WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, December 26, 2008

'นพดล'เอาคืนจี้ปชป.ทวงเขาพระวิหาร

ที่มา ประชาทรรศน์

'นพดล' ล้างตาปชป.- พันธมารเล็งส่งจม.เปิดผนึกส่ง'นายกฯมาร์ค' แจงการทวงเขาพระวิหารคืน จับมือเพื่อไทยจัดส่งข้อมูลโต้วันแถลงนโยบายรบ. สั่งสอน'กษิต' เป็นรมต.อย่าโยนบาปให้ขรก. ชี้ต้องคิดก่อนพูดอย่าสถุน "สาทิตย์"ปากกล้าขาสั่น ลั่นพร้อมแจง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ธ.ค.) นายนพดล ปัทมะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เตรียมส่งจดหมายเปิดผนึกให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงความชัดเจนกรณีปราสาทพระวิหาร ว่าจะมีนโยบายทวงคืนหรือไม่ เนื่องจากในอดีตการอภิปรายพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าประเทศไทยยังคงเสนอสิทธิ์ทวงคืน ขณะเดียวกัน นายนพดลกล่าวว่าจะมอบเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้กับส.ส.ต่อพรรคเพื่อไทย ใช้ในวันอภิปรายนโยบายรัฐบาลด้วย และมองว่า ต้องให้โอกาส นายกฯ ทำงาน แต่นายกฯ ต้องเป็นคนพูดจริงทำจริง นอกจากนี้ นายนพดล รู้สึกไม่สบายใจต่อท่าทีของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน และเห็นว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่ดี ควรคิดก่อนพูด ไม่ควรเป็นคนกลับกลอก ไม่พูดหยาบคาย และไม่ควรโยนความผิดให้ข้าราชการประจำ

จากกรณีดังกล่าวเมื่อวานนี้(25 ธ.ค.)ที่ผ่านมานายกษิตได้กล่าวว่า จุดยืนของการทวงคืนตัวปราสาทเขาพระวิหารของตนมีแนวทางในการแก้ไขข้อพิพาทโดยให้ปฏิบัติตามสนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1904 ค.ศ. 1907 รวมถึงการตัดสินของศาลโลก และบันทึกความเข้าใจ ปี 2543 เรื่องปักปันเขตแดน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ซึ่งขัดกับแนวทางที่เคยกล่าวไว้บนเวทีพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตย

ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ มีศูนย์ติดตามสถานการณ์พื้นที่เขาพระวิหารและชายแดนไทยกัมพูชา ในการทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการเจรจากับนายฮอร์ นัมเฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา

เดทไลน์ 27 รมต.แจงเขาพระวิหารวันนี้


ขณะที่ความคืบหน้าเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาสำนวนการไต่สวนถอดถอนคณะรัฐมนตรี(ครม.) สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อหากระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 กรณีออกมติครม.สนับสนุนให้กัมพูชา ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในวันนี้ ถือเป็นวันสุดท้ายที่ ป.ป.ช. อนุญาตให้อดีตครม. นายสมัคร สามารถเลื่อนแก้ข้อกล่าวหาได้ ซึ่ง น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป.ป.ช.ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนนี้ ระบุว่า หากเลยกำหนดในวันนี้แล้ว ยังไม่มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ถือว่าทั้งหมดไม่ติดใจที่จะแก้ข้อกล่าวหา อาจจะสรุปสำนวนเสนอให้ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาลงมติต่อไป แต่ยังรัฐมนตรี 27 คนได้หนังสือขอเลื่อนการชี้แจงข้อกล่าวหาออกไปก่อน ทั้งนี้ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนฯให้เลื่อนการแก้ข้อกล่าวหาออกไปได้ เพราะเป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา โดยอนุญาตให้เลื่อนการแก้ข้อกล่าวหาได้ถึงวันนี้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่านางอุไรวรรณ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ส่งเอกสารชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ส่วนนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาชี้แจงข้อกล่าวหาด้วยตนเอง

