเงื่อนไขด้วยว่าจะต้องเป็นการซื้อบ้านหลังใหม่เท่านั้น ส่วนที่ผ่อนไว้แล้ว หรือกำลังจะไม่มีผ่อนเพราะตกงานว่างงานเศรษฐกิจฝืดเคือง ปล่อยไปตามยถากรรม

นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะกู้เงินจากธนาคารในประเทศเพื่อนำมาลงทุนและใช้จ่ายในภาครัฐ บรรดาแบงก์ทั้งหลายที่กำลังมึนๆอยู่ เพราะไม่รู้จะหาทางออกกับวิกฤติการเงินอย่างไรปลื้มกันใหญ่ ในยามเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างนี้ มีลูกค้ารายใหญ่เป็นรัฐบาล โดยมี ประชาชนทั้งประเทศเป็นลูกหนี้ร่วมกัน แฮปปี้

รมต.บางกระทรวงกระเหี้ยนกระหือรือจะเป็น รมต.ท่าเดียวพอมาเจองานหินกว่าที่วาดภาพเอาไว้เลยต้องรีบ ตั้งคณะที่ปรึกษา เข้ามากระทรวงเดียว 50-60 คน ก็ไม่พ้นตัวแทนนายทุนอยู่ดี ด้วยความไร้เดียงสาของ รมต.บวกกับความเขี้ยวของตัวแทนนายทุน อะไรจะเกิดขึ้น

และปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ละพรรคการเมืองก็ต้องใช้ทุนทั้งเลี้ยง ส.ส. และเลี้ยงชาวบ้าน พรรคใหญ่ หน่อยก็ใช้เงินมากหน่อยพรรคเล็กหน่อยก็ใช้เงินน้อยหน่อย พรรคที่เป็นรัฐบาล ย่อมได้รับการสนับสนุนมากกว่าพรรคฝ่ายค้าน เพราะสามารถเอื้อผลประโยชน์ได้มากกว่า ยิ่งการเมืองไม่มีมาตรฐานแบบไทยๆ ยังอยู่ในการครอบงำของระบบอุปถัมภ์ด้วยแล้ว ชัวร์

ไม่พ้นระบบนายทุนครอบงำ

แรกๆนายทุนก็จะถูกนักการเมืองขี่เอาบ้าง ใครอ่อนหน่อยก็ถูกนักการเมืองปล้นกิจการเอาดื้อๆ นายทุนก็จะเชิญนักการเมืองไปเป็นที่ปรึกษาธุรกิจเอาไว้เป็นไม้กันหมา จนติดเป็นนิสัย ส่วนธุรกิจที่ไม่วิ่งเข้าหานักการเมือง ก็จะมีนักการเมืองวิ่งเข้าไปหา แบล็กเมล์ ตบทรัพย์ ต้องให้คนขับรถเอาเงินไปส่งส่วยเดือนละ 4-5 แสน พอถูกกดขี่หนักเข้า นายทุนเริ่มจะแข็งข้อ ตั้งก๊วนการเมืองขึ้นมาเป็นอิสระไม่ขึ้นกับพรรค

แต่อย่างว่า ธรรมชาตินักการเมืองไม่รู้จักพอ ถูกเบี้ยวเอาบ่อยๆนายทุนเลยมีวิวัฒนาการขอร่วมเป็นนายทุนพรรค ลงขันเท่าไหร่ก็ส่งตัวแทนทายาทเปลี่ยนสภาพจากนายทุนมาอยู่ในคราบนักการเมือง ดูแลผลประโยชน์ด้วยตัวเอง ได้เท่าไหร่ ส่วนหนึ่งต่อท่อเข้าพรรค เอื้อประโยชน์กันอย่างแนบเนียน

กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน

ปล่อยให้ชาวบ้าน โง่ จน เจ็บไปเรื่อยๆ ผสมกับกองทัพ สถาบัน นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยที่สมัครใจจะโง่ เพื่อผลประโยชน์ลาภยศ จับพลัดจับผลูได้เป็น รมต.หรือโฆษกรัฐบาลก็ยังดี โก้จะตาย ทั้งๆที่รู้ตัวว่าเป็นแค่ริดสีดวงการเมือง และนี่คือความจริงที่เจ็บปวด หรือนักการเมืองนายทุนคนไหนว่าไม่จริง

กล้าไปจุดธูปสาบานไหม.

หมัดเหล็ก