WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, May 10, 2010

เปิดแนวคิด"แดง" เป้าหมาย-สู้เพื่อใคร

ที่มา ข่าวสด


รายงานพิเศษ




การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน ปักหลักขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เริ่มจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จนมาถึงสี่แยกราชประสงค์ ยาวนานกว่า 50 วัน โดยถูกจับตามองตั้งแต่ต้นว่าเป็นการต่อสู้เพื่อคนๆ เดียว นั่นคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แนวคิดของแกนนำต่อการชุมนุมที่เกิดขึ้นนั้นเพื่อสิ่งใด และจะนำไปสู่จุดสุดท้ายอย่างไรพวกเขาได้อะไรบ้าง คุ้มหรือไม่คุ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียชีวิต บาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 22 เม.ย.และ 28 เม.ย. และนับจากเสร็จสิ้นการชุมนุมในครั้งนี้ ชีวิตของพวกเขาจะดำเนินการไปอย่างไร มีคำตอบดังนี้



จตุพร พรหมพันธุ์

รองประธาน นปช.



การชุมนุมของนปช.แดงทั้งแผ่นดินครั้งนี้เป็นการรวบรวมบทเรียนจากการชุมนุมครั้งก่อนๆ โดยเฉพาะสงกรานต์เลือด ปี 2552 ที่เราถูกรัฐบาลใช้กำลังปิดล้อม ปิดช่องทางการสื่อสาร บิดเบือนข้อมูลต่างๆ ทำให้เราต้องยุติการชุมนุม

พอมาครั้งนี้ จากประสบการณ์ที่มี เราจึงจัดตั้งมวลชนกว่า 400 กลุ่ม ผ่านโรงเรียนผู้ปฏิบัติการนปช. ย้ำถึงจุดมุ่งหมายเพื่อขับไล่รัฐบาลชุดนี้ซึ่งไม่ได้มาจากฉันทามติของประชาชนแต่มาจากระบอบอำมาตย์เกื้อหนุน

ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมมาด้วยใจจริงๆ หากจะบอกว่าเป็นม็อบว่าจ้าง หลังเกิดเหตุวันที่ 10 เม.ย.คงหายไปหมดแล้ว แต่ประชาชนไม่กลัว และพร้อมต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับมา

ตอนแรกคิดว่าด้วยจำนวนคนที่มากขนาดนี้ ไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์ รัฐบาลต้องไปแน่นอนเพราะเป็นการชุมนุมที่มีคนมาเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่ด้วยอำนาจพิเศษที่คอยหนุนหลังทำให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังอยู่ได้

ข้อเสนอแผน ปรองดองของนายอภิสิทธิ์ เปรียบเสมือนการหาทาง ออกให้กับตัวเองมากกว่า ไม่ใช่ทางออกของคนเสื้อแดง ผมบอกกับพรรคพวกเสมอว่าเรื่องนี้ต้องระวัง อย่าผลีผลาม เราไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียอีก แต่การเจรจาที่จะเกิดขึ้น ต้องทำด้วยความรอบคอบ ไม่ให้นายอภิสิทธิ์เอาเป็นช่องทางออกให้กับตัวเอง ต้องดูแลคนที่สูญเสียทั้งบาดเจ็บ ทั้งเสียชีวิต และคนที่สั่งการทั้งนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และผู้ที่อยู่ร่วมขบวนการสังหารประชาชนจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายให้ได้

ดังนั้น เรื่องการเจรจาร่วมกันต้องค่อยเป็นค่อยไป รีบไม่ได้ เพราะถ้ายังจำช่วงสงกรานต์เลือดได้ นายอภิสิทธิ์ เสนอคณะกรรม การตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการสมานฉันท์ ซึ่งคณะกรรมการก็มีข้อสรุปให้แก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น แต่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไรให้คืบหน้าเป็นรูปธรรม พอมาครั้งนี้เรื่องเก่าทั้ง 2 เรื่อง ก็เป็น 2 ใน 5 เรื่องที่นายอภิสิทธิ์ เสนอมา ดังนั้น ต้องดูว่าเป็นอย่างไรต่อไป

