* ขีดเส้นตำรวจจัดการภายใน 7 วัน จากกรณีที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เข้าแจ้งความต่อกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีในกรณีมีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสโมสรฟุตบอลแมนฯ ซิตี้ บนผืนธงชาติไทย และ นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นกระทู้ถาม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในประเด็นเดียวกันนั้น
พปช.จ่อยื่นกระทู้สดถามนายกฯ 8 พ.ค.นี้ ถามหามาตรการจัดการกับพวกหมิ่นธงชาติ หลังปรากฏหลักฐานชัดพันธมิตรฯ สายประชาธิปัตย์ มีชื่อหราบนรูปธงชาติไทย พร้อมจี้ “อภิสิทธิ์” ดูแลลูกพรรคให้ดีก่อนออกมากล่าวหาคนอื่น ด้าน “วีระ สมความคิด” เอาสีข้างเข้าถู บอกปัดไม่แจ้งความกองปราบฯ อ้างคนละกรณีกับ “ทักษิณ” แค่ลายธงชาติไม่ผิดกฎหมาย “ไกรศักดิ์” บอกหน้าตาเฉยแค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้าน “หมอเหวง” จี