ปชป.ลั่นพร้อมแจงเขาพระวิหาร

ขณะที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ว่า รัฐบาลได้เตรียมการไว้ทั้งสองส่วนทั้งภายนอกและภายในซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้กำชับให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เตรียมการ ซึ่งโดยปกติการชุมนุมเป็นสิทธิที่สามารถทำได้หากไม่ใช้ความรุนแรงส่วนหากเกิดกรณีเช่นเดียวกับวันโหลตเลือกนายกฯ นายสาธิต กล่าวว่า คาดว่าคงจะไม่เหมือนกัน ถ้าในวันแถลงหากสามารถดำเนินการไปได้ก็จะทำต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวออกมาว่ามีการอุ้มบุคคลก่อนวันแถลงนโยบายนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่การที่ฝ่ายค้านพูดเช่นนั้น เพราะอาจจะมีข้อมูลอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องความมั่นคง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ดูแลและได้มีแผนดำเนินการอยู่ ทั้งนี้เชื่อว่าการแถลงนโยบายจะแตกต่างกับรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามได้ขอความร่วมมือกับทุกฝ่าย อีกทั้งขอขอบคุณกลุ่มเสื้อแดงที่ให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานก่อน เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบมันจะเป็นผลเสีย ซึ่งตามที่ได้ข่าวมาก็จะจัดเจ้าหน้าที่เป็นผู้ดูแล รวมทั้งยังได้เจรจากันว่าจะให้กาสรัฐบาลทำงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการถ่ายทอดสดการแถลงนโยบายหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้พูดว่าจะขอความร่วมมือกับทางรัฐสภา ซึ่งทางรัฐบาลก็ไม่มีปัญหาเนื่องจากรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่าสามารถถ่ายทอดสดได้ ซึ่งก็มีการเตรียมการทั้ง ทีวีและวิทยุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายนพด ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีชี้แจงความชัดเจนกรณีปราสาทพระวิหารว่ามีนโยบายทวงคืนหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ที่คุยกันไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหา แต่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เตรียมชี้แจงแล้ว ส่วนที่เกี่ยวข้องก็ต้องทำหน้าที่ ทั้งนี้ที่นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เตรียมแผนที่ไว้เปิดโปงในวันแถลงนโยบาย จะรุนแรงหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง รวมทั้งกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนาตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ก็พร้อมชี้แจง

เมื่อถามว่า กรณีที่ผ่านมาพรรค ปชป.เคยวอล์กเอ้าท์ในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เพราะมีการชุมนุม ซึ่งหากครั้งนี้มีการชุมนุมอีกทางพรรคจะยืนยันที่จะแถลงนโยบายต่อหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หากเกิดความรุนแรงก็พร้อมจะถอยแต่เชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรง เพราะการที่ ประชาธิปัตย์ ทำในครั้งนั้นเนื่องจากเห็นข่าวในช่วงเช้าก่อนแถลงนโยบายเกิดเหตุการณ์รุนแรง จึงไม่อยากข้ามกองเลือดไปประชุม จึงต้องทำเช่นนั้น แต่ครั้งนี้แม้ว่าจะมีการชุมนุมมากก็พร้อมที่จะเข้าไปแถลง เพราะได้ฟังจากข่าวว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมอย่างสงบไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนกรณที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ประกาศไว้ว่าจะมีสงครามกลางเมือง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาแกนนำ นปช.เคยประกาศไว้แรงกว่านี้ แต่ครั้งนี้ได้ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย เชื่อว่าจะไม่มีความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเจตนารมณ์ของนายสมชาย อย่างไรที่ลงพื้นที่ในจังหวัดอุดร หลังจากที่ประกาศจะไม่เคลื่อนไหวในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หากเป็นไปตามนั้นว่า การลงพื้นที่เป็นเพียงการเยี่ยมชาวบ้านก็ไม่เป็นไร แต่การลงพื้นที่หลังการประกาศของนายขวัญชัย ไพรพนา การตีความของคนก็อาจจะผิดเพี้ยนไป แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อยากคิดในแง่ร้าย เพราะถึงอย่างไรก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน