ที่มา ข่าวสด
เพราะหลังจากนายอภิสิทธิ์เปิดห้องต้อนรับ พูดคุยกับกลุ่มพันธมิตร ตัวแทนม็อบตุลย์ และม็อบกลุ่มเฟซบุ๊ก ก็เริ่มมีน้ำเสียงแปลกแปร่งไป
โดยเฉพาะม็อบขาใหญ่ ซึ่งโฆษกประจำตัวนายอภิสิทธิ์ เชิดชูว่าเป็นกัลยาณมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ดูเหมือนจะเสียงดังเป็นพิเศษ
มีการออกแถลงการณ์ประณามว่าเป็นการปรองดองกับขบวนการก่อการร้ายรัฐไทยใหม่ และเสนอให้นายกฯลาออก เพื่อหาคนใหม่มาปราบปรามให้สิ้นซาก
นอกจากนี้ ยังมีเสียงจากเอสเอ็มเอสส่งไปด่าไอ้เฮงซวย ซึ่งดูเหมือนจะตั้งใจค้อมหูรับฟังเช่นกัน
รายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการอธิบาย ซ้ำ อธิบายเพิ่มโรดแม็ปแล้ว
ยังมีเสียงโอดครวญเรียกร้องความเห็นใจจากกองเชียร์ส่วนตัวอยู่ด้วย
ส่วนแผนการเลือกตั้งที่ประกาศว่าจะเป็นวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งกลายเป็นสัญญาประชาคมมัดคอนายอภิสิทธิ์ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ระบุถึงวันยุบสภา
นายกรัฐมนตรีชี้แจงเพิ่มเติมว่าจะมีการเลือกตั้งก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมในการเข้ามาสู่กระบวนการปรองดอง
รูปธรรมที่เราต้องการเห็นคือ การชุมนุมทางการเมืองซึ่งผิดกฎหมายต้องยุติลงจากวันนี้จนถึงการยุบสภา
การเลือกตั้งนั้น ต้องมีรูปธรรมชัดเจนว่ารัฐบาล รัฐสภา พรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองต่างๆ สามารถทำหน้าที่ตามกฎหมายได้โดยไม่มีการขัดขวาง
ความหมายคือว่า นักการเมืองทุกฝ่ายต้องมาประสานกันว่า ต้องไปลงพื้นที่ได้ ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีความรุนแรง
"ถ้าทำได้ ผมก็บอกว่ารัฐบาลพร้อมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย. แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็หมายความว่าการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นไม่ได้"
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ก็ตำหนิม็อบราชประสงค์ว่าตอบรับแผนปรองดอง แต่ทำไมไม่ยอมยุติการชุมนุม ถ้าเข้าร่วมจริงก็ต้องรีบยุติ อย่าไปคิดว่าเสียหน้า
ที่ประกาศไว้ว่าจะสลายการชุมนุมวันที่ 15 พ.ค. นั้นช้าเกินไป
ทั้งๆที่ความจริงรัฐบาลน่าจะมีความชัดเจนก่อนที่จะเรียกร้องจากคนอื่น
แต่ขณะนี้กลายเป็นว่าถ้าไม่ยอมเลิกม็อบ ก็จะไม่ยุบสภาอย่างนั้นหรือ
หวังว่าแผนปรองดองที่ตกผลึกทางความคิด จะไม่ถูกลบด้วยเท้า