WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 14, 2010

อ๋อยบี้มาร์ค เลิกคิดทุบม็อบ

ที่มา ข่าวสด


ปชป.ขู่แฉ พยานเท็จ "ยุบพรรค"



"จิ๋ว"เปิดบ้าน รับอวยพรวันเกิด 78 ปี เชื่ออีก 1-2 วันวิกฤตการเมืองทุกอย่างจบ ปรามกองทัพอย่าใช้กำลังเข้าสลายม็อบ "อภิวันท์"เผยช่วยเคลียร์"แม้ว-นปช." ระบุประสานงานล่าสุด รัฐบาลรับปากจะให้ประกันตัวแกนนำเสื้อแดง หากเข้ามอบตัว เพราะถ้าจับขังไม่ให้ประกัน สถานการณ์ลุกเป็นไฟแน่ "จาตุรนต์"แนะ"อภิสิทธิ์"ทบทวนท่าทีด่วน เลิกคิดใช้กำลังเข้าสลายม็อบ ไม่เช่นนั้นจะเป็นความผิดพลาดที่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เตือนทหารอย่าเป็นเครื่องมือรัฐบาลเข่นฆ่าประชาชน ปชป.อัด "แม้ว" ตีสามหน้า อ้าง "สุเทพ"เข้าพบดีเอสไอ ถือเป็นการมอบตัวแล้ว ทวงสัญญาเสื้อแดงสลายการชุมนุม บอกเลื่อนยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ ไม่เกี่ยวกับแผนปรองดอง "กษิต"ทำจดหมายถึงรมต.ต่างประเทศทั่วโลก ชี้แจงสถานการณ์การเมืองในไทย

"จิ๋ว"เผยอีก 1-2 วันวิกฤตจบ

เวลา 09.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จัดงานวันเกิดครบ 78 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 15 พ.ค. โดยมีพิธีทำบุญเลี้ยงพระและจัดซุ้มอาหารต้อนรับแขกเหรื่อ ตลอดช่วงเช้ามีนักการเมืองเข้าร่วมอวยพรโดยเฉพาะส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เคยอยู่พรรคความหวังใหม่ และพรรคอื่นๆ อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมทั้งสมาชิกพรรคเพื่อไทย นำโดย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา นางสุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค เป็นต้น

พล.อ.ชวลิตให้สัมภาษณ์ว่า อายุ 78 ปีแต่ถ้านับแบบจีนก็ 79 วันเกิดไม่ต้องการอะไรนอกจากให้บ้านเมืองสงบ ขอให้คนในบ้านเมืองเชื่อมั่นสถาบันหลัก เชื่อมั่นว่าวิกฤตบ้านเมืองขณะนี้ 1-2 วันจะแก้ไขได้ จบลงด้วยดี เมื่อถามว่าหมายถึงการเจรจาใช่หรือไม่ พล.อ. ชวลิตกล่าวว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเจรจาอย่างเดียวถึงจะจบ รัฐบาลก็อยากให้จบ ส่วนคนเสื้อแดงมุ่งหวังให้การเมืองการปกครองของเราเป็นธรรม ยุติธรรม ขณะนี้รัฐบาลหวังจะดูแลสถาน การณ์ให้ดีขึ้น กองทัพเองก็น่ารัก ทำหน้าที่เรียบร้อย เชื่อมั่นว่าจะไม่สลายการชุมนุม ไม่ใช้ความรุนแรง เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง รัฐบาลต้องรู้อยู่แล้ว แม้จะมีข่าวเรื่องการนำกำลัง การพยายามนำส่วนนั้นส่วนนี้ เช่น ไปนำพวกกลุ่มอาชีวะมา เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น ส่วนข่าวการเจรจาลับตนไม่ทราบ ไม่ได้มาเจรจาประสานกับตน แต่เชื่อว่ากองทัพยังยึดมั่นหลักการอยู่ข้างประชาชน คงรู้และเข้าใจว่าหากสลายแล้วประชาชนจะบาดเจ็บล้มตาย ขณะนี้มีสัญญาณดีที่ทุกฝ่ายจะหันหน้ามาคุยกัน

เชื่อ"มาร์ค"ไม่เลื่อนเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าความแตกแยกของแกนนำ นปช. จะทำให้ปัญหาบานปลายหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ความแตกแยกของแกนนำเป็นความแตกแยกเพื่อเอกภาพ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ต้องรับรู้ว่าคนทั้งแผ่นดินต้องการการปกครองเป็นธรรม มีเสรีภาพ ในส่วนของตนไม่มีคนจากรัฐบาลหรือกองทัพมาประสานเจรจา เพียงแต่มีการแจ้งข่าวจากพี่น้อง หรือคนที่เคยรู้จักในกองทัพรายงานข่าวให้ทราบ เมื่อถามว่ามีการร้องเรียนให้รัฐบาลรับผิดชอบกรณีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องเรียกร้อง รัฐบาลต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เมื่อถามว่านายกฯ ระบุถ้า นปช.ไม่ยุติการชุมนุมจะไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า นายกฯ เองก็กังวลใจ อยากให้ปัญหาจบ เชื่อว่าไม่เลื่อนวันเลือกตั้ง เมื่อถามถึงเหตุรุนแรงใช้เอ็ม 79 ก่อเหตุหลายครั้ง พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะมีคนมือบอนเยอะ การควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำมาใช้ก่อเหตุควบคุมได้น้อย

