ที่มา ไทยรัฐ
เป็นอันว่า "โมฆะ"
ตามสัญญาณที่ส่งออกมาจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ล้มโปรแกรมเลือกตั้งวันที่ 14 พฤศจิกายน ตามโรดแม็ปปรองดองที่หยิบยื่นไปให้ แต่คนเสื้อแดงไม่ยอมสลายการชุมนุมตามเงื่อนไข
ไม่ยอมไต่บันไดลง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มาถึงตรงนี้มันก็น่ากังขา อำนาจการกำหนดคิวยุบสภา ยังจะอยู่ ในวิสัยของนายกฯอภิสิทธิ์ไปอีกสักกี่อึดใจ
ในเมื่อล่าสุด นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังประชุมคณะตุลาการว่า คณะตุลาการพิจารณาคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ที่ขอขยายเวลายื่นคำชี้แจงคดีที่นายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค เนื่องจากใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ออกไป 30 วัน
โดยให้ขยายเวลาชี้แจงออกไปแค่ 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดยื่นคำชี้แจง
กั๊กจังหวะ ไม่ให้ยื้อเกมลากยาว
ถ้านับจากคิวที่นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยภายหลังที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณารับคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน และ
ถือเอาวันที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับหนังสือจากสำนักงานศาลฯให้ยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน
เปิดปฏิทินนับวันกันแล้ว 15 บวก 15 ครบกำหนดยื่นคำชี้แจง 26 พฤษภาคม
ดีเดย์น่าจะอยู่ราวๆเดือนมิถุนายน เส้นตายคดียุบพรรคประชาธิปัตย์
หวยออกไวกว่าที่เก็งกันไว้
และประเมินกันตามอาการที่สะท้อนออกมาจากทีมกฎหมายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ แม้แต่จอมเก๋าอย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ยังถอนหายใจ
กระตุ้นลูกทีมห้ามประมาท
เหนืออื่นใด โดยฐานคดีเทียบเคียงกับคิวยุบพรรคการเมืองที่โดนล้มโต๊ะไปก่อนหน้า จากฐานความผิดใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองผิดวัตถุประสงค์
บรรทัดฐานล็อกไว้ มันก็เป็นอะไรที่มี "ความเสี่ยงสูง"
รัฐบาล "อภิสิทธิ์ชน" จะโดนล้มกระดานก่อนถึงวันที่ 15-30 กันยายน ห้วงเวลาตามปฏิทินที่นายกฯอภิสิทธิ์วางฤกษ์ยุบสภา เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามโปรแกรมวันที่ 14 พฤศจิกายน
อำนาจยุบสภาหลุดจากมือ "อภิสิทธิ์"
และนั่นก็หมายถึงทุกอย่างก็ต้องเป็นอันโมฆะไปโดยปริยายเหมือนกัน
ตามเกม "ล้มกระดาน" ตั้งต้นกันใหม่
แต่ที่ต้องสังเกตกันให้ดี จับสัญญาณจากบรรดาเซียนเก๋าลายคราม
"สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ทีบลัฟให้นายกฯอภิสิทธิ์ลาออก เปิดทางให้นายชวน ขึ้นเสียบเก้าอี้นายกฯแทน
ขณะที่ "ป๋าเหนาะ" นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ก็เรียกร้องให้นายกฯอภิสิทธิ์เสียสละ เพราะปัญหาในบ้านเมืองขณะนี้ อยู่ในสถานการณ์ที่เดินต่อไปไม่ได้ หากนายอภิสิทธิ์ไม่ลาออก เวทีสภาก็ทำหน้าที่ไม่ได้
พูดเป็นนัย ฝากไปถึงกองทัพ จะทำอะไรที่เป็นประโยชน์เพื่อประเทศชาติได้หรือไม่
เอาเป็นว่า จับทางพวกเก๋าเกม ไม่มีใครพูดไกลถึงการยุบสภา ลงสนามเลือกตั้งใหม่
เพราะจับสัญญาณ อ่านหมากทะลุ ตามจังหวะยุบพรรคประชาธิปัตย์ตัดหน้า "อภิสิทธิ์" ที่เล่นเกมเสี่ยงยุบสภา
อย่างไรเสีย ฝ่ายคุมเกมอำนาจประเทศไทยก็ไม่มีทางปล่อยไฟเขียวเลือกตั้ง เขี่ยลูกเข้าทางพรรคเพื่อไทย ลูกข่ายอดีตนายกฯทักษิณ ที่ครองกระแสได้เปรียบเต็มประตูในภาคอีสาน ภาคเหนือ พื้นที่โซนแดง
จังหวะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายถืออำนาจแค่เอื้อม เกมทวงแค้นเห็นอยู่รำไร
โดยเกมจึงต้องลุ้นหลังคิวยุบพรรคประชาธิปัตย์ ล้มกระดานกันใหม่
ตามจังหวะจับจ้องไปที่ "ทีมจัดรัฐบาลมืออาชีพ" ที่มีคุณสมบัติ "มือประสาน" สามารถต่อสายพรรคเพื่อไทยติด คุยกับคนประชาธิปัตย์รู้เรื่อง รวบรวมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้ ที่สำคัญ อยู่ในสายตาของฝ่ายคุมเกมอำนาจ
อาศัยลูกเก๋าของนักเลือกตั้งอาชีพ งัดความสามารถเฉพาะตัว
ถือตั๋วจัด "รัฐบาลปะผุ" ฝ่ากระแสขึงพืดไปก่อน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน