ที่มา ข่าวสด
สถานการณ์ดูผ่อนคลายลงหลังนายกฯ ประกาศโรดแม็ปปรองดอง
โคทม อารียา/น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์
แต่เมื่อข้อตกลงของ 2 ฝ่าย ไม่นำไปสู่ข้อยุติที่ลงตัว แกนนำกลุ่มนปช.ยังประกาศปักหลักชุมนุมต่อไป ขณะที่รัฐบาลใช้มาตรการข่มขู่กดดัน
บรรยากาศความปรองดองเริ่มจางหายทดแทนด้วยความอึมครึมขึ้นอีกระลอก
นักสันติวิธีคิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์เปราะบางเช่นนี้
โคทม อารียา
ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผมเห็นว่านปช. น่าจะประกาศยุติการชุมนุมได้ ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ก็ประกาศเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่ถูกกล่าวหา ก็ไม่น่าจะมีปัญหา หากทำอย่างนี้ทุกอย่างก็จบ
เมื่อทุกฝ่ายบอกว่าต้องการสงวนเลือดเนื้อของประชาชน นปช.ที่ยังเกี่ยงงอนอยู่ก็ต้องเลิกเกี่ยงงอนได้แล้วโดยยุติการชุมนุมไป ส่วนรัฐบาลก็เสียสละให้นายสุเทพแสดงออกถึงความรับผิดชอบ อาจไม่ถึงกับเสียสละมากมายแต่อาจเสียหน้านิดหน่อย
นปช.ต้องยุติการชุมนุมจริงๆ นายกฯ ก็ต้องยืดหยุ่น เรื่องการยุบสภาและประกาศวันเลือกตั้ง 14 พ.ย. ที่เป็นสาระ เมื่อนปช.ประกาศรับแผนปรองดองแล้ว การแสดงท่าทีแตกแยกก็ไม่น่าจะมีแล้ว ยกเว้นปัญหาเรื่องมอบตัว ที่แกนนำกลัวไม่ได้รับการประกันตัว
รัฐบาลก็ประกาศเลยว่าไม่ต้องกลัว เพราะทุกอย่างจะต้องเข้ากระบวนการปรองดอง ประเด็นอยู่ที่นปช. ไม่ยอมประกาศยุติการชุมนุม มีคำว่า "แต่" มากเกินไป ทั้งที่น่าจะยุติได้โดยไม่มีเงื่อนไข นปช.กำลังพูดไปเรื่อยจนคนชักไม่มั่นใจนปช.
ถ้านปช.บอกจะยุติวันที่ 14 พ.ค. ก็น่าจะยุติแน่ๆ ก็ชุมนุมครบ 2 เดือนพอดี ส่วนนายสุเทพ ก็ใจกว้างนิดหนึ่ง แต่ตอนนี้มันติดนิดเดียว เรื่องใหญ่คือเรื่องปรองดอง เพราะยุบสภาเลือกตั้งใหม่เราก็กำหนดหมดแล้ว
อยากบอกว่าบรรยากาศวันนี้กลับมาอึมครึมอีก ก็รู้สึกเสียดายเพราะชีวิตมนุษย์มีค่ามาก แต่ก็พูดยาก คบไฟใกล้ดินประสิว สะเก็ดไฟติดย่อมลุกวูบวาบ
ผมคิดว่าที่ ศอฉ. บอกว่าจะใช้ความรุนแรงก็เหมือนอยู่ใกล้ไฟ ผมคิดว่าเราอย่าเดินใกล้หน้าผา ที่บอกจะไม่ตกหน้าผา อย่างไรก็น่ากลัวอันตรายตกหน้าผาได้ทุกเมื่อ
นปช.ที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขหลักการทั้งที่รับกระบวนการปรองดองหมดแล้ว ยังคงมี "แต่" มาหลายวันแล้ว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
กระแสสังคมที่เอาใจช่วยนปช. เมื่อเห็นว่านปช.วันนี้ไม่ยอมฟังใคร นปช.ก็ต้องทบทวนเหมือนกัน อย่าให้สิ่งที่ตัวเองเรียกร้องมาตลอดทั้งเรื่องความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำก็ดีสูญเปล่า
ถ้าวันนี้นปช.ทำให้เสียหายหมด สุดท้ายก็จะเสียหายทั้งขบวน
น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์
ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า
นารี เจริญผลพิริยะ/ดิเรก ถึงฝั่ง
อดีตผู้ประสานงานเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ช่วงวิกฤต "ม็อบเสื้อเหลือง"
วันนี้มาถึงจุดที่ยาก แต่ก็ต้องพยายามทั้งคู่ ต้องเข้าใจกระบวนการเจรจาว่าไม่ใช่การต่อรอง แต่การเจรจาโดยกระบวนการวิธีการต้องมีหลักสากลในการเจรจา
ผมเป็นกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ เราได้สำรวจทั้งกรรมการและนักวิชาการกว่า 100 คน สรุปว่าควรมีการเจรจา โดยมี 7 ขั้นตอน ในการเจรจา คิดว่าสภาวิจัยฯ น่าจะส่งให้นายกฯ ดูแล้ว การเจรจาไม่ใช่การเอาแพ้เอาชนะกัน
วันนี้นายวีระ มุสิกพงศ์ ถือเป็นตัวเชื่อมกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่สำคัญ ผมยังคิดว่าน่าจะต่อสายติดอยู่ ต้องพยายามต่อไป สิ่งที่อยากฝากคือคนที่เอาคนมาเป็นหมื่นเป็นแสนคนหากจะหยุด ก็ต้องตอบโจทย์ว่าทำไมเลิก
สิ่งสำคัญของผู้ทำหน้าที่เจรจาต้องเข้าใจ ช่วยคิด ตอบโจทย์ที่ยอมเลิกง่ายๆ อย่าไปมองว่านปช.ยึกยัก คิดว่าน่าจะต่อเวลาในการพูดคุยกันอีกได้ ส่วนสัปดาห์หน้าโรงเรียนก็น่าจะเลื่อนเปิดได้
เราต้องพยายามอย่างที่สุดอีกที ให้สังคมเห็นว่าเราพยายาม ประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งก็นำมานั่งเจรจากันเมื่อยุติได้แล้ว
จากภาษาท่าทางที่ออกมา ผมฟังดูว่านปช.ก็ยังอยากปรองดอง แต่มีประเด็นนิดๆ หน่อยๆ ถ้าตกลงได้ไม่กลัวเสียหน้า ก็ทำความเข้าใจเจรจากันในประเด็นที่ตกลงไม่ได้
ขณะนี้แค่เป็นการต่อรองยังไม่ได้เจรจา นายกฯ ก็ต้องมีภาษาท่าทาง จะให้ยอมทุกอย่างไม่ได้ เพราะคนยืนอยู่หลังนายกฯ จะมองนายกฯ ยอมเสื้อแดงทุกเรื่องไม่ได้ ประเด็นที่ประกาศก็ต้องเข้าสู่โต๊ะเจรจา
ผมไม่แน่ใจท่าทีนปช. เพราะฟังนปช.บางคนก็ยอมรับข้อเสนอ แต่คุยกันแล้วก็น่าจะมีปัจจัยเหตุผลบางอย่าง หรือคนที่อยู่ต่างประเทศบอกว่ายังไม่ใช่หรือไม่ ก็น่าจะพยายามต่อไป
ภาษาท่าทางที่ต้องแสดงออกมาหรือทางลับที่คุยกัน เอาจุดเล็กๆ มาคุยกัน ขณะที่เป้าใหญ่คือการปรองดอง แล้วค่อยมาคุยวันยุบสภา วันเลือกตั้ง
ส่วนที่ศอฉ.จะเข้าสลายการชุมนุม คิดว่ายังไม่น่าทำ ถ้าเข้าไป คนอยู่กันจำนวนหนึ่งภาพออกมาย่อมมีเลือดตกยางออก ภาษาท่าทางที่เอาจริง
ทั้งหมดเป็นกระบวนการที่เราต้องเข้าใจแต่ละฝ่าย
นารี เจริญผลพิริยะ
หัวหน้าโครงการสันติอาสาสักขีพยาน
โดยหลักการแล้วความขัดแย้งจะแก้ได้ต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย ถ้ากระทำแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็คงจะไม่สำเร็จ
การจะได้รับความร่วมมืออาจเกิดจากการที่ข้อเรียกร้องได้รับการตอบสนอง ขณะนี้ข้อเรียกร้องแรกของผู้ชุมนุมต้องถือว่าได้รับการตอบสนองแล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่คือความไม่ไว้วางใจ
ไม่ใช่การไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับข้อตกลง แต่เป็นการไม่ไว้วางใจต่อการรับผิดชอบต่อการตาย ว่าจะดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายหรือไม่ ผู้ชุมนุมยังเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีอยู่ฝ่ายเดียว
ข้อเสนอของคนในฐานะที่ต้องการให้เกิดความปรองดอง คือถ้าจะให้ยุติธรรมก็มอบตัววันเดียวกันเสียเลย
แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเรื่องที่ต้องการให้คู่กรณีมอบตัว เป็นความต้องการที่แท้จริงของผู้ชุมนุมด้วยหรือไม่ เนื่องจากเหตุผลการชุมนุมที่ผ่านมาข้อเรียกร้องแรกได้รับการตอบสนองไปแล้ว ตอนนี้ถ้าจะเปิดข้อเรียกร้องใหม่ก็ไม่แน่ใจว่าสาธารณชนจะยอมรับหรือไม่
คนอาจรู้สึกว่าต่อไปจะมีเรื่องใหม่ๆ ขึ้นมาอีกหรือเปล่า ถ้าไม่อยากให้เสียแนวร่วมควรให้ข้อเรียกร้องจบเป็นเรื่องๆ จะดีกว่า ถ้ายื้อไปนานจะเสียแนวร่วมมากกว่าจะได้การสนับสนุน
ในส่วนของรัฐบาล อย่าใจร้อนจนเกินไป ตอนนี้ไฟอาจจะใกล้มอดแล้ว ถ้ารัฐบาลใช้กำลัง ไฟอาจจะลุกขึ้นมาอีก
ที่รัฐบาลบอกว่าจะมีการเลือกตั้ง นี่คือสัญญาประชาคม ผู้นำพูดออกมาแล้วต้องรักษาคำพูด การที่นายกฯ ออกมาบอกยกเลิก ไม่แน่ใจว่าเขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ ตั้งใจจะล้มเลิกจริงๆ หรือเป็นการขู่ให้อีกฝ่ายลดข้อต่อรอง
ตอนนี้รัฐบาลลดราวาศอกลงแล้วหลายเรื่อง ในขณะที่ผู้ชุมนุมยังมีข้อต่อรองใหม่ๆ เลยไม่แน่ใจว่าที่บอกเลิกวันเลือกตั้ง นี่เป็นท่าทีที่จะบอกอีกฝ่ายหนึ่งว่า ฉันให้เต็มที่แล้ว ฉันจะไม่ยอมลดลงไปกว่านี้แล้วหรือไม่
ถ้าเป็นเพียงแค่สัญญาณบอกกับฝ่ายตรงข้าม การเลือกตั้งอาจจะไม่ได้ล้มไปจริงๆ
ไม่แน่ใจว่าผู้นำการชุมนุมจะอ่านสัญญาณนี้ออกหรือไม่ ถ้าอ่านไม่ออกก็อาจเกิดปฏิกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นได้ เพราะขณะนี้ผู้ชุมนุมเองไม่เป็นเอกภาพ ฝ่ายที่นิยมความรุนแรงในหมู่ผู้ชุมนุมพยายามเข้ามามีอำนาจ จึงยังคาดเดาทิศทางได้ยาก
แผนปรองดองจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 1-2 วันนี้ว่าผู้ชุมนุมจะยอมลงให้หรือไม่ ถ้าเขาไม่ยอมลงและคนข้างเคียงเกิดอยากจะใช้กำลังขึ้นมา มันก็จะตีไปอีกทิศทางหนึ่ง
ตอนนี้สถานการณ์คล้ายกับอยู่บนโต๊ะบิลเลียด เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถ้าผู้ชุมนุมยังไม่ตอบรับออกมาชัดเจน การที่แผนปรองดองจะเดินหน้าต่อไปก็คงลำบาก
เพราะการจะเดินต่อไปได้นั้นต้องได้รับความร่วมมือและความร่วมมือนี้บังคับกันไม่ได้ ต้องมีความไว้วางใจซึ่งกันและกันก่อน
โดยยุทธวิธีของการชุมนุมต้องมีการด่าทอกัน ทำให้เกิดความเกลียดชัง และกว่าจะทำให้คนที่เกลียดชังกลับมาไว้วางใจกันได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร
เรื่องนี้คงไม่ง่ายสักเท่าไหร่
ดิเรก ถึงฝั่ง
ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์
จากการได้คุยกับนายกฯ ท่านยืนยันว่ามีความตั้งใจปรองดองอย่างจริงจัง พยายามหาทางคลี่คลายสถานการณ์
แต่เมื่อนายกฯ ยังไม่ประกาศวันยุบสภาให้ชัดเจนก็จะยังไม่เกิดความไว้วางใจกัน ยังเกิดความระแวงซึ่งกันและกัน ไม่เกิดความเชื่อมั่นต่อกัน ดังนั้น ต้องแสดงความจริงใจออกมาให้เห็น
นายกฯ ต้องยืนยันโรดแม็ปเหมือนเดิม ประกาศวันยุบสภาให้ชัดเจนและให้มีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. ตามเดิม ขอให้สองฝ่ายใช้ความอดทน หาทางพูดคุยกันอีก ลดเงื่อนไขของแต่ละฝ่ายลง
เพราะการใช้ความรุนแรงไม่ได้ประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง มีแต่จะซ้ำเติมให้บ้านเมืองบอบช้ำ รัฐบาลอย่าใช้วิธีสลายการชุมนุมโดยเด็ดขาด ผมเชื่อว่ายังมีหนทางที่จะเจรจากันได้
การเตรียมรถหุ้มเกราะลุยเข้าไปผู้ชุมนุมหรือขู่ตัดน้ำ ตัดไฟ มันไม่ได้ประโยชน์ ต้องเข้าใจว่าการเจรจาไม่มีใครได้ใครเสียร้อยเปอร์เซ็นต์ ฝากวิงวอนไปยังสองซีกต้องหาทางปรองดองกันด้วยความจริงใจ
ฝากไปยังคุณสุเทพ เมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงยื่นเงื่อนไขให้ไปมอบตัวกับกองปราบปราม ท่านควรเสียสละเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
หากไปมอบตัวกับกองปราบปรามแล้วกลุ่มคนเสื้อแดงสลายการชุมนุมไปจากสี่แยกราชประสงค์ แยกย้ายกลับตามภูมิลำเนา คนที่จะได้รับการสรรเสริญยกย่องคือคุณสุเทพ เพราะเป็นคนคลี่คลายวิกฤตให้บ้านเมือง
เป็นการวัดใจกลุ่มคนเสื้อแดงว่าจะสลายการชุมนุมอย่างที่ประกาศไว้หรือไม่ ถ้าเบี้ยวไม่ยอมสลายการชุมนุม ฝ่ายคนเสื้อแดงก็จะถูกกระแสสังคมต่อต้านในที่สุด
ส่วนคุณสุเทพ เมื่อมอบตัวแล้วก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีในเรื่องการประกันตัว
การมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามตามเงื่อนไขของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่การเสียศักดิ์ศรี แต่ตรงกันข้าม แม้ทำแล้วใครจะคิดว่าเสียศักดิ์ศรี แต่สิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง สังคมจะเห็นใจคนนั้น
หากไม่เชื่อคุณสุเทพ ลองทำดู ผมว่าจะมีแต่คนเข้าใจและยกย่อง
กระแสสังคมเริ่มโล่งอกเมื่อนายกฯ ประกาศปรองดองกับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากนายกฯ ล้มโรดแม็ป บ้านเมืองจะหาทางออกได้ยาก เมื่อประกาศออกไปแล้วต้องทำ
โรดแม็ปทั้ง 5 ข้อ เป็นแนวทางเดียวกันกับรายงานฉบับ "สมานฉันท์ สร้างสันติสุข" ที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอไปให้พิจารณา
วันนี้ฝ่ายค้าน นปช. กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่ายอมรับโรดแม็ปของนายกฯ ดังนั้นนายกฯ ต้องเดินหน้าต่อไป ถ้าไม่ทำ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้
หากไม่ยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามที่นายกฯ ประกาศไว้ ความปรองดองก็ไม่เกิด
โรดแม็ปก็ทำไม่สำเร็จ
เพื่อไทย
Friday, May 14, 2010
นักสันติวิธีเตือน"แดง-รัฐบาล"ถอยคนละก้าว
รายงานพิเศษ