WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, January 6, 2008

ชัยชนะพปช. ยังอีกหลายด่าน

พรรคการเมืองต่างๆ ได้พร้อมใจกันประกาศงดการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อถวายความอาลัยและถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ทำให้บรรยากาศในบ้านเมืองเรียบสงบ

สถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาล เป็นที่รับรู้กันว่าพรรคพลังประชาชนจะเป็นแกนนำรัฐบาล ที่มีทุกพรรคที่เหลือเข้าร่วมรัฐบาล

มีประชาธิปัตย์พรรคเดียวเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็ยังรอจังหวะพลิกล็อกด้วยความหวังริบหรี่

หน่วยงานที่ต้องเร่งทำงานตามปฏิทิน และถูกจับตามากที่สุดในขณะนี้ คือคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.

ภายในวันที่ 22 มกราคม กกต.จะต้องรับรองผลการเลือกตั้ง พิจารณาเรื่องร้องเรียนต่างๆ เพื่อให้สภามีส.ส.อย่างน้อย 456 คน หรือ 95 เปอร์เซ็นต์

เพื่อให้สภาผู้แทนฯ จะได้เปิดประชุมครั้งแรกได้ใน 30 วัน

นับจาก 23 ธันวาคม 2550 เส้นตายคือวันที่ 22 มกราคม และได้มีการกำหนดแล้วว่า จะมีการประชุมสภาผู้แทนฯ ครั้งแรก

การประชุมครั้งแรก จะต้องมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะไปทำหน้าที่ประธานรัฐสภา

เป็นการประลองพลังครั้งแรกของพรรคการเมืองต่างๆ ในสภา เพื่อพิสูจน์ว่า กลุ่มก้อนไหนในสภา เป็นเสียงข้างมากกันแน่

ความเป็นเสียงข้างมากที่วัดจากการเลือกประธานสภาผู้แทนฯ จะนำไปสู่การกำหนดตัวนายกรัฐมนตรีต่อไป

ในวันที่ 22 มกราคมนี้ ทุกพรรค จึงล้วนแต่ต้องการให้พรรคของตนเองมีจำนวนส.ส.ครบ 100 เปอร์เซ็นต์

แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ ยังขึ้นกับกกต.

หลังปีใหม่ 2551 กกต.ได้รับรองส.ส.หรือแจกใบขาวไป 397 คน จาก 480 คน

เท่ากับว่ามีส.ส.ถูกแขวนไว้ ยังไม่ผ่านการรับรอง 83 ราย

ในจำนวนนี้ เป็นว่าที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนถึง 65 คนด้วยกัน รวมถึงแกนนำที่มีบทบาทสูงอย่างนายยงยุทธ ติยะไพรัช ด้วย

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีเพียง 6 คน

ก่อนหน้านั้น กกต.ได้แจกใบเหลืองว่าที่ส.ส.นครราชสีมา เขต 3 ไปแล้ว 3 ใบ ประกอบด้วย นางลินดา เชิดชัย นายบุญเลิศ ครุฑขุนทด และนายประเสริฐ จันทรรวง แล้วกำหนดเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 13 มกราคม

บุรีรัมย์ที่กลายเป็นสมรภูมิประลองอำนาจหลังจากวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่าที่ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 1 เจอใบแดงไปอีก 3 ใบ คือนายประกิจ พลเดช, นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน และนายรุ่งโรจน์ ทองศรี กำหนดเลือกตั้งซ่อม 19 มกราคม

ระลอกสามหมาดๆ แจกใบเหลือง นายธนาธร โล่ห์สุนทร ว่าที่ส.ส.ลำปาง เขต 1 พรรคพลังประชาชนอีกเช่นกัน

จะเห็นว่าใบเหลืองและใบแดงทั้ง 7 ใบ เป็นส.ส.ของพรรคพลังประชาชนทั้งสิ้น โดยเฉพาะใบแดงทำให้ยอดรวมว่าที่ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน หายไป 3 คน เหลือ 230 คน ขณะที่ใบเหลืองยังมีลุ้นว่า อาจจะได้รับเลือกกลับเข้ามาใหม่

แน่นอนว่า ย่อมทำให้ทางพรรคพลังประชาชนเริ่มแสดงความไม่พอใจ มีการเดินทางมาคัดค้านถึงที่ทำการกกต.ในกรุงเทพฯ

ส่วนที่บุรีรัมย์ มีการชุมนุมประชาชนปิดล้อมที่ทำการกกต. และเรียกร้องให้ถอดถอนกกต.จังหวัด

เป็นภาพของสถานการณ์วุ่นๆ ที่อาจส่งแรงกดดันไปถึงการทำงานของกกต. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่กำลังยื้อกันอยู่ระหว่างกกต.กับพรรคพลังประชาชน คือกรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนของพรรคไทยรักไทย กลุ่มหนึ่ง ซึ่งถูกร้องเรียนเรื่องการซื้อเสียง

และนายยงยุทธเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคไทยรักไทย ที่กำลังมีบทบาทสูง หลังจาก 111 กรรมการบริหารพรรค ถูกตัดสิทธิการเมือง กรณีใบเหลืองใบแดงในการพิจารณาของกกต.คงจะยังไม่ยุติเพียงเท่านี้

แต่พอจะคาดหมายได้ว่า จำนวนใบเหลืองใบแดง จะไม่กระทบต่อการรวมตัวของพรรคพลังประชาชน กับพรรคที่ตกลงจับมือร่วมรัฐบาล บทเรียนที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ แกนนำ 111 คนกลายเป็นบุคคลต้องห้ามทางการเมืองไป 5 ปี ทำให้แกนนำพรรคพลังประชาชน ต้องพลิกตัวบทกฎหมายด้วยความระมัดระวัง รัฐธรรมนูญ 2550 ที่เปลี่ยนไป กฏหมายเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แต่ละจังหวะก้าวของทุกพรรคการเมือง ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง

การแข่งขันรุนแรงในห้วงเวลาเลือกตั้ง ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวหาเสียงแบบโฉ่งฉ่าง และกลายเป็นช่องทางให้คู่แข่งนำไปร้องเรียน เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งรับคำร้องของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 3 บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้วินิจฉัยการเลือกตั้งเป็นโมฆะและพรรคพลังประชาชนไม่มีสิทธิส่งผู้สมัคร รวมถึงกล่าวหาว่าพรรคพลังประชาชนรู้เห็นเป็นใจให้มีการแจกซีดีคำปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

และยังมีกรณีที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น หรือคปต. นำเอาวีซีดีของพ.ต.ท.ทักษิณไปร้องไว้ที่กกต.เมื่อต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และเรื่องยังรอการพิจารณาอยู่ การแจกซีดีคำปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถือว่าเป็นไม้เด็ดในการหาเสียงอย่างหนึ่งของพรรคพลังประชาชน และมีการร้องเรียนในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าการแจกวีซีดีเป็นการขัดต่อกฎหมาย และได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรค ติดตามเรื่อง รวมถึงระดมหลักฐานจากผู้สมัครในจังหวัดต่างๆ หลังจากต่อสู้กันในสนามเลือกตั้งเสร็จแล้ว ต่อไปนี้ก็จะเป็นการต่อสู้ในเชิงระเบียบและกฎหมาย ใครจะแพ้หรือชนะในคราวนี้ ชี้ขาดกันด้วยการกระทำของตนเอง