เมื่อถามถึงข่าวส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนสนับสนุนลงเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมชูให้เป็นนายกฯ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้เป็นส.ส. เป็นไม่ได้ ตนเข้ามาทำงานทั้งที่ยุติบทบาททางการเมืองไปแล้วครั้งหนึ่ง อยากเข้ามาทำงานแก้ปัญหาให้บ้านเมือง เมื่อสามารถเดินหน้าแก้ปัญหาและบรรลุผลได้ถือว่าภารกิจจบ เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณโทร.มาอวยพรวันเกิดหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า คงยังไม่ตื่น เมื่อถามว่าจะไปขอพรจากพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า อยากไปอยู่ แต่ต้องขออนุญาตท่านก่อน พล.อ.เปรมเป็นคนที่เคารพ คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้

"เหนาะ"ย้ำให้นายกฯลาออก

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ให้สัมภาษณ์ว่า บ้านเมืองขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่เดินต่อไปไม่ได้ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ไม่ลาออก เวทีสภาก็ทำหน้าที่ไม่ได้ ฝากถึงกองทัพว่าทำอะไรเป็นประโยชน์เพื่อประเทศชาติได้หรือไม่

นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.หลายคนอยากให้พล.อ. ชวลิตมีพลังขับเคลื่อนนำส.ส.เป็นเหมือนหลักในการแก้ปัญหา วันเกิดท่านก็ได้อวยพรให้เป็นหลักต่อไป ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จัดเลี้ยงอาหารแกนนำ นชป.ภาคอีสานทุกคน ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และรักษากลุ่มมวลชนกับพรรค เพื่อขับเคลื่อนมวลชนยามวิกฤตและจะเลี้ยงกระชับมิตรทุกๆ เดือน

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ระบุจะไม่ยุบสภาและไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. รวมทั้งให้ ศอฉ.ใช้มาตรการกดดันปิดล้อมคนเสื้อแดงเพื่อขอพื้นที่ราชประสงค์คืน ว่า ทราบว่ามีการนำรถหุ้มเกราะจากค่ายอดิศร จ.สระบุรี 20 คัน เตรียมกระสุนจริงและกระสุนยาง อย่างละ 1.2 แสนนัด ซ้ำเติมสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น ถ้าสลายการชุมนุมอาจนำไปสู่สงครามกลาง เมืองแล้วลุกลามเป็นสงครามทั่วประเทศ วิธีปรองดองที่แท้จริงที่นำไปสู่ความสมานฉันท์รัฐบาลต้องจริงใจ ไม่ใช่สักแต่พูด แต่การกระทำกลับปองร้ายข่มขู่ เช่น ตัดน้ำ ตัดไฟ รัฐบาลกำลังจุดไฟเผาเมือง ทำ ความขัดแย้งให้บานปลาย ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหายยับเยิน

เพื่อไทยแถลงเรียกร้อง 5 ข้อ

โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามแนวทางปรองดอง 1.สั่งการให้ดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินคดีสลายการชุมนุม 10 เม.ย. พร้อมแจ้งข้อหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศอฉ. และกรรมการ ศอฉ. 2.ให้นายสุเทพมอบตัวกับดีเอสไอหรือตำรวจในฐานะผู้ต้องหา พิมพ์ลายนิ้วมือและทำทะเบียนประวัติ 3.นายสุเทพต้องลาออกจากรองนายกฯ และ ผอ.ศอฉ. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการสอบสวน 4.ยก เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคง ถอนทหารกลับกรมกอง 5.เลิกปิดกั้นสื่อที่เห็นต่างจากรัฐบาล

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า การประชุมกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราช สีมา พรรคเพื่อไทยเป็นประธาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหารือถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่าเป็นไปตามข้อกล่าวหาการก่อการร้าย มีอาวุธสงครามหรือไม่ ซึ่งพล.ต.หญิงดวงกมล สุคนธทรัพย์ รองผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย บก.สส. มาชี้แจงพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสันติบาล ยืนยันว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่ว่าแยกราชประสงค์หรือสะพานผ่านฟ้าฯ ไม่มีอาวุธสงครามหรือเข้าข่ายขบวนการก่อการร้าย ทั้งนี้ 2 หน่วยงานไม่ได้เป็นกรรมการ ศอฉ. แสดงว่ารัฐบาลตั้งธง ตั้งข้อหา มุ่งจัดการ ขอเตือนนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพว่าการตั้งธงไว้ล่วงหน้าเช่นนี้จะนำไปสู่ความแตกแยกจนเกิดสงครามกลางเมือง

