ที่มา ไทยรัฐ
จาตุรนต์
นับประสาอะไร พี่เบิ้มของโลกอย่างสหรัฐอเมริกายังโดนบีบให้เลือกข้าง
กับสัญญาณทางการทูตที่สะท้อนผ่านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ เทกแอ็กชั่น แสดงความไม่พอใจกรณีที่สถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้ประสานให้มีการพูดคุยระหว่าง "เดอะอ๋อย" นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กับนายเคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
ถือเป็นการให้เครดิตกับผู้ที่ใกล้ชิดกับกลุ่มที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย ใช้ความรุนแรง และกองกำลังติดอาวุธ
แต่ในอารมณ์ที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานไปทั่วโลก ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้พบปะกับตัวแทนฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย โดยได้เชิญทั้งฝ่ายเสื้อแดง อาทิ นายจาตุรนต์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร และยังได้เชิญนักการเมืองซีกประชาธิปัตย์ด้วย แต่ไม่มีใครปรากฏตัว
พร้อมกันนี้ สหรัฐฯได้แสดงความยินดีกับการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยได้เสนอโรดแม็ปปรองดอง
และให้คำมั่นจะจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พฤศจิกายน
โดยสรุปก็เป็นโปรแกรมตามปกติวิสัยทางการทูตสไตล์มหาอำนาจ ที่ถนัดเล่นบทพี่ใหญ่ที่แหย่มือเข้ามาช่วยยุติวิกฤติในเมืองไทย สหรัฐฯให้น้ำหนักเท่าๆกันทั้งฝ่ายถืออำนาจรัฐ และฝ่ายแนวร่วมมวลชนคนเสื้อแดง แสดงท่าทีสนับสนุนให้ปรองดอง
เรื่องของเรื่องไม่ขัดมารยาททางการทูต แต่ขัดอกขัดใจ
การที่ฝ่ายประชาธิปัตย์นั่งไม่ติด เพราะหงุดหงิดที่สหรัฐฯเลือกที่จะให้น้ำหนักไปที่คนชื่อ "จาตุรนต์" ยกเครดิตให้เป็นหัวหอกของฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย
เหนืออื่นใด ย้อนเทปบันทึกภาพกลับไปเมื่อค่ำวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ในห้วงวินาทีก่อนเกิดเหตุนองเลือด นายจาตุรนต์คือคนที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงที่สะพานผ่านฟ้าฯ เตือนให้ผู้รับผิดชอบสั่งถอนทหารออกจากพื้นที่แล้วค่อยว่ากันวันรุ่งขึ้น การสลายม็อบในตอนมืดค่ำไม่สามารถควบคุมความเสียหายได้
"อภิสิทธิ์" จะกลายเป็นทรราชที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย
และทุกอย่างก็ไม่ได้ผิดไปจากที่นายจาตุรนต์เตือนเอาไว้ มันจึงเป็นอะไรที่แฝงนัยให้คิดกันได้ พี่เบิ้มอย่างสหรัฐฯให้เครดิตกับคนชื่อ "จาตุรนต์" ในฐานะมือมวลชนสายพิราบที่มีบทบาทเด่นชัด ในการสกัดกั้นการสูญเสีย
ตรงกันข้ามกับ "อภิสิทธิ์" ที่มีสถานะผู้นำพลเรือนที่มีอำนาจสั่งการกองทัพ
ยากจะปัดความรับผิดชอบจากการสั่งทหารพร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมกระสุนจริงเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมจนเกิดบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ว่ากันตามอารมณ์นี้มันก็คิดได้ ท่าทีของสหรัฐฯสะท้อนสัญญาณในเวทีโลก
ฝรั่งมองจากภายนอกเห็นอะไรชัดกว่าคนที่อยู่ข้างใน
ไม่ได้ตกใจไปกับขบวนการก่อการร้ายที่แฝงอยู่ในม็อบเสื้อแดง ยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียวกับข้อหารุนแรงล้มสถาบันที่ฝ่ายรัฐบาลตั้งแท่นไล่บี้ลูกข่าย "ทักษิณ"
วิกฤติประเทศไทย ยังวนอยู่ในเกมของการชิงอำนาจทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่ยังจบไม่ลง
เหมือนอยากจบแต่ไม่ต้องการจบ ในมุมของกองทัพเสื้อแดงที่แตกคอกันเอง ฝ่ายแกนนำสามเกลอ ทั้งนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็เดินสายเจรจากับตัวแทนของฝ่ายรัฐบาลทั้งคิวของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.
พร้อมไต่บันไดลง แต่ต้องเผื่อเชิงไว้ไม่ให้โดนไล่ตลบหลัง
แต่ที่ไม่ลงด้วยแน่ สายฮาร์ดคอร์ภายใต้การนำของ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ประกาศพร้อมลุยต่อโดยไม่ต้องมีแกนนำ
เพราะจำเป็นต้องยื้อเกมมวลชนเป็นเกราะกำบังกาย ไม่ให้โดนทหารเอาคืน
เอาเข้าจริง กองทัพแดงก็คุมจังหวะกันเองไม่ได้
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล โดยลีลาที่จับทางยากของนายกฯอภิสิทธิ์ ที่ปากก็พร่ำเรียกร้องให้แกนนำคนเสื้อแดงยอมรับโรดแม็ปปรองดอง สลายการชุมนุมกลับบ้านใครบ้านมัน
แต่น้ำเสียง สีหน้าแววตา ก็ยังไม่เลิกเสียดสี
เอะอะก็โบ้ยไปที่อดีตนายกฯทักษิณ กล่าวหากันดื้อๆ อยู่ เบื้องหลังล้มแผนปรองดอง เพราะตัวเองไม่ได้ประโยชน์ กล่าวโทษกันลอยๆ
"อภิสิทธิ์" ก็คุมอารมณ์ตัวเองไม่นิ่งเหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน