WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, October 11, 2009

แก้ไข รธน. วิกฤติก็ไม่จบ หากอำมาตย์ศักดินา ยังไม่เลิกแทรกแซงระบบ

ที่มา thaifreenews



บทความโดย...ลูกชาวนาไทย

ตอนนี้ก็กำลังเดินเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ กันอยู่ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย โดยพรรคเล็กๆ พยายามที่จะแก้ไขในประเด็นที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบ เช่น ระบบการเลือกตั้งแบบรวมเขต ซึ่งจะทำให้พรรคเล็กเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยาก

พรรคเหล่านี้ก็ยังใช้ข้อสมมุติฐานเดิมว่า คนไทยไม่ได้พัฒนาขึ้น ประชาชนยังนิยมเลือกตัวบุคคลอยู่ ซึ่งอาจมีข้อเท็จจริงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กระแสใหญ่ของสังคมไทยยุคนี้แล้ว แม้พรรคเล็กๆ จะสอดแทรกได้ ก็คงไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

ส่วนประเด็นอื่นๆ ผมไม่ได้ติดตามมากนัก เพราะผมถือว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญของประชาชน แต่เป็นรัฐธรรมนูญของ “ชนชั้นนำ” ที่ผมเรียกว่า “ศักดินาอำมาตยาธิปไตย” ที่คิดจะใช้ตรงนี้เพื่อกดหัวประชาชนต่อไป ผมไม่ได้คิดว่าภายใต้ภาวการณ์ตื่นตัวทางการเมือง ของประชาชนในระดับนี้ รัฐธรรมนูญอำมาตยาธิปไตยศักดินา นี้จะอยู่ได้ยาวนานตลอดไป มันต้องถูกแก้ไขหรือถูกยกเลิกเหมือน รธน. อื่นๆ จำนวนสิบกว่าฉบับนั้น

ผมไม่ได้ขัดค้านการแก้ไข รัฐธรรมนูญนะครับ คือจะทำก็ทำไป จะแก้ไขได้เท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้น ผมไม่คิดว่าตรงนี้จะเป็นการแก้ไขปัญหาความแตกแยกในสังคมไทยได้

ต้นต่อของความแตกแยกทางการเมืองไทย ที่เป็นรากเหง้าที่แท้จริง คือ "อำนาจเหนือรัฐธรรมนูญทั้งอำมาตย์และศักดินา" เข้ามา "แทรกแซงและบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน" ต่างหาก หากพวกเขายังไม่คิดที่จะหยุดการแทรกแซง วิกฤติการณ์ทางการเมืองครั้งนี้ก็ยังไม่จบ ความวุ่นวายก็ไม่จบสิ้น จะให้คนยอมรับสงบราบคาบ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ความเสื่อมถอยของสังคมและสถาบันต่างๆ ยังคงจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สายน้ำแห่งศรัทธาที่เคยมีเปี่ยมล้น ก่อนปี 2549 มันได้เหือดแห้งไปแทบหมดสิ้นแล้ว ไม่มีวันที่จะเติมมันให้กลับมาบริบูรณ์ได้เหมือนเดิมแล้ว

รัฐธรรมนูญเป็นกติกาของสังคม ให้คนทุกชั้นอยู่ร่วมกันได้อย่างมีสันติสุข หรือย่างน้อยก็มีกฎเกณฑ์ที่ยอมรับกันได้ทุกฝ่าย ไม่มีกติกาใดที่มีคนได้ประโยชน์ฝ่ายเดียว จะสามารถเรียกความ "สงบและสันติกลับคืนมาได้" ฝ่ายที่เขาเสียประโยชน์ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องต่อสู้ ยิ่งปราบ เขายิ่งสู้ปราบด้วยความรุนแรง ก็ยิ่งสู้ด้วยความรุนแรง มันเป็นกฎธรรมชาติ

ถึงแม้ว่าเราจะเอา รธน.ปี 2540 กลับคืนมาได้ วิกฤติก็ไม่จบ เพราะมันไม่ได้เป็นรากเหง้าแห่งความขัดแย้ง

