WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 24, 2008

'กษิต'ทำสลดขอโทษปชช.โบ้ยถูกตีความคำพูดผิด

ที่มา ประชาทรรศน์

สื่อมวลชนต่างประเทศรายงานข่าว 'กษิต ภิรมย์' มีบทบาทบนเวทีพันธมิตร นักวิชาการ เรียกร้อง รมว.ต่างประเทศออกมาแสดงจุดยืน และ ดำเนินการกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ขณะที นายกฯมาร์ค โดดป้องสุดฤทธิ์ เจ้าตัวสลด ขอโทษประชาชน อ้างถูกตีความคำพูดผิด

สื่อมวลชนต่างประเทศได้รายงานข่าวการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1 โดยสื่อต่าง ๆ ได้ระบุถึง นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ คนใหม่ ซึ่ง เป็นผู้มีบทบาทในเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงการชุมนุมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้สำนักข่าว "เดลี่เทเลกราฟ" ได้ระบุว่า นายกษิต ได้กล่าวต่อบรรดาทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยว่า การเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นเรื่องสนุกมาก เพราะอาหารก็อร่อย แถมดนตรีก็เยี่ยม พร้อมทั้งมีการกล่าวปกป้องกลุ่มพันธมิตรฯว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการผลักดันกระบวนการความเป็นประชาธิปไตยของไทยไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามเหตุการณ์การยึดสนามบินสุวรรณภูิมิของกล่มพันธมิตรฯ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 350,000 คนต้องติดอยู่ในประเทศไทยและเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน


นอกจากนี้ นายโจนาทาน เฮด ผู้สื่อข่าวของบีบีซีประจำประเทศไทย ได้แสดงความกังวลว่า การแต่งตั้งนายกษิต เป็นรมว.ต่างประเทศจะทำให้กลุ่มพันธมิตรฯอาจจะมีอิทธิพลต่อการทำงานในฐานะรมว.ต่างประเทศ ทั้งนี้ นายกษิตอาจจะประสบความยากลำบากในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ เคยกล่าวโจมตีกรณีปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อนอย่างรุนแรง

นักวิชาการรุมสับ 'กษิต'แสดงจุดยืนและดำเนินการ'เขาพระวิหาร'

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ท่าทีของนายกษิต เป็นที่จับตามองของสื่อทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้น นายกษิต ต้องรีบชี้แจงและแสดงจุดยืนที่มีต่อกลุ่มพันธมิตรฯให้ชัดเจน

ขณะที่ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า นายกษิต ถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ส่วนควรจะจี้ให้ออกหรือไม่ ตนเห็นว่าควรจะออกจากการเป็น รมว.ต่างประเทศ แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง การที่นายกษิตพูดต่อทูตต่างประเทศ จะทำให้บรรดาทูตและชาวต่างชาติได้เห็นถึงธาตุแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้นายกษิตได้กระทำสิ่งที่ชัดเจนให้ทั่วโลกเห็นว่าการที่มีรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมาได้ เพราะส่วนหนึ่งได้รักการสนับสุนจากกลุ่มพันธมิตรฯ นอกจากนี้นายสุธาชัย ยังกล่าวอีกว่า อยากให้นายกษิตดำเนินการเกี่ยวกับกรณีปราสาทเขาพระวิหารเหมือนกับที่ได้ขึ้นไปพูดบนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ

ด้านผศ.ดร.วิบูลย์พงษ์ พูนประสิทธิ์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ยอมรับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายกษิตกับกลุ่มพันธมิตรฯมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนมาก เนื่องจาก การยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลทั้งระบบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น