"กษิต"แจงทูต-แผนบีบม็อบ

เวลา 09.45 น. ที่ท้องสนามหลวง นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายกษิตไม่สิ้นสุดลง กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหายื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยกรณีทำหนัง สือลับถึงนายกฯ ให้เร่งดำเนินคดีกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ว่า รู้สึกเฉยๆ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ใครอยากมุ่งอะไรอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะข้อเท็จจริงมันคงอยู่อย่างนั้น เพียงแต่ต้องไปเสียเวลา ต้องใช้เวลา ต้องไปรบกวนศาลรัฐธรรมนูญโดยใช่เหตุ แต่ตนยังมีอีกหลายคดีไม่เฉพาะคดีนี้ เมื่อถามว่าดูเหมือนจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษหลังหลุดคดี นายกษิตหัวเราะก่อนกล่าวว่า "ผมอารมณ์ดีทุกวัน ไม่เคยไม่อารมณ์ดี ไม่เกี่ยวกัน"

นายกษิตกล่าวถึงการเชิญคณะทูตานุทูตและตัวแทนหอการค้าทั่วโลกมาพบเมื่อวันที่ 12 พ.ค. เพื่อชี้แจงมาตรการตัดน้ำตัดไฟบริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อกดดันให้กลุ่มคนเสื้อแดงสลายการชุมนุม ว่า พื้นที่ราชประสงค์และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นที่ตั้งสถานทูตรวม 17 แห่ง จึงจำเป็นต้องแจ้งให้คณะทูตานุทูตรับทราบแนวทางในการปฏิบัติล่วงหน้า และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการซึ่งจัดตั้งขึ้นที่กรมพิธีการทูต มีฝ่ายความมั่นคงร่วมด้วย แต่จนขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินมาตร การตัดน้ำตัดไฟ เพราะยังอยู่ระหว่างหารือกัน

ยอมรับคิดต่าง"สุขุมพันธุ์"

เมื่อถามว่าคณะทูตานุทูตเป็นห่วงมาตรการตัดน้ำตัดไฟหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า คงไม่ เพราะหลายประเทศในโลกก็มีการประท้วง อาทิ จอร์เจีย กรีซ ทุกคนเข้าใจดี เพราะการบริหารราชการแผ่นดินของแต่ละประเทศมักมีการประท้วง มีการคัดค้าน ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามใช้ความอดทนอดกลั้นเป็นสำคัญ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ก็พยายามพูดคุยกับคนทุกกลุ่ม รวมถึงขบวนการเสื้อแดงด้วย

ส่วนกรณีม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ออกมาติงกรณีกระทรวงการต่างประเทศเชิญนายเอริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยมาพบเพื่อประท้วงกรณีผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ไปพูดคุยกับนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เห็นว่าอาจเป็นการสร้างปัญหา นายกษิตกล่าวว่า ก็แล้วแต่ ถือเป็นความเห็นของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ คงมีโอกาสนัดพูดคุยกันเรื่องนี้ ต่างคนต่างคิด แต่ตนคิดว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็นหลักปฏิบัติโดยทั่วไป อะไรที่ทำแล้วเกินเหตุผลไปก็ต้องเตือนให้ทราบด้วยดี แต่ไม่ใช่การว่ากล่าว

รมว.การต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อ 10 วันก่อนได้เชิญคณะทูตฟิลิปปินส์พบเพื่อชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย พร้อมยื่นบันทึกช่วยจำให้ ซึ่งสถานทูตฟิลิปปินส์ได้ส่งบันทึกช่วยจำดังกล่าวเวียนให้ทุกสถานทูตรับทราบแล้ว ทุกสถานทูตได้ให้กำลังใจรัฐบาลในการทำงาน ขณะที่ทูตบางรายยังมาขอโทษหากทำอะไรไม่เหมาะสม นอกจากนี้ตนยังเดินสายไปพบผู้นำในหลายประเทศ

ทำจดหมายชี้แจงทุกประเทศ

"ผมยังได้เขียนจดหมายถึง รมว.การต่างประเทศทุกประเทศ เพื่อแจ้งวิวัฒนาการทางการเมืองของไทยว่ามีประเด็นปัญหาอยู่ที่ไหน และใครเป็นใครในขบวนการเสื้อแดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข่าวเปิดตามหน้าหนังสือพิมพ์ไปแล้ว นอกจากนี้ยังสะท้อนท่าทีของรัฐบาลไทยว่าได้ปฏิบัติทุกอย่างตามขั้นตอนและกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีอะไรที่ใครต้องมาเป็นห่วงเป็นใย เพราะรัฐบาลนี้ไม่มีอะไรปิดบัง ไม่มีอะไรในกอไผ่" นายกษิตกล่าว

เมื่อถามว่าจนขณะนี้ยังมั่นใจหรือไม่ว่าประเทศไทยจะไม่เป็นรัฐที่ล้มเหลว นายกษิต กล่าวว่า ไม่มี จะไปมีได้อย่างไร เรายังบริหารงานได้ ทุกคนยังอยู่กันอย่างเป็นปกติสุข แต่มีชนกลุ่มน้อยเพียงนิดเดียวที่ก่อการสร้างความสับสนให้แก่บ้านเมือง สร้างความเสียหายเป็นหมื่นล้านบาทเพื่อบุคคลคนหนึ่งที่เคยเป็นอดีตนายกฯ ก็เท่านั้น แค่จุดเดียวของสังคมที่เดือดร้อน ส่วนอีก 99.99 เรียบร้อยดี ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหลายประเทศกดดันรัฐบาลไทยไม่ให้สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นายกษิตกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีใครมากดดัน นี่เป็นรัฐเอกราช เรามีอธิปไตย และในการชี้แจงข้อมูลกับคณะทูตานุทูตก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนใครจะไปบิดเบือนอะไรก็แล้วแต่ เช่น สื่อต่างประเทศบางสำนักก็ไม่ได้รายงานข้อเท็จจริง

