WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, August 8, 2010

"อภิสิทธิ์"ยันเอ็มโอยูปี43มีข้อดี ชี้ไทยไม่เสียดินแดนพระวิหาร พยายามดันเขมรพ้นแดน ปัดซูเอี๋ยพธม.

ที่มา มติชน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พบกับเครือข่ายภาคีคนไทยหัวใจรักชาติ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 ส.ค. รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ทางช่อง 11 ช่วงที่ 3 ของรายการ นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ได้นั่งเป็นพิธีกรสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีปัญหาเขาพระวิหาร โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการไปพบกับเครือข่ายประชาชนหัวใจรักชาติที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า เป้าหมายของตนกับประชาชนไม่ได้แตกต่างกัน ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้ว ก็มีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ ทั้งนี้ ยังงงที่สื่อมวลชนบางแห่งไปลงข่าวว่าตนบอกว่า มีประชาชนบางกลุ่มขายชาติ ทั้งที่จริงตนไม่ได้พูด เพียงแต่บอกว่าเสียใจที่มีคนกล่าวหาว่าตนขายชาติ และบอกว่าถ้าทำอย่างนั้นอย่าว่าแต่เป็นนายกรัฐมนตรีเลย อยู่ในประเทศนี้ก็ไม่ควรอยู่ด้วยซ้ำ

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าเป็นการซูเอี๋ยระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายกฯ กล่าวว่า คงเป็นการซูเอี๋ยที่แปลกประหลาด เพราะยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ตนอย่างหนักทั้งในเว็บไซต์และเอสเอ็มเอสที่ส่งเข้ามา ทั้งยังกล่าวหาว่าตนพูดไม่เหมือนเดิมกับตอนเป็นฝ่ายค้านในปี 2551 ทั้งที่ตนก็ยังหาไม่เจอว่าพูดไม่เหมือนเดิมตรงไหน


นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังอ้างว่า เอ็มโอยูปี 2543 ไม่ได้ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน แต่เป็นเพียงข้อตกลงว่าให้คงสภาพเดิมตามแนวชายแดนไว้ก่อน แล้วมาร่วมกันจัดทำหลักเขตให้เรียบร้อย นี่คือหัวใจเอ็มโอยู 43 จึงค่อนข่างมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา นอกจากนี้เขตแดนที่กรรมาธิการร่วมทำออกมา เรามีสิทธิที่จะรับหรือไม่รับ และขวนการของเราไมใช่แค่รัฐบาล ต้องรัฐสภาด้วย ทั้งนี้ มองว่า เอ็มโอยู 2543 มีข้อดี หากเขมรรุกล้ำเข้ามาก็จะมีหลักฐานในการประท้วง ซึ่งหลีกเลี่ยงการปะทะได้ พอมีปัญหาเรื่องมรดกโลก เขมรพยายามยื่นแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน แม้แต่การประชุมครั้งล่าสุดก็ยื่น แต่ไม่ได้ เพราะการทำเขตแดนมันยังไม่จบ ส่วนที่นายฮอ นัมฮง รองนายกฯ กัมพูชา บอกว่าคณะกรรมการมรดกโลกรับจดทะเบียนปราสาทพระวิหารตั้งแต่ปี 2551 เพราะฉะนั้นนายกฯ ไทยอย่าฝันหวานว่าจะจดทะเบียนร่วมกันนั้น คงเป็นการอ้างปี 2551 แต่ตนเข้ามาปลายปี 2551 แล้ว


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ของเรานั้น รัฐบาลไม่เพิกเฉย แต่ฝ่ายกัมพูชาก็พยายามกล่าวหาว่าเรารุกราน เอาไปฟ้องกับต่างประเทศ ซึ่งเขาก็คิดเอาง่ายๆ ว่าศาลโลกได้ตัดสินไปแล้ว เขาก็เชื่อทางกัมพูชาได้ง่าย เพราะฉะนั้นถ้าเราผลีผลาม เราก็อาจจะเสียใจภายหลัง อย่างในการประชุมที่บราซิลแค่เราบอกว่าจะถอนตัว ทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาแล้ว หาว่าเราทำตัวเป็นอันธพาล เป็นการใช้กระแสต่างประเทศมารุกเรา เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้ต่างประเทศเข้าใจเราเสียก่อน


อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากถึงที่สุดแล้วก็พร้อมสู้ กองทัพ ฝ่ายความมั่นคง พร้อมหมด แต่คงไม่มีใครเอาออกมาพูดตอนนี้ เราเข้าใจความรู้สึกความอึดอัดของประชาชน แต่ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง สิ่งที่จะช่วยประเทศได้มากที่สุดคือความมีเอกภาพ ความสามัคคีของคนในชาติ ถ้าเรามัวแต่ถกเถียงกันกัมพูชาก็จะหัวเราะเราอยู่