จตุพร พรหมพันธุ์/น.พ.เหวง โตจิราการ/ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ



นี่คือเหตุผลที่เราต้องรอดูท่าทีของนายอภิสิทธิ์ให้ชัดเจน ไม่ใช่เรื่องนิรโทษกรรม เพราะพวกผมไม่เคยกลัว การสูญเสียครั้งนี้มากเสียจนเรื่องคดีความของแกนนำเป็นเรื่องเล็กน้อย อีกทั้งคดีความทุกอย่างไม่ว่าเรื่องล้มสถาบัน เรื่องก่อการร้าย พวกเราพร้อมชี้แจงและต่อสู้คดีอยู่แล้ว

หากหาทางออกได้ด้วยการยุบสภา ประชาชนจะได้ประชาธิปไตยโดยตรงจากการเลือกตั้ง ผมพูดมาหลายครั้งแล้วว่า พอยุบสภา ทุกฝ่ายที่เป็นผู้ขัดแย้งก็มาทำสัตยาบันต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนเลือกแล้ว ไม่มีตีรวนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้

รวมถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องทำสัตยาบันด้วยว่าจะไม่ออกมาใช้พลังนอกระบบอีก หากใครไม่ทำตามข้อตกลง เชื่อผมเถอะว่าประชาชนจะจัดการเอง

ถ้าหากพรรคเพื่อไทยชนะ เราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นต่างๆ รวมทั้งเรื่องใช้อำนาจแฝงต่างๆ ต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อควบคุมอำนาจ อำนาจหน้าที่ต้องอยู่ในขอบเขตเชื่อว่าทำอย่างนั้นแล้วเรื่องอำมาตยาธิปไตยจะหมดลง

แต่ถ้าเลือกตั้งแพ้ ก็ทำหน้าที่ตามหน้าที่คนแพ้ การลงสัตยาบันไม่ใช่ว่าจะยุบหรือเลิกนปช.แดงทั้งแผ่นดิน เพียงแต่เรายอมรับผลการเลือกตั้ง ยังมีช่องทางตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญในช่องทางของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อ หรือการตรวจสอบทางสภา หากได้รับเลือกต้องทำหน้าที่ตรงนั้น

คดีความที่มีอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป แต่ไม่ใช่แค่พวกผมที่มีคดี นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ หรือแกนนำพันธมิตรฯ พวกนี้มีคดีกันทั้งนั้น ไม่มีปัญหา

หลังการเลือกตั้ง องค์กรนปช.จะยังอยู่ โดยรวบรวมเครือข่ายประชาชนไว้ การจัดระบบเรื่องโรงเรียน ผู้ปฏิบัติการนปช.ยังต้องคงอยู่ ทำหน้าที่ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้หนีหายไปไหน



น.พ.เหวง โตจิราการ

แกนนำ นปช.



การชุมนุมที่เกิดขึ้นครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนที่ต้องการระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขสูงมาก ดูได้จากจำนวนผู้มาร่วมชุมนุมไม่ลดลง รวมถึงคนกทม.มาร่วมมากขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่าโอกาสที่กลุ่มอำมาตย์จะมีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญน้อยลงทุกที และแสดงให้เห็นว่าแนวทางสันติวิธีที่เรายึดมั่น ทำให้เกิดเสียงตอบรับจากประชาชนมากขึ้นทุกที

การที่บอกว่านปช.ว่าจ้างคนมาร่วมชุมนุนนั้นถือว่าโกหก เป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามนำมาใช้เป็นอาวุธทางการเมือง เพื่อดิสเครดิตการชุมนุมของนปช. แต่ไม่มีผลอะไรจะเห็นได้ว่าเขาพยายามโยนข้อกล่าวหาให้เราตลอด ทั้งการว่าจ้างคนมาชุมนุมเราต่อสู้เพื่อคนๆ เดียว เราเป็นลิ่วล้อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่เรื่องพวกนี้จุดไม่ติดจึงพยายามเอาเรื่องที่ใหญ่กว่า อย่างก่อการร้าย หรือล้มเจ้ามาเป็นอาวุธทางการเมือง ทั้งที่ทั้งหมดเป็นการใส่ร้ายป้ายสี