ปชป.แฉ"แม้ว"ตีสามหน้า

ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.พ.บุรณัชย์ สมุท รักษ์ โฆษกพรรคกล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงยืนยันชุมนุมต่อไปทำให้แผนปรองดองไม่มีเส้นกำหนดเรื่องวันยุบสภาหรือวันเลือกตั้งอีกต่อไป การชุมนุมไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยปกติ มีการ เตรียมการก่อวินาศกรรม เป็นไปได้ที่จะมีความสูญเสียมากกว่าเหตุการณ์ 10 เม.ย.หากสถาน การณ์ลุกลามบานปลาย กรณีพรรคเพื่อไทยจัดทีมเจรจากับแกนนำ นปช.น่าจะทำก่อนหน้านี้นานแล้ว การที่คนบ้านเลขที่ 111 เสนอให้ต่างชาติเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยและเจรจานั้น พรรคยินดีหากองค์กรอื่นๆ นอกประเทศจะเข้าสังเกตการณ์ ทั้งการคลี่คลายสถานการณ์และบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาล แต่ไม่เห็นด้วยที่เอาคนต่างชาติเข้ามาเป็นคนกลางเจรจา

น.พ.บุรณัชย์กล่าวว่า มีรายงานข่าวจาก 3 กลุ่มที่อ้างว่าได้รับมอบอำนาจโดยตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นกระแสข่าวที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง คือกรณีกลุ่มกรุงเทพ 50 ได้รับการติดต่อจากพ.ต.ท.ทักษิณให้เข้าสู่การเจรจา โดยคนที่มีอำนาจเต็มเรื่องของคดีความ ขณะที่แกนนำฝ่ายความรุนแรงอย่างพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ระบุว่าถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่สั่งจะไม่ยุติการชุมนุม แต่วันนี้นายนพดล ปัทมะ กลับพูดอีกทางหนึ่งว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่เอาเรื่องคดีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเจรจา การออกมาให้ข่าวลวงในลักษณะตีอย่างน้อย 3 หน้า มีส่วนทำให้กระบวนการปรองดองไม่เกิดขึ้น จงใจสร้างความสับสนกับผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับพ.ต.ท. ทักษิณ ทำให้เอกภาพของแกนนำไม่สามารถเกิดขึ้นได้

ชี้"สุเทพ"ถือว่ามอบตัวแล้ว

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แกนนำเสื้อแดงอย่าบิดพลิ้วข้อตกลงที่ว่าหากนายสุเทพมอบตัวแล้วจะยุติการชุมนุม นายสุเทพมอบตัวที่ดีเอสไอเมื่อวันที่ 11 พ.ค. เพราะตามกฎหมายผู้รับผิดชอบคือดีเอสไอ และเป็นไปตามข้อเรียกร้องของกรรมการบริหารพรรค รวมถึงโฆษกพรรคเพื่อไทยที่เคยนำญาติผู้เสียชีวิตไปร้องที่ดีเอสไอก่อนจะมีมติให้เป็นคดีพิเศษ มีอำนาจหน้าที่สอบสวนคดี ตามมาตรา 23 พ.ร.บ.การสอบ สวนคดีพิเศษ นายสุเทพมอบตัวกับดีเอสไอจึงเป็นไปตามข้อกฎหมายและบรรลุข้อตกลง ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นกรรมการ ศอฉ.ด้วยนั้น พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ก็เป็นกรรมการ ศอฉ.ด้วย สัปดาห์หน้าโรงเรียนบริเวณดังกล่าวจะเปิดเทอม ขอให้ทางแกนนำทำตามสัญญา

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า วันเกิดพล.อ.ชวลิตถือโอกาสอวยพรให้สุขภาพแข็งแรง อยากเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยขอให้ได้เป็นโดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากนายใหญ่ แต่ถ้าอยากเป็นนายกฯ อวยพรให้ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับศรัทธาประชาชน พล.อ.ชวลิตทำนายว่าการชุมนุมเสื้อแดงจะยุติใน 1-2 วัน ไม่ทราบว่าใช้สมมติฐานใด หรือมองจากความแตกแยกของแกนนำเสื้อแดง

ยัน"มาร์ค"ไม่เบี้ยวปรองดอง

นายเทพไทกล่าวด้วยว่า กังวลใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กระแสสังคมพยายามกดดันให้รัฐบาลทำอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจมีคนไม่พอใจผสมโรงจนเกิดความวุ่นวายควบคุมไม่ได้ ส่วนพรรคเพื่อไทยกล่าวหานายกฯ เบี้ยวกระบวนการปรองดองนั้น ไม่จริง การปรองดองกับการประกาศยุบสภา และกำหนดวันเลือกตั้ง 14 พ.ย.เป็นคนละเรื่อง แต่เกี่ยวเนื่องกัน การปรองดองเริ่มแล้วและจะเดินต่อไป ไม่ว่า นปช.ตอบรับเงื่อนไขหรือไม่

นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนพรรคเพื่อไทยพยายามเป็นพระเอกตอนจบ ให้ส.ส.ไปเจรจากับแกนนำให้ยุติการชุมนุม แต่ต้องหน้าแตกเมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากแกนนำ นปช.ที่ไม่ให้คุณค่าส.ส.เพื่อไทย แม้แต่เวทีปราศรัยก็ไม่อนุญาตให้ขึ้น ทำได้แค่ระดมคนมาร่วมชุมนุม การเลือกตั้ง 14 พ.ย.เป็นโมฆะ ส.ส.กลุ่มนกแลในพรรคเพื่อไทยคงดีใจออกนอกหน้าเพราะไม่อยากเลือกตั้งใหม่ กลัวคนมาแย่งที่นั่ง ยิ่งถ้ามีการนิรโทษกรรมบ้านเลขที่ 111 และ 109 ก็ยิ่งหวาดกลัวว่าจะมาแย่งที่นั่ง ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยบอกว่าการเจรจาของรัฐบาลกับนปช. เป็นการแสดงละครของนายกฯ และนายสุเทพนั้น พรรคไม่ถนัดเรื่องแสดงละครตบตาประชาชน เราไม่สามารถหาสแตนด์อินที่มารับบทได้เหมือนคดีดาบยิ้ม รัฐบาลเสนอกระบวนการปรองดองด้วยความจริงใจ ไม่ใช่อย่างที่ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหา

แฉ 10 ล.ปั้นพยานยุบปชป.

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดียุบพรรค ว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลายื่นคำชี้แจงคดีอีก 15 วัน กรณีใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรค การเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์ ทำให้พรรคมีเวลาเรียบเรียงสำนวนและทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าจะนำเสนอต่อนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความได้ในวันที่ 17 พ.ค. ส่วนคดี 258 ล้านบาทที่ กกต.ส่งเรื่องถึงอัยการสูงสุดแล้วนั้น จะเสนอให้ที่ประชุมทำหนังสือชี้แจงอัยการสูงสุดในประเด็นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้ตามหลักการพรรคไม่จำเป็นต้องชี้แจงต่ออัยการสูงสุด แต่ถ้ามีข้อเท็จจริงบางเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอาจให้อัยการสูงสุดสอบสวนเพิ่มเติมได้ ถ้าอัยการสูงสุดเห็นด้วยกับคำชี้แจงเรื่องอาจยุติในชั้นนี้

นายนิพิฏฐ์กล่าวถึงร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยพบกับอัยการสูงสุด ว่า ไม่ควรทำเช่นนี้ ที่กล่าวหาว่าพรรคได้เงิน จากกองทุนฯ 29 ล้านบาทแต่ใช้จริงเพียง 3 ล้านบาทนั้นก็ไม่จริง เป็นพฤติกรรมสร้างความสับสนให้สังคม ทำให้พรรคเสียหาย ถ้ายังไม่เลิกพฤติกรรมเช่นนี้ กดดันศาล อัยการ ตนจะฟ้องดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทให้พรรคเสียหาย ทั้งหมดอยู่ที่อัยการสูงสุดและศาลที่จะให้ความเป็นธรรม โดยไม่อยู่ภายใต้แรงกดดันของใคร

"ครั้งนี้ผมยกให้ แต่ถ้ามีครั้งต่อไปผมไม่เอาไว้ ผมกับร.ต.อ.เฉลิมเคยมีคดีความกันหลายครั้ง ผมชนะคดีทุกครั้ง ผมยังมีข้อมูลกระบวนการที่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ พบว่ามีบุคคลใช้เงินนับ 10 ล้านบาท จัดหาพยานเท็จมาแอบอ้างว่าเกี่ยวข้องกับพรรค พยายามเชื่อมโยงประเด็นเพื่อนำไปสู่การยุบพรรค" นายนิพิฏฐ์กล่าว

อภิวันท์ช่วยเคลียร์แม้ว-นปช.

ที่บ้านพักซอยปิ่นประภาคม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังเข้าอวยพรวันเกิดพล.อ. ชวลิต กรณีนายกฯ ยกเลิกวันยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ว่า เราต้องมองโลกในแง่ดีว่าต้องมีการเจรจาไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งท้อถอย ตนเองพยายามช่วยประสานงานในบางส่วน และจากการประสานพูดคุยกับแกนนำนปช. ล่าสุดมีเงื่อนไขต้องการให้นายสุเทพเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ เพื่อให้รู้สึกว่าการสลายการชุมนุม 10 เม.ย. กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่จำเลยทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกปราบปราม และยังกล่าวหาประชาชนเป็นผู้ก่อการร้าย อย่างไรก็ตามขณะนี้มีคนเสนอตัวพยายามช่วยเหลือเจรจาในทางลับกับทั้งสองฝ่าย อย่างวันนี้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่มาร่วมอวยพรวันเกิดพล.อ.ชวลิต รับปากจะไปช่วยพูดคุยกับนาย สุเทพ ขอให้เป็นเงื่อนไขสุดท้ายจริงๆ ของกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนตัวเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจออกเป็นหมายเรียกนายสุเทพ โดยต้องให้เกียรตินายสุเทพ ไม่ต้องถึงขั้นให้พิมพ์ลายนิ้วมือ ส่วนข้อเรียกร้องให้เปิดสัญญาณพีทีวีนั้น เป็นการใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อยกเลิกก็จะกลับมาออกอากาศได้เหมือนเดิม

