WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, May 11, 2010

ภาวะไร้ "ผู้ใหญ่" จากกรณี เสาะกรรมการ สอบ 10 เมษายน

ที่มา ข่าวสด


กรณี "ขอคืนพื้นที่" สะพานผ่านฟ้าลีลาศ บนถนนราชดำเนิน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 กำลังจะกลายเป็น "เผือกร้อน" ทางการเมือง

ไม่ต้องถามว่าจะเอา "ความผิด" กับใคร

1 เป็นความผิดของผู้ออกคำสั่งให้ทหารดำเนินการ "ขอคืนพื้นที่" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลยเวลา 18.00 น.ไปแล้ว

1 เป็นความผิดของ "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" ซึ่งปรากฏขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน

เพราะแม้ว่าส่วนแรกจะแจ่มชัดว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

กระนั้น ส่วนหลังซึ่งถูกเรียกว่า "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" จะอยู่ในความรับผิดชอบของใคร

ยิ่งกว่านั้น จะเอาใครมาประกอบส่วนขึ้นเป็น "คณะกรรมการ"



ถึงแม้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเคยแถลงมอบหมายให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) รับไปดำเนินการ

แต่ก็เริ่มมีเสียงท้วงติงทั้งจาก "ภายใน" และจาก "ภายนอก"

ภายในเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติด้วยกันว่าไม่สมควรเพราะเท่ากับรัฐบาลผลักภาระทางการเมืองมาให้กับกสม.

ภายนอกเป็นการตั้งข้อสังเกตถึงความชอบธรรมของกรรมการกสม.บางท่าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการ

เพราะว่า 2 คนนี้เคย "เหลืองอ๋อย" มาตั้งแต่ก่อรัฐประหารเดือนกันยายน 2549

นางอมรา พงศาพิชญ์ เคยเคลื่อนไหวขับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ ก็แทบไม่แตกต่างกัน

หากรับเป็นกรรมการตรวจสอบก็ยากจะก่อให้เกิดความเชื่อถือต่อสังคมได้



ต้องยอมรับว่า นอกเหนือไปจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แล้วการเสาะหาบุคคลอื่นก็แทบไม่ต่างไปจากการเสาะหา

"หนวดเต่า เขากระต่าย"

เมื่อก่อนสังคมเคยสนิทใจกับชื่อของ น.พ.ประเวศ วะสี ชื่อของ นายเสน่ห์ จามริก ชื่อของ นายระพี สาคริก

เรียกโดยองค์รวมเชิงยกย่องว่าเป็น "ราษฎรอาวุโส"

แต่พลันที่ผ่านสถานการณ์การรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มา สังคมก็เริ่มไม่แน่ใจในตัวของ "ราษฎรอาวุโส" เสียแล้ว

หากแต่งตั้งท่านใดท่านหนึ่งก็คงได้ยินเสียงครางฮือจากสังคมอย่างไม่ต้องสงสัย

ขนาดบุคคลที่เคยได้รับยกย่องให้เป็น "ราษฎรอาวุโส" ยังถูกทอดมองด้วยความไม่แน่ใจแล้วจะเหลืออะไรให้ยกมือไหว้ได้เล่า

อันเท่ากับสะท้อนว่า สังคมไทยกำลังแล้งไร้ "ผู้ใหญ่" ที่ผู้คนให้การยอมรับเหลืออยู่



ก่อนหน้านี้เราเคยมีบุคคลอย่าง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อันถือว่าเป็น "เสาหลัก" ของสังคม

แต่น่าเสียดายที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็ "ล่วง" ไปอยู่ในอีกภพชาติหนึ่งเสียแล้ว จะมีก็แต่ชื่อเสียงและเกียรติภูมิในฐานะปราชญ์และอดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งเท่านั้น

ถามว่าแล้ว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเอาใครมาเป็นกรรมการสอบสวนพฤติกรรมของตน