'มาร์ค'โดดป้อง 'กษิต'สุดชีวิต ชี้สิ่งที่พูดคนสื่อความหมายผิด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้จะมีความชัดเจนในเรื่องการแบ่งงานในคณะรัฐมนตรี ซึ่งตามหลักการไม่ได้ยุงยากอะไร อย่างในส่วนของ พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ก็มีงานที่เคยกำกับดูแลอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีงานอื่นเพิ่มเติมบ้าง ส่วนเรื่องปัญหาการเมืองต้องช่วยกันดูแลไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง
เมื่อถามว่าเรื่องที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พูดเกี่ยวกับเรื่องปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นการกระจายวงกว้างให้เกิดการวิจารย์จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เคยได้เรียนไปแล้วว่าได้ออกแนวทางการทำงาน 9 ข้อ ซึ่งคำพูดของนายกษิต เกิดก่อนที่จะมีแนวทางการทำงานของรัฐบาลทั้ง 9 ข้อ และก่อนแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ จึงยังไม่รับทราบถึงแนวทางทั้ง 9 ข้อ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้รับทราบเรื่องที่นาย กษิตให้สัมภาษณ์กับสื่อของประเทศญี่ปุ่นเพิ่งได้อ่านในหน้าหนังสือพิมพ์

อีกทั้งจากที่ได้สอบถามไปยังนายกษิต ก็ได้รับคำชี้แจงว่าเจตนารมณ์ที่พูดกับสิ่งที่ถ่ายทอดออกไปไม่ตรงกัน แต่ยังไงส่วนตัวคิดว่านายกษิตต้องยึดแนวทางการทำงาน 9 ข้อที่ให้ไว้ อย่างไรก็ตามยืนยันเรื่องการปิดสนามบินรัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ละเมิดการกระทำความผิดโดยเท่าเทียมกัน

เมื่อถามว่าจะส่งผลต่อภาพความเป็นกลางของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราต้องเอาความจริงมาพูดไม่ต้องเอาภาพ ไม่ต้องพูดว่าจะเป็นเรื่องภาพหรือเรื่องอะไร ต้องเอาความจริงคือคดีความต่างๆที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตามจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศกับกลุ่มพันธมิตรฯเป็นแบบไหน เพราะดูเหมือนจะเป็นการโยงเข้าหากัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีความสัมพันธ์อะไรเป็นพิเศษ นอกจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯที่มีสิทธิ์ และเป็นสิ่งที่ตนติดตามทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ซึ่งบางครั้งข้อเรียกร้องก็ตรงเจตนารมณ์และไม่ตรงเจตนารมณ์ของตน จึงไม่ได้อะไร ซึ่งตนมีสิทธิ์ปกป้องตามระบอบรัฐธรรมนูญของทุกคน ทั้งที่ผ่านมาก็ยืนยันมาตลอดว่าอะไรไม่ตรงจุดยืนและไม่ถูกต้อง ตนก็คัดค้านมาตลอด

ส่วนเรื่องที่นายกษิตขึ้นเวทีกับกลุ่มพันธมิตรฯจะกระทบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศหรือไม่นั้น ไม่มีความจำเป็นว่าจะพูดกันเรื่องลบภาพไม่ลบภาพ แต่คนที่เข้ามาอยู่ในตำแหน่งต้องทำหน้าที่ตามนโยบายรัฐ หากทำอย่างนี้ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์นายกษิตสามารถทำได้ ตนมีหน้าที่ชี้แจงแต่ยืนยันว่าใครทำอะไรไม่ถูก รัฐบาลก็ไม่ปกป้องและไม่เลือกว่าเป็นการกระทำของใคร

เมื่อถามว่าเรื่องปิดสนามบินจะให้ความมั่นใจกับต่างชาติและคนไทยอย่างไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ได้ยืนยันชัดเจนแล้วว่าให้มั่นใจเรื่องนี้ และตนก็เข้าใจนายกษิต และตนบอกว่าการดูแลเป็นส่วนหนึ่งในมาตราการที่รัฐบาลต้องเร่งพิจารณาหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
เมื่อถามว่าแล้วอย่างนี้จะถือนายกษิตเป็นสายล่อฟ้าหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนพร้อมถูกตรวจสอบ และมีหน้าที่ชี้แจงทุกท่าน หากชี้แจงไปแล้วไม่สร้างความเชื่อมั่นก็จะถูกวิพากษ์วิจารย์กันอีกครั้ง แต่ตอนนี้นายกษิตยังมีความมั่นใจว่าจะชี้แจงเรื่องนี้ได้ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะนำเรื่องของนายกษิตมาเปิดเผยและตอบโต้ในวันแถลงนโยบายนั้นก็ไม่มีปัญหาเพราะรัฐมนตรีทุกคนก็ถูกวักถามเช่นกัน ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของนายกษิตเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนเป็นรัฐมนตรี และต่อไปนี้นายกษิตต้องมีจุดยืนในการยึดหลักนโยบาย 9 ข้อ

เมื่อถามว่าไม่ว่าจะเกิดก่อนหรือหลังการเป็นรัฐมนตรีไม่สำคัญ เพราะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีไม่อยู่ในจิตสำนึกหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมว่าสิ่งที่พูดนั้นพูดในบริบทใด พูดในมุมมองไหน ตามที่ตนอ่านก็พอเข้าใจว่าสิ่งที่นายกษิตพยายามจะตอบว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นคนส่วนใหญ่มองว่าไม่เป็นปัญหาเรื่องความรุนแรง จุดประสงค์ก็คืออย่างนั้น แต่สิ่งที่ถ่ายทอดออกมาสื่อความหมายผิดก็เป็นได้

'กษิต'ทำสลดขอโทษประชาชนโบ้ยถูกตีความคำพูดผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ โดยหลังจากนั้น นายกษิตได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีรายงานว่า นายกษิตได้กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นสิ่งสวยงาม ว่า คงต้องแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตนเข้ามาเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี การดำเนินงานและการปฏิตนก็อยู่ในกรอบของการที่มีนายกฯ อภิสิทธิ์เป็นผู้นำ โดยเมื่อวานก็ได้มีการมีการวางมาตรการ 9 ข้อ ว่าจะประพฤติตนอย่างไรใน ครม. ซึ่งตนจะปฏิบัติตามหลักการที่วางไว้ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

นายกษิต กล่าวอีกว่า สำหรับชีวิตก่อนวันที่ 22 ธ.ค.เป็นชีวิตช่วงหนึ่ง ซึ่งการพูดหรือทำอะไรไว้ก็คงไม่ไปลบล้างมัน แต่ได้มีการตีความแตกต่างกันไป และอาจมีการหยิบยกบางประโยคมาพูดต่อๆ กัน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเจตนาของการพูดผิดไป แต่ทั้งหมดนี้ขอยืนยันว่า จะพูดหรือทำอะไรโดยตลอดมานั้นก็เพื่อความเป็นประชาธิปไตยของสังคมไทย เพื่อการเมืองที่มีคุณธรรมและจริยธรรม และผมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้จรรโลงความเป็นประชาธิปไตยของประเทศ และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสังคมที่โปร่งใส

“ต้องกราบขอประทานโทษประชาชนชาวไทยทั้งหมด หากผมพูดอะไรที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือมีการตีความไปต่างๆ แต่เจตนาที่จะมุ่งร้ายหรือทำความเสื่อมเสียให้แก่ประเทศไทยนั้นเป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด เพราะประวัติการทำงานหรือสิ่งที่ผมได้พูดในที่แจ้งตลอดมา ทุกคนก็ได้ฟังกันทั่วประเทศ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่ได้พูดเช่นนั้น นายกษิตพยักหน้า เมื่อถามย้ำอีกครั้ง นายกษิตได้กล่าวว่า ถูกต้อง เมื่อถามที่ว่า คิดอย่างไรที่ฝ่ายค้านมุ่งเป้าที่อภิปรายโจมตี นายกษิตกล่าวว่า ไม่เป็นไรพร้อมรับทำหน้าที่ ต่อข้อถามที่ว่า คิดว่าคำพูดของตนจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล นายกษิตกล่าวว่า มีคนพูดเยอะเยอะ