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แสดงความเห็นต่อเงื่อนไขของ นปช.บ้างหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ตนช่วยประสานทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.ไว้แล้วในเรื่องข้อเรียกร้องให้นายสุเทพเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นด้วย และบอกให้ตนช่วยไปพูดคุยกับนายจตุพร เพราะท่านเองก็สั่งนายจตุพรไม่ได้ การที่ระบุเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เข้ามาควบคุมมวลชน

ขังแกนนำระวังลุกเป็นไฟ

ส่วนแกนนำ นปช.ยื่นเงื่อนไขเรื่องการประกันตัว และความกังวลว่าฝ่ายรัฐจะใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งควบคุมตัวแกนนำเป็นเวลา 30 วัน พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า จากการประสานงานครั้งสุดท้าย รัฐบาลรับปากจะให้ประกันตัวแกนนำ นปช.ได้ และตนแสดงความเห็นไปว่า หากมีการใช้อำนาจกักขัง 30 วันตรงนั้นจะทำให้ลุกเป็นไฟขึ้นมาใหม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าเป็นการรับปากจากฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายความมั่นคง พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า เป็นการพูดคุยกับทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการเจรจาฝ่ายรัฐบาลมีข้อแลกเปลี่ยนว่าหากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสกลับมาจัดตั้งรัฐบาล ต้องไม่ส่งเรื่องการใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่สี่แยกคอกวัวให้ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมามีคนออกมาบอกว่าประเทศไทยไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาที่จะส่งต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ตนคิดว่าไม่จำเป็น เพราะหลายประเทศที่ไม่ได้ลงนามและมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่น รวันดา หรือแม้ไม่ใช่กรณีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่น ในยูโกสลาเวีย ที่อดีตผู้นำเผด็จการถูกองค์การสหประชาชาติส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมและสุดท้ายต้องจบชีวิตในคุก แต่ถ้าไทยจะให้เกิดความปรองดองจริงๆ ส่วนตัวเห็นด้วยกับที่ทูตหลายชาติเสนอว่าเราต้องให้อภัยกันจริงๆ อยากให้ปรองดอง ไม่อยากให้ทุกคนเจ็บซ้ำ

อ้างทูตเสนอนิรโทษ"ทุกสี"

พ.อ.อภิวันท์กล่าวว่า นอกจากนี้ในการประชุมร่วมหาทางออกและสร้างความปรองดองให้กับประเทศไทย ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีเอกอัครราชทูตหลายประเทศ นายโคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี รวมถึงกลุ่มเฟรนด์ออฟไทยแลนด์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทูตบางประเทศในยุโรปเสนอว่าไทยต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นคือศูนย์เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ ด้วยการคืนความเป็นธรรม ซึ่งเห็นว่าต้องอภัยโทษ นิรโทษกรรมในคดีที่เกี่ยวกับการเมืองให้กับทุกสีทุกฝ่ายโดยย้อนกลับไปถึงวันที่ 19 ก.ย.49 แต่ความผิดฐานฆ่าคนตายความผิดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการต่อไปตามกระบวน การยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีประเทศใดเสนอตัวเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ตอบว่า มีทูตบางประเทศเสนอว่าน่าจะให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมจัดตั้งคณะทำงานที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุปะทะที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้การหาคนที่จะเป็นกลางเป็นเรื่องลำบาก รวมถึงช่วยผลักดันให้ความปรองดองเป็นผลสำเร็จได้

"อ๋อย"เตือน"มาร์ค"ระวังเสียใจ

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย และอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในช่วง 1-2 วันนี้มีแนวโน้มว่าสังคมไทยอาจถลำลึกสู่วิกฤตรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะการแก้ปัญหาที่ถูกทางและการเจรจาประนี ประนอมที่มีมาอย่างต่อเนื่องกำลังจะสะดุดหยุดลง สิ่งที่นายอภิสิทธิ์กำลังทำอยู่จะเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรงชนิดที่จะเสียใจตลอดไป อยากเสนอให้นายกฯ ทบทวนท่าทีล่าสุดเสียใหม่ ต้องแสดงความเป็นผู้ใหญ่และจริงใจ เลิกตุกติกและทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับการปรองดอง นายกฯ ต้องเลิกล้มความคิดที่จะซื้อเวลาให้นานออกไปกว่าที่พูดไว้ โดยควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะยุบสภาตามที่ประกาศไว้ อย่าโยกโย้ บิดพลิ้วต่อไป เลิกล้มแผนตัดน้ำตัดไฟและการใช้รถถังยานเกราะกับกองกำลังติดอาวุธเข้าคุกคามหรือสลายการชุมนุม รวมทั้งการเตรียมที่คุมขังแกนนำนปช. ทั้งที่รับปากไว้แล้วในการเจรจาว่าจะไม่คัดค้านการประกันตัว สิ่งที่รัฐบาลและศอฉ.กำลังทำอยู่มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