ก็เหมือนพวก "ศักดินาอำมาตย์" ที่คิดว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 คือ ปัญหาของพวกเขา เขาก็ล้มและยกเลิกมันไป แล้วเอา รธน.ปี 2550 ที่ตัวเองได้ประโยชน์แต่ฝ่ายเดียวมาใช้ พวกเขาคิดว่า “พวกเขาชนะแล้ว กำราบฝ่ายประชาชนได้หมดสิ้นแล้ว แต่เราก็เห็นได้ว่า ในสามปีมานี้ ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา วิกฤติการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยแทนที่จะสงบลง กลับหนักหนาสาหัสมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนสะเทือนเสถียรภาพของสถาบันต่างๆ ให้ง่อนแง่นมากกว่าเดิม แทนที่จะเข็มแข็งขึ้น กลับเป็น "ง่อนแง่น" ไร้ความมั่นคงมากกว่าเดิม และแก้ไขให้คนกลับไปรักและศรัทธาเหมือนเดิม ไม่ได้แล้วด้วย ตาสว่างแล้ว สว่างเลย ไม่มีทางกลับไปมืดบอดดังเดิมได้อีก

ดังนั้นกติกาที่ไม่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ไม่มีทางที่จะทำให้การขัดแย้งทางการเมืองหมดไปได้

การเมือง ก็เหมือน "การแข่งขันบอลโลก" การจะทำให้เกมสนุกไม่วุ่นวาย คือ "กติกา" ต้องเป็นธรรมจนสองฝ่ายยอมรับ และ "กรรมการ" จะต้องยุติธรรม ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายไม่จำเป็นต้องรักสามัคคีกัน แต่ให้เขาต่อสู้ได้ด้วยความเป็นธรรมก็พอ

บอลโลก ไม่มีใครครองแชมป์ได้ตลอดกาล ไม่มีทีมที่ชนะตลอดกาล คนแพ้ก็ไปปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง ฝึกซ้อมใหม่ เพื่อลงแข่งในรอบหน้า ไม่ใช่หาเรื่องล้มกติกา เพื่อให้ตัวเองได้เปรียบเอาชนะคู่แข่งโดยใช้กรรมการช่วย กรรมการไปเข้าข้างอีกฝ่าย สุดท้ายก็วุ่นวายกันทั้งสนาม หาความสงบไม่ได้ เกมก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ประท้วงกันวุ่นวายไม่มีจบมีสิ้น

หากเราคิดให้ลึกนิดหนึ่ง ก็จะเห็นว่า หากบอลโลกเป็นแบบนี้ ประท้วงกันวุ่นวาย แทนที่จะเอา หน่วยรักษาความปลอดภัยมาไล่ทุบคนดู และผู้เล่นอีกฝ่าย เกมจะไปต่อได้ ก็ด้วยทำให้กติกาเป็นธรรมเป็น Fair game กรรมการเป็นธรรม ความวุ่นวายก็สงบไป ใครแพ้ชนะไม่ใช่ประเด็นสำคัญต่อความเป็นตายของ “กรรมการและประธานฟีฟ่า” แต่เกมที่เป็นธรรม ไม่วุ่นวายต่างหาก คือ หน้าที่ของฟีฟ่า

หากวุ่นไม่จบ จนประชาชนรำคาญมากเข้า ก็จะ "ปิดสนาม เปลี่ยนตัวประธาน FIFA" อย่างทื่หวาดระแวงกันขณะนี้

แล้วจะหนาว ตอนนี้เขาก็ก่นด่าประธานกันวุ่นวายแล้ว บางพวกไปไกลถึงขนาดไม่เอาประธานฯ เลยก็มี

ผมไม่ค่อยกังวล เกมการแก้ไข รธน. เท่าไหร่ ไม่ถือว่าเป็นการได้เปรียบเสียเปรียบมากนัก (แต่พรรคเล็กๆ คิด เพราะเขาคิดว่ารวมเบอร์ พวกเขาสู้ไม่ได้)

ส่วน ปชป. จะใช้เกมนี้ ซื้อเวลาอยู่ต่อ ผมก็ไม่กังวลมากนัก อยากซื้อก็ซื้อไป อย่างมากหมดสมัยสภานี้ แค่นั้น

อยากเป็น "รัฐบาลให้นานที่สุด ภายใต้ศรัทธาที่เสื่อมสุดๆ ก็ไม่ว่ากัน " นายชวน หลีกภัย" เคยทำมาแล้วในปี 2540-2544 ยื้อจนหมดอายุสภา สุดท้ายก็แพ้ราบคาบ

อยู่นานไม่ได้หมายความว่าจะชนะตลอดไป ผมยินดีให้อยู่จนหมดสมัย เพราะทั่วโลกเขาก็มีสมัยรัฐบาลกันแบบนี้

ยิ่งนาน "อำนาจศักดินาอำมาตย์" ยิ่งเสื่อม หรือ "หายไปแล้ว" เช่น พล.อ.เปรม ก็คงไม่มีบารมีคุ้มครองแล้ว .... ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

อยู่นานไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ได้ตลอดไป