WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, May 10, 2010

ชัยชนะก้าวแรกของคนเสื้อแดง

ที่มา ประชาไท


หากพิจารณาจากการระดมสรรพกำลังมหาศาล ทั้งด้านกำลังคนและงบประมาณ รวมถึงยุทธปัจจัยอื่นๆ เช่น รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ สามล้อ ไม้รวก พริก เขือ เกลือ ปลาร้า และ ฯลฯ ในการต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่ใช้เวลาเกือบจะครบ 3 เดือน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุปนเปื้อนมลพิษในเมืองหลวง และการเสี่ยงชีวิตจากทั้งกองกำลังทหาร ตำรวจ (และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย)

ทั้งนับรวมกับ 27 ชีวิตที่สูญเสียไป เกือบ 1,000 คนที่บาดเจ็บ และอาจมีบางคนที่พิการรวมทั้งการผลิตสร้างภาพลักษณ์ของมวลชนเสื้อแดงที่ดูป่าเถื่อน นิยมความรุนแรง น่าเกลียดน่ากลัวราวกับ “เชื้อโรคแดง” (สำนวนของ ธงชัย วินิจจะกูล) ที่คุกคามความสงบสุขและเศรษฐกิจของคนกรุงเทพฯ แทบจะเรียกได้ว่าผลอันเป็นรูปธรรมแห่งการต่อสู้ของคนเสื้อแดงคือความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

ไม่ใช่พ่ายแพ้เพราะว่า สังคมไม่เอาด้วยกับวาระ “ไพร่ล้มอำมาตย์” หรือข้อเสนอ “ยุบสภาเลือกตั้งใหม่” หรือ การเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรม หรือการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทุกด้านในสังคม แต่พ่ายแพ้เพราะไม่อาจอธิบายให้สังคมเข้าใจได้อย่างสมเหตุสมผลว่า ทำไมการต่อสู้ครั้งนี้จึงนำไปสู่ “สงครามที่ไม่จำเป็น” และ “การสูญเสียที่ไม่จำเป็น”

แม้สงครามที่ไม่จำเป็นและการสูญเสียที่ไม่จำเป็นจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลก็อธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้ว่า ทำไมจึงปล่อย หรือเสมือนจงใจให้เกิดขึ้น แต่ในฐานะผู้เริ่ม “เปิดเกม” คุณทักษิณและแกนนำเสื้อแดงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบต่อยุทธวิธีที่ผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้

แต่จะอย่างไรก็ตาม ในความพ่ายแพ้เชิงยุทธวิธีนั้น ไม่ได้หมายความว่า “ยุทธศาสตร์”ของคนเสื้อแดงต้องพ่ายแพ้ไปด้วย จะเห็นได้ว่าข้อเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยที่พ้นไปจากการครอบงำของระบบอำมาตย์ และการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ไม่มีฝ่ายใดปฏิเสธ

แม้แต่แผนปรองดอง 5 ข้อ ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังมีวาระการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอยู่ด้วย เขาจะจริงใจหรือไม่ รายละเอียดจะตรงกับความคิดของคนเสื้อแดงทั้งหมดหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องถือว่านี่เป็น “ชัยชนะทางความคิดก้าวแรก” ของคนเสื้อแดง

การที่คนเสื้อแดงสามารถทำให้รัฐบาล คนทุกสี ทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนของสังคม มองเห็นตรงกันว่า การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็น “วาระ” ที่จำเป็นในการแก้ปัญหาของประเทศ ต้องถือว่าเป็นชัยชนะของคนเสื้อแดง แม้จะเป็นชัยชนะที่เป็นนามธรรม แต่ก็เป็นนามธรรมที่มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการทำให้คนทั้งสังคมยอมรับความคิดดังกล่าว ส่วนรายละเอียดเชิงความคิดและแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้กันต่อไป

ฉะนั้น เมื่อพิจารณาจาก “ชัยชนะทางความคิดก้าวแรก” ดังกล่าว สิ่งที่แกนนำเสื้อแดงควรตัดสินใจเดินต่อไป คือการทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องยุทธศาสตร์ความต้องการประชาธิปไตยและการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมต่อไป ด้วยการ...

1. อย่าเดินตามพันธมิตรฯ ด้วยการปฏิเสธแผนปรองดองของอภิสิทธิ์ เพราะจะเท่ากับเป็นการสกัดยุทธศาสตร์แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ไม่ให้เข้าไปสู่กระบวนการถกเถียง และการหาทางออกร่วมกันของคนทั้งสังคม พันธมิตรฯ ต้องการทำลายเครดิตในยุทธศาสตร์ดังกล่าวนี้ของคนเสื้อแดง เขาจึงประณามแผนปรองดอง และยกเรื่องล้มเจ้า การก่อการร้ายขึ้นมาเป็นจุดเน้นเพื่อทำลายยุทธศาสตร์ของคนเสื้อแดง

วิธีคิดของพันธมิตรฯ คือ เขาต้องการ “ผูกขาด” การกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศ เพราะถือว่าเสียสละตัวเองต่อสู้กับทักษิณมามากเหลือเกิน เขาจึงควรได้เป็น “พระเอก” ในการกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงสังคม ดังจะเห็นได้จากท่าทีของพวกเขาต่อภาคส่วนต่างๆ ของสังคมที่ออกมาเสนอทางออกต่างๆ ว่า พวกเหล่านั้นมักเป็น “พวกตีกิน”

คนเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องเดินตามวิธีคิดแบบ “ผูกขาด” ของพันธมิตรฯ ในเมื่อยุทธศาสตร์คือต้องการประชาธิปไตยและสังคมที่มีความเป็นธรรม/ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การที่เราทำให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวนี้กลายเป็น “วาระ” ที่ทุกภาคส่วนของสังคมเห็นความสำคัญ และต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการทำให้เป็นจริง ย่อมถือว่าเป็นชัยชนะก้าวแรก ที่ก้าวต่อไปคนเสื้อแดงต้องผลักดัน “แนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม” ให้สังคมร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ

2. คนเสื้อแดงต้องปรับยุทธวิธีเน้นชัยชนะทางความคิดด้วยการใช้เหตุผลมากขึ้น วิธีประณามฝ่ายตรงข้าม เพื่อกระตุ้นความสะใจ ความเกลียดชัง น่าจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ต้องให้มวลชนได้หยุดพัก แต่ยังมั่นคงด้วยอุดมการณ์ที่ต้องการประชาธิปไตยและสังคมที่เป็นธรรมมีสติเก็บรับความผิดพลาดที่ผ่านมาเป็นบทเรียน ต้องให้แกนนำระดับชุมชนหมู่บ้านดำรงเป้าหมายในการต่อสู้และเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง

3. พรรคการเมืองของคนเสื้อแดงต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทั้งในเรื่องนโยบายและตัวบุคคล โดยเฉพาะนโยบายต้องแสดงให้เห็นรูปธรรมของการออกแบบกติกาประชาธิปไตย และการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของความไม่เป็นธรรม ต้องให้สัญญาประชาคมว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะทำเรื่องการออกแบบกติกาประชาธิปไตยและแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมก่อน (เมื่อทำ 2 เรื่องนี้สำเร็จและสังคมยอมรับ การแก้ปัญหาคุณทักษิณอาจง่ายขึ้น)

กล่าวโดยสรุป แม้ยุทธวิธีจะพ่ายแพ้ แต่ยุทธศาตร์ที่ต้องการประชาธิปไตยและสังคมที่เป็นธรรม/ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ชนะใจคนทุกภาคส่วนของสังคม คนเสื้อแดงจึงมีสิทธิ์จะประกาศชัยชนะเชิงยุทธศาสตร์ และยุติการชุมนุมอย่างมีศักดิ์ศรี เพื่อสู้ต่อให้ยุทธศาสตร์ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมกลายเป็นชัยชนะของคนทั้งประเทศต่อไป!