"ไม่เชื่อว่าทหารจะยอมเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอีก แต่พฤติกรรมของรัฐบาลและ ศอฉ.กำลังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความรุนแรงสูญเสีย รวมทั้งทำให้เหตุการณ์บานปลายไม่สิ้นสุด" นายจาตุรนต์กล่าว และว่า สำหรับการชุมนุมคนเสื้อแดงนั้น ข้อห่วงใยที่สำคัญที่สุดของคนเสื้อแดงขณะนี้คือต้องการหลักประกันว่านายกฯ และนายสุเทพ จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติ ธรรม สิ่งที่ควรทำก็คือทำข้อเรียกร้องนี้เป็นข้อสรุปที่ชัดเจน เมื่อบรรลุข้อเรียกร้องนี้แล้วก็ควรยุติการชุมนุมโดยเร็ว ไม่ควรมีข้อเรียกร้อง อื่นเพิ่มเติมที่จะทำให้การชุมนุมยืดเยื้อต่อไป

โพลชี้สังคมไทย 2 มาตรฐาน

วันเดียวกัน ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ สำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 23 แห่ง หัวข้อ "ความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจเพื่อการปรองดอง" ดังนี้ ประเด็นที่ว่าสังคมไทยมี 2 มาตรฐานจริงหรือไม่ ร้อยละ 56.3 เห็นว่ามีสองมาตรฐานจริง ร้อยละ 20.3 เห็นว่ามีมาตรฐานเดียว ส่วนความเป็นธรรมในสังคมไทยที่ควรแก้ไข ร้อยละ 33.1 ให้แก้สวัสดิการทางสังคมให้เท่าเทียมกัน อาทิ การศึกษาและสาธารณสุข ร้อยละ 30.1 ให้แก้ความเป็นธรรมด้านเศรษฐกิจ อาทิ การเข้าถึงโอกาสการมีอาชีพ การมีรายได้ ร้อยละ 22.6 แก้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม สำหรับการนำหลัก "รัฐสวัสดิการ" มาใช้ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้สังคม ร้อยละ 60.9 เห็นด้วย ร้อยละ 18.8 ไม่เห็นด้วย อ้างว่าต้องใช้งบฯ สูงเป็นภาระผูกพัน ส่วนกระบวนการปรองดอง 5 ข้อที่นายกฯ เสนอ ร้อยละ 73.4 เห็นว่าแก้วิกฤตปัจจุบันได้ แต่ไม่มั่นใจว่าจะแก้วิกฤตในอนาคตได้หรือไม่

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์เสนอความเห็น 5 ข้อ เพื่อการปรองดองหลังการเลือกตั้ง คือ 1.ให้ร่างกระบวนการปรองดองทั้ง 5 ข้อ ที่ครอบคลุมทุกประเด็น ชัดเจนเป็นรูปธรรม มีกำหนดเวลาแน่นอน โดยคำนึงถึงความถูกต้องและเหมาะสมกับสังคมไทย 2.ประกาศร่างกระบวนการปรองดองให้สาธารณชนรับทราบ 3.ลงสัตยาบันในร่างกระบวนการปรองดองดังกล่าวต่อสาธารณชน 4.เคารพผลการเลือกตั้ง เคารพคำตัดสินของกกต.และของศาล 5.ต้องจริงใจและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นและข้อเท็จจริงจากฝ่ายตรงข้ามด้วยใจเป็นธรรม ยึดประโยชน์ของประเทศและส่วนรวมเป็นสำคัญ

"มาร์ค"ฟังแผนชุมชนเข้มแข็ง

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ร่วมรับฟังข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ มีคุณหญิง สุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ปรึกษานายกฯ เป็นประธานการประชุมวาระพิเศษคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแห่งชาติ นำเสนอ "แนวทางดำเนินการและวิธีการเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยที่นำไปสู่ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น"

คุณหญิงสุพัตรา กล่าวว่า คณะกรรมการยึดหลักการของการคืนอำนาจสู่ชุมชนท้องถิ่น สนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองจนสามารถจัดขบวนในการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากร ฟื้นสถาบันและองค์กรในชุมชนท้องถิ่นได้อย่างครอบคลุมในทุกระบบ เพื่อประ โยชน์สูงสุดต่อชุมชนท้องถิ่นและประเทศ โดยต้องการส่งเสริมสมรรถภาพการดำรงชีวิตของประชาชน ตั้งแต่คน ผู้นำและองค์กร ที่ดินทำกิน ทรัพยากรป่าและน้ำ ตลอดจนการเมืองการปกครอง โดยต้องปรับบทบาทของหน่วยงานรัฐและองค์กรพัฒนาสาธารณประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ขององค์กรชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการตนเองให้ตอบสนองต่อชุมชนท้องถิ่นและการเพิ่มศักยภาพให้กับผู้นำชุมชนท้องถิ่น

