ที่มา ประชาทรรศน์
‘รัฐบาลสะตอ’ เคาะนโยบายปฏิรูปกลไกสื่อรัฐ ลั่นคลอด!กม.คุ้มครองสื่อ ‘สาทิตย์’ ประเดิมงานแรก สั่งรื้อโครงสร้าง NBT “ฟื้นช่อง 11” แถมกระเหี้ยนกระหือรือ!ตั้งบอร์ดใหม่ “อสมท.” หลังแถลงนโยบายเสร็จสิ้น
มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบในหมวดสื่อและการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวกับสื่อซึ่งมีความชัดเจนที่สุดในรอบ 20 ปี
โดยแบ่งเป็น 4 ข้อ คือ 1.ส่งเสริมประชาชนให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารจากราชการและสื่อสาธารณะอื่นๆได้อย่างกว้างขวางและเป็นธรรม รวมทั้งให้กลไกภาครัฐ โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2.ปรับปรุงกลไกการสื่อสารภาครัฐ โดยให้คำนึงถึงบทบาทของสื่อเพื่อประโยชน์สาธารณะ และสร้างความสมานฉันท์ในชาติ 3.ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งต้องเป็นกิจกรรมที่มีผลตอบแทนเชิงพาณิชย์ต่ำ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 4.จัดให้มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพสื่อเพื่อให้สื่อมีเสรี ปราศจากการแทรกแซง และมีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงยกเลิกและปรับปรุงกฎหมายที่ขัดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ได้มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแลนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะส่งเอกสารนโยบายรัฐบาลให้กับรัฐสภาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.นี้
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงานจากนายกรัฐมนตรีให้รับผิดชอบด้านใด แต่คาดว่าน่าจะได้รับผิดชอบเกี่ยวกับการดูแลสื่อ นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดจะจัดรายการพูดคุยกับประชาชนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบและชื่อรายการ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาพิจารณาสักระยะหนึ่ง โดยจะใช้สถานีโทรทัศน์ของรัฐเป็นช่องทางให้กับนายกรัฐมนตรีในการจัดรายการ
ขณะเดียวกันจะให้เวลาฝ่ายค้านในการจัดรายการลักษณะเดียวกับนายกรัฐมนตรี หากมีการขอมา แต่จะต้องดูรูปแบบอีกครั้ง เพราะช่อง 11 ถือเป็นสื่อของรัฐที่จะต้องใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ดังนั้นจะต้องดูด้วยว่าจะมีเวลาสำหรับฝ่ายค้านมากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ปิดกั้น หากเป็นการทำเพื่อประโยชน์
“รัฐบาลชุดนี้มีแนวคิดที่จะทำ NBT กลับไปเป็นช่อง 11 เหมือนเดิม แต่ไม่ใช่นโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ และในการพิจารณาจะต้องดูมิติว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมาได้ทำประโยชน์ อะไรให้ดีกว่าเดิมบ้าง เพื่อที่จะปรับปรุงให้สื่อของรัฐได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภา พมากที่สุด” นายสาทิตย์กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการบริหาร บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือบอร์ด อสมท. จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตามปกติโดยมารยาทแล้วก็น่าจะเป็นเช่นนั้น คือเมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องมีบอร์ดใหม่ แต่ในขณะนี้บอร์ด อสมท.ได้ครบวาระลง ดังนั้นงานแรกหลังจากแถลงนโยบายเสร็จแล้ว ก็จะไปดูแลเรื่องการแต่งตั้งบอร์ด อสมท.ชุดใหม่
สำหรับสถานีโทรทัศน์ NBT มาเปลี่ยนในยุคสมัยที่นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช