ที่มา บางกอกทูเดย์
มีผู้กล่าว “ติดตลก” ไว้ว่า...เมื่อวาน ศอฉ. ประกาศ “ตัดน้ำตัดไฟ” วันนี้เอารถสายพานลำเลียงมาล้อมที่ราชประสงค์...แล้วต่อไปวันพรุ่งนี้ ศอฉ. จะใช้ไม้แข็ง “กำราบ” กลุ่มผู้ชุมนุมด้วยวิธีการใด?จะใช้ปืนเลเซอร์เข้าปราบ...หรือจะใช้ยานอวกาศปล่อยแสงแล้วดูดผู้ชุมนุมขึ้นไปมันกลายเป็น “เรื่องโจ๊ก” ที่แสดงให้เห็นถึงความ “ไร้ประสิทธิภาพ” ในการทำงานของรัฐบาลเพราะวันนี้คงหลงเหลือ “ตัวใหญ่” เพียงไม่กี่คนที่คิดทำชั่วด้วยการสั่งคนถือปืนเข้า “ประหัตประหาร” ทำร้ายประชาชนนี่คือ “แผนสังหาร” ซึ่งมิอาจเล็ดรอดสายตาจากผู้เฝ้าดูอย่าง “องค์การต่างชาติ” เพราะเข้าข่ายเป็น “อาชญากรสงคราม” มิใช่ที่
เรียกกันว่า “คดีสลายการชุมนุม”หากพวกเขา “หลุดลอย” จากเก้าอี้แห่งอำนาจเมื่อใด...โทษของผู้ที่ก้าวยืนต่อหน้า “บัลลังก์ศาลสากล” นั่นคือคำตัดสิน “ประหารชีวิต” สถานเดียว องค์กรสิทธิมนุษยชน...ศาลอาญาระหว่างประเทศ...องค์กรอาเซียน...องค์การสหประชาชาติ ได้รับรู้เรื่องราวนี้ผ่าน “เอกสาร” หลายพันหน้าและที่สำคัญหาก “ผู้มีอำนาจ” ตัดสินใจด้วยเดิมพันสุดท้าย...ทำให้เกิดเหตุการณ์ “มือเปื้อนเลือด” ซ้ำรอย 10 เมษาพวกเขาจะ
ดำเนินการเข้า “ช่วยเหลือคนไทย” และวันนี้ได้เตรียมความพร้อมจนถึงขีดสุด มิเช่นนั้นคงไม่ปฏิบัติงานใน “สิ่งตรงกันข้าม” กับรัฐบาล นั่นคือ หาโอกาสเข้าพบเพื่อรับทราบ “สถานการณ์จริง” จากคนเสื้อแดง“องค์กรต่างชาติ” ใช้สองตาดูและหูฟัง...กระทั่งคิดเห็นตรงกันว่า คนไทยไม่ได้โชคดีที่ได้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะความเป็น “ผู้นำสูงสุด” ของประเทศ...มิได้หมายว่าจะสั่งการทำได้ทุกสิ่ง โดยเฉพาะการสั่งฆ่า “เพื่อนมนุษย์” ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์
เดียวกันหากวัฏจักรการ “คลั่งอำนาจ” ไม่จบสิ้น...คนเหล่านั้นก็ต้องยอมรับ “ชะตากรรม” ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยเฉพาะผู้มีอำนาจหรือรัฐบาลซึ่งชอบเล่นบท “นักล่า” ที่ชอบใช้วิธีการ “อ่อยเหยื่อ” แต่วันนี้กลับกลายเป็น “เหยื่อ” เสียเองงานนี้นอกจาก “โกอินเตอร์” แล้วยังต้อง GO TO Hell ใช้ชีวิตที่เหลือเหมือน “ตกนรกทั้งเป็น”