เร่งเดินหน้า-รัฐบาลอยู่อีกนาน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อเสนอการปฏิรูปประเทศ สร้างความเป็นธรรมและสร้างโอกาสให้ประชาชน เป็นส่วนสำคัญในแผนปรองดอง 5 ข้อ หัวใจสำคัญคือปัญหาความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรม ที่ถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขเสมอในการชุมนุม ดังนั้นต้องกำหนดกลไกแก้ไขปัญหาขึ้นมา เพื่อให้คนไทยมีที่ยืนและไม่ทำให้เป็นเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคม ในวันที่ 20 พ.ค. มีการจัดสมัชชาการปฏิรูปประเทศไทย จะมีองค์กรภาคและเครือข่ายประชาชนเข้าร่วมระดมความคิดเห็นในประเด็นปัญหาของชาวบ้าน

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำคือกลไกในการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปฯ และการกำหนดประเด็นการทำงานให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพราะงบประมาณมีอยู่แล้ว หากช้าอยู่ก็ขาดความชัดเจนว่าศูนย์รวมจะขับเคลื่อนจากตรงไหน ในส่วนของภาครัฐทางสภาพัฒน์อาสาเข้ามาดูแล เรื่องที่อยากให้เน้นเป็นพิเศษคือโอกาสความเสมอภาคด้านเศรษฐกิจและกฎหมาย อย่างเรื่องการสร้างความเข้มแข็งในชุมนุม ก็ต้องดูนโยบายระดับชาติด้วย รัฐบาลพยายามสร้างหลักประกันให้ประชาชนทุกคน ตรงนี้นำไปสู่ระบบสวัสดิการแบบบูรณาการเดิมตั้งเป้าไว้ที่ปี 2559 หรืออีก 5-6 ปี

"ผมอยากให้รวบรวมข้อเสนอที่ชัดเจนในวันที่ 20 พ.ค. นี้ แต่หากไม่เสร็จก็ไม่ต้องกังวล เพราะเรื่องนี้ไม่เสร็จในรัฐบาลนี้แน่ แต่สามารถนำไปดำเนินการในรัฐบาลหน้าได้ แต่รัฐบาลนี้มีเวลาพอสมควรเพราะเขาไม่ยอมรับข้อเสนอ ดังนั้นเดินหน้าเต็มที่กำหนดกลไกให้พร้อม หากมีการเปลี่ยนแปลงก็คงไม่มีปัญหา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

3 สมาคมสื่อยื่นแผนปฏิรูป

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อหารือถึงแนวทางการปฏิรูปสื่อตามแผนปรองดองเพื่อแก้ไขวิกฤตประเทศไทย หรือโรดแม็ป พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึกเกี่ยวกับข้อเสนอเพื่อการปฏิรูปสื่อ มวลชนจำนวน 9 ข้อต่อนายกรัฐมนตรี มีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เข้าร่วมด้วย ใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง

สมาคมนักข่าวฯ เผยว่า นายกฯ บัญชาให้นายสาทิตย์ เป็นผู้ประสานงานกับองค์กรวิชาชีพเพื่อจัดเวทีสาธารณะ เชิญทุกฝ่ายมาร่วมระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปสื่อ โดยให้ครอบคลุมถึงสื่ออินเตอร์เน็ต เอสเอ็มเอส ทีวีดาวเทียม รวมถึงพีทีวีและเอเอสทีวี เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้สื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือในการยุยงปลุกระดมให้คนเกลียดชังกัน นอกจากนี้ยังสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ประชาไท ที่กระทรวงไอซีทีสั่งปิดให้นายกฯ ฟังว่าเกิดปัญหาทางเทคนิคในการดำเนินการ เพราะสิ่งที่เป็นปัญหาคือเว็บบอร์ด แต่กระทรวงไอซีทีไปปิดเว็บหลัก ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งนายกฯ ให้นายสาทิตย์ไปดูแล นอกจากนี้นายกฯ ยังยืนยันการเดินตามโรดแม็ป 5 ข้อยังทำต่อไป แต่เรื่องวันเลือกตั้งถือเป็นดุลพินิจของนายกฯ ที่จะพิจารณา

แม้วโทร.หาญาติ-ยันสบายดี

น.ส.จันทร์สม ชินวัตร อายุ 78 ปี ป้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมด้วยญาติพี่น้องตระกูลชินวัตรหลายคน จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้นายเชียงและนางแสง ชินวัตร ปู่และย่าของ พ.ต.ท. ทักษิณซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ณ อาคารชินวัตร ถนนสายสันกำแพง-เชียงใหม่ ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ มีนายวิชิต บุญกังวาน นายอำเภอสันกำแพง พ.ต.อ.เอกชัย พิมลศรี ผกก.สภ.สันกำแพง และชาวบ้านร่วมทำบุญจำนวนมาก

น.ส.จันทร์สม กล่าวว่า การทำบุญครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการสะเดาะเคราะห์ หรือแก้เคล็ดให้พ.ต.ท.ทักษิณ หลานชายตามที่เป็นข่าวลือ แต่เป็นการทำบุญให้อากงและอาม่าเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณนั้นโทรศัพท์ติดต่อมาแล้ว บอกว่าสุขภาพร่างกายสบายดี ก่อนหน้านี้ทางเราได้ย้ายอัฐิพ่อแม่ของพ.ต.ท. ทักษิณ มารวมกับของคนในตระกูลชินวัตรทั้งหมดตามที่ซินแสบอก เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ยให้พ.ต.ท.ทักษิณ และคนในตระกูลชินวัตรอยู่เย็นเป็นสุข