WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, October 11, 2009

มหกรรมค่าหัวคิวเขย่าไทยเข้มแข็ง

ที่มา thaifreenews

โดยทีมข่าวการเงิน โพส์ทูเดย์

ดูเหมือนว่าข่าวคาวการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างในโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาล จะ “ดัง” ขึ้นทุกขณะ
ไล่ตั้งแต่การที่ชมรมแพทย์ชนบทออกมาเปิดโปงการยัดเยียดให้ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้แก่สถานีอนามัยและโรงพยาบาลในต่างจังหวัด

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำลายเชื้อโรคด้วยระบบแสงอัลตราไวโอเลตระบบปิด หรือ ยูวี แฟน ราคาเครื่องละ 4 หมื่นบาท จำนวน 800 ตัว

ตาม มาด้วยกลิ่นตุๆ ของการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา มูลค่ากว่า 710 ล้านบาท ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการล็อกสเปกเอื้อบริษัทรับเหมา

แต่ที่ซัดตรงๆ แบบ “ชัดเจน” ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา แถมโพล่งกลางวงสัมมนา
นั่นคือกรณี นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างตอนนี้กำลังเดือดร้อนหนัก

เพราะมีการกิน “ค่าหัวคิว” ในโครงการต่างๆ ภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งสูงถึง 2025%
“ถ้ากินแค่ 5% ก็คงไม่เป็นไร ถือว่าธรรมดา” นายสันติ ระบุ
งานนี้ถือเป็นการแฉข้อมูล “ใต้โต๊ะ” ขึ้นมาวางให้เห็นกัน “บนโต๊ะ”
ถือว่าน้ำหนักไม่ธรรมดา เพราะเป็นการบอกเล่าของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ในสภาอุตสาหกรรม ที่เป็นตัวแทนของบริษัทเอกชนทั่วประเทศ

จากเสียงสะท้อนครั้งนี้ ประเมินสัญญาณได้ว่า ภาคเอกชนเริ่มทนไม่ไหวกับ “ธุรกิจการเมือง” ที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน

หลังจากที่เคยเจ็บปวดกับ “ธนกิจ การเมือง” ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาก่อน
ความรู้สึกของสังคมตอนนี้ คือเหมือนหนีเสือปะจระเข้หรือไม่??

ทั้งที่ปัญหาการชักหัวคิวอาจไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียว
แต่ยังหมายรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีข่าวด้านลบกระเส็นกระสายออกมาไม่เว้นแต่ละวัน
“ค่าหัวคิว” รับเหมาก่อสร้าง ยังทำให้กระทรวงคมนาคมนั่งไม่ติด ต้องออกมาชี้แจงแบบฉับพลันทันใด
โดย นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ตอบโต้ประธานส.อ.ท. ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากเอกชน หรือหากมีจริง เอกชนที่รายงานต่อนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีหลักฐานมาแสดง
เพราะโครงการที่คมนาคมรับผิดชอบ โดยเฉพาะกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ส่วนใหญ่เป็นโครงการก่อสร้างกว่า 2,000 โครงการ

รวมเป็นเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท กระจายไปยังผู้รับเหมาหลายเจ้า ไม่ได้เจาะจงที่รายใดรายเดียว
“มีหลักฐานก็ให้นำมาแสดง เพราะไม่อยากให้พูดอ้างขึ้นมาลอยๆ เพราะทำให้หลายคนเสียหาย” นายสุพจน์ กล่าว
สำหรับโครงการที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ โครงการถนนไร้ฝุ่น ที่พรรคภูมิใจไทยภูมิใจนำเสนอนั้น
ก่อนหน้านี้ มีข่าววงในออกมาว่า ได้มีการแบ่งเค้กให้สส.แต่ละจังหวัด แต่ละพรรคไปคนละเส้นสองเส้น
เรียกได้ว่าแบ่งกันกินแบ่งกันใช้ เพราะเรื่องผลประโยชน์ไม่มีฝักฝ่าย มีแต่พรรค พวก และเพื่อน

โดย นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ยืนยันว่า การเก็บค่าหัวคิวไม่น่าจะเกิดขึ้นกับโครงการถนนไร้ฝุ่น เพราะเป็นโครงการขนาดเล็ก วงเงินก่อสร้างแต่ละโครงการไม่มาก อยู่ที่ 2030 ล้านบาท
อีกทั้งกำไรแต่ละโครงการก็ไม่มาก คือโครงการที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท จะอยู่ที่ 12.5% เกิน 100 ล้านบาท จะอยู่ที่ 9% เท่านั้น

หมายความว่าผู้รับเหมาก็กำไรน้อยอยู่แล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าหัวคิวให้ข้าราชการและนักการเมือง
ปัญหาก็คือถ้าไม่ใช่เรื่องจริง แล้วคนอย่างประธานส.อ.ท.จะกล้าออกมาชนฉะกับรัฐบาลชุดนี้หรือไม่??
มันเสียเครดิต...

เคาะตัวเลขกันให้เห็นจะจะ คือโครงการไทยเข้มแข็ง วงเงินเต็มๆ 1.43 ล้านล้านบาท
หัวคิว 10% เท่ากับเงินตกหล่นระหว่างทาง 1.43 แสนล้านบาท
หัวคิว 20% เงินเข้ากระเป๋าเหลือบไรทางการเมือง 2.86 แสนล้านบาท
ถือเป็นการกระจายรายได้ที่ค่อนข้างกระจุกตัว และจะเขย่าโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลชุดนี้ไปอีกนาน
ถ้าประชาธิปัตย์คุมเกมไม่ดีมีสิทธิไป!!!