ที่มา มติชน
เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 10 พฤษภาคม คณะส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน เป็นต้น ร่วมแถลงผลการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังใช้เวลาหารือเกี่ยวกับแผนสร้างความปรองดองหรือโรดแมปนานกว่า 2 ชม.
โดยนายสุนัย กล่าวว่า ที่ประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทยมีมติเอกฉันท์ ให้เสนอโรดแมปฉบับพรรคเพื่อไทย พร้อมมอบหมายให้วิทยา ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านนำเสนอต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ คือให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วยส.ส.ที่เป็นตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองในรัฐสภา และจากสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งคณะ มีหน้าที่คือ
1.ให้คณะกรรมการรัฐสภาเป็นผู้เสนอโรดแม็ปแทนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี สาระสำคัญประกอบด้วย
1.1 จะต้องให้ความขัดแย้งของสังคมยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อนำประเทศชาติเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด
1.2 จะต้องเป็นตัวกลางที่คุยกับทั้งสองฝ่ายคือ นปช.และรัฐบาลเพื่อแก้ข้อวิตกกังวลที่ทั้งสองฝ่ายมีอยู่
2.ให้มีการประกาศวันยุบสภาและการกำหนดวันเลือกตั้งให้ชัดเจนและเร็วที่สุด เพื่อให้บ้านเมืองหลุดพ้นเงื่อนไข โรคแทรกซ้อนที่จะเข้ามาขัดขวางไม่ให้เกิดความปรองดองและให้ประเทศชาติพ้นภาวะอึมครึมโดยเร็วที่สุด
3.พัฒนาโรดแม็ปให้เป็นสัญญาประชาคม โดยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะเป็นผู้รับฟังความเห็นและสรุปให้เสร็จโดยเร็วในเวลาที่กำหนด
นายสุนัย กล่าวว่า หากนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาและที่ประชุมเห็นด้วย นายชัยสามารถใช้อำนาจดำเนินการแต่งตั้งกรรมการดังกล่าวได้ทันที โดยรูปแบบจะเหมือนกับการแต่งตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์รัฐสภาเพื่อศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่าน สำหรับเรื่องรายละเอียด เช่น จำนวนคณะกรรมการ ระยะเวลาในการดำเนินงาน หรือแม้กระทั่งตัวประธานคณะกรรมการเป็นเรื่องที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะมีความเห็น แต่หากนายชัย ไม่เห็นด้วยก็เป็นอันต้องจบลง
ด้านนายวิทยา กล่าวว่า เหตุผลที่พรรคเพื่อไทยเสนอโรดแมป ไม่ใช่ ไม่ยอมรับโรดแมปของนายกรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าถ้าให้รัฐสภาเป็นผู้ดำเนินการจะเหมาะสมกว่า เพราะนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลถือเป็นคู่กรณี สำหรับโรดแมปของพรรคเพื่อไทยมีเพียง 3 ข้อ จึงน่าจะปฏิบัติได้จริงในเวลาที่รวดเร็วกว่าของนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังหน้าตาดีกว่า ไม่ขี้เหร่เหมือนของนายกฯ และมีความเป็นกลางมากกว่า