อย่างไรก็ตาม การสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ มันไม่ใช่เรื่องคุ้มหรือไม่คุ้ม เราไม่เคยต้องการให้เกิดความสูญเสีย แต่มีจุดมุ่งหมายต้องการให้อำนาจการเลือกตั้งกลับมาอยู่ในมือของประชาชน ความสูญเสียที่เกิดขึ้น มีการสอบสวนและดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

ผมเชื่อว่าการเลือกตั้งล้มอำมาตย์ได้ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะเป็นช่องทางสำคัญ หากแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ อำนาจการแทรก แซงของอำมาตย์จะหมดลง ผมเชื่อว่าในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จะมีพรรคการ เมืองนำเสนอแนว ทางเอารัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมา ซึ่งเราต้องสนับสนุนรัฐ ธรรมนูญฉบับของประชาชนฉบับนี้ และจะเหมือนการลงประชามติอีกครั้งว่าจะเอารัฐธรรมนูญ ปี 2540 หรือ 2550 ผมมั่นใจว่าจะมีประชาชนไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคนสนับสนุนแนวคิดนี้

แต่หากหลังเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ชนะ ก็ต้องปล่อยให้เขาบริหารประเทศไปต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง แต่นปช.ไม่ได้ล้มเลิกไป ยังมีการรวมกลุ่มกันอยู่ มีการตรวจสอบตามช่องทางที่เปิดไว้ให้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไม่ใช่แค่กรณีพรรคประชาธิปัตย์ หากพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลก็ต้องตรวจสอบ

หลังจากนี้ผมไม่ได้เล่นการเมืองในระบอบผู้แทนฯ แต่จะทำหน้าที่ในองค์กรภาคประชาชนอยู่ตลอด ส่วนเรื่องคดีความก็ต้องต่อสู้กันตามกระบวนการยุติธรรม ชีวิตส่วนตัวผมยังเหมือนเดิม ถ้าเจอใครไม่ชอบ เอาหินขว้างหรือเอาปืนยิง ถ้าหลบได้ก็หลบ ถ้าหลบไม่ได้ บาดเจ็บก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ถ้าตายก็ต้องตาย ไม่ได้กลัวอะไร ไปไหนก็ยังไปคนเดียว

ส่วนแนวทางปรองดองของนายกฯ นั้นเป็นเพราะนายกฯ จนแต้ม จึงต้องเปิดช่องทางลงเพื่อตัวเอง ไม่เช่นนั้นความรุนแรงจะขยายตัวไปทั่วประเทศ เป็นสงครามกลาง เมือง เราไม่ปฏิเสธที่จะจับมือกับรัฐบาลเพื่อหาทาง ออก แต่ขอให้ฝั่งรัฐบาลมีความชัดเจนเสียก่อน



ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

เลขาธิการ นปช.



หลังจากการชุมนุมครั้งนี้ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างสังคมไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน คือต่อจากนี้ประชาชนจะมาทวงสิทธิ์ของเขากลับคืนมาและแสดงให้เห็นว่าพลังของเขามีอยู่จริง

นอกจากนี้ยังอธิบายให้เห็นว่าการต่อสู้มากว่า 4 ปี ดอกผลออกมามากมาย เราเริ่มจากขบวนการต่อต้านรัฐประหารกลุ่มเล็กๆ เผชิญข้อกล่าวหาเป็นม็อบรับจ้าง เป็นพวกรากหญ้าไร้การศึกษา แต่วันนี้คนทั้งโลกให้ความสนใจกับพลังของคนกลุ่มนี้สังคมให้การยอมรับ ต้องบอกว่าเราเติบโตมากกว่าพันธมิตรฯ มีฐานรากที่เข้มแข็งกว่าหลายเท่า

สิ่งสำคัญคือหลายเรื่องที่เราพูดมา 3-4 ปี คนยอมรับว่ามีปัญหาจริงๆ ไม่ว่าเรื่องอำมาตยาธิปไตย ระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน อำนาจนอกระบบ ความไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศนี้ เราจึงพร้อมเดินไปข้างหน้าเพื่อสร้างรัฐไทยใหม่ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

แม้วาทกรรมเรื่องรัฐไทยใหม่จะถูกวิจารณ์มาก ยึดโยงถึงเรื่องล้มสถาบัน แต่ผมมองเป็นเรื่องปกติ ที่ฝ่ายตรงข้ามจะสร้างภาพว่าเราไม่ใช่ขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การถูกโจมตีเรื่องเหล่านี้ผมไม่ได้ใส่ใจ

หากจะเปรียบเทียบแล้ว พันธมิตรฯ เสนอเรื่องการเมืองใหม่ สัดส่วน 70-30 ผมเสนอเรื่องรัฐไทยใหม่ คือประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตย อย่างแท้จริง มีความเป็นธรรม ไม่มีการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบ และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยากถามว่าข้อเสนอของใครส่งผลเสียหายกับระบอบประชาธิปไตย มากกว่ากัน

ต้องยอมรับว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ถือเป็นความปวดร้าว ไม่คิดว่าการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของตัวเองจะต้องบาดเจ็บล้มตายจากฝีมือของรัฐบาลที่อ้างว่ามาจากประชาชน เรื่องนี้จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ รวมถึงส่งเรื่องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศด้วย

ขณะที่แนวคิดปรองดองของรัฐบาลนั้น ผมมองว่าเป็นการหาทางออกให้ตัวนายอภิสิทธิ์เอง แต่เมื่อข้อเสนอเดินทางตามแนวทางสันติที่เรายึดถือ ก็พร้อมร่วมดำเนินการ นายอภิสิทธิ์อาจจะได้ประโยชน์ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยประเทศก็ได้ด้วย เพราะความสูญเสียเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้อีกแล้ว

ถ้าถามว่าเรื่องยุบสภาถือเป็นชัยชนะของเสื้อแดงหรือไม่ ผมบอกเลยว่าผู้ชนะที่แท้จริงคงเป็นประเทศไทย ยุติความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น เป็นชัยชนะของคนไทยทั้งหมดที่ไม่ทำให้ความรุนแรงลุกลามออกไป

นอกจากนี้คนเสื้อแดงไม่ได้สู้เพื่อประกาศชัยชนะรายวัน เราสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงความเท่าเทียม และความเสมอภาค การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นล่างและชนชั้นสูง การเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาถือเป็นศึกย่อยครั้งหนึ่ง ศึกต่อไปของเราคือการเลือกตั้ง การสร้างสังคมให้เกิดความเป็นธรรม การแก้รัฐธรรมนูญก็ถือเป็นศึกครั้งหนึ่ง ทุกอย่างต้องดำเนินการต่อไป

หากเปรียบเทียบอำมาตย์คือมะม่วงสุก เราต้องการเด็ดผลมะม่วง แต่ระหว่างทางเจอกิ่งก้านหรือรังมดแดง ก็ต้องเสียเวลาจัดการกับอุปสรรคเหล่านี้ก่อน โครงสร้างที่อำมาตย์สร้างขึ้นมาไม่ว่าองค์กรอิสระ กองทัพ ทุกอย่างยังเป็นเส้นทางที่เราต้องผ่านไป จนถึงศึกสุดท้ายในการโค่นล้มอำมาตย์ ซึ่งผมมั่นใจว่าเราทำได้

ทั้งนี้ หลังยุบสภา ผมคงสมัครส.ส. ถ้าได้รับเลือกก็ทำหน้าที่ ไม่ได้รับเลือกก็คือไม่ได้ ส่วนคดีความก็สู้กันตามกระบวนการ ชีวิตส่วนตัวผมไม่มีเปลี่ยนแปลง วันหยุดพาภรรยาลูกไปเที่ยว ชีวิตไม่ต้องมีการ์ดมาคอยห้อมล้อม ก่อนนี้เป็นยังไง หลังจากนี้ก็เป็นอย่างนั้น

ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมก็ต้องปกป้องครอบครัวผมอย่างเต็มที่ ซึ่งผมมั่นใจว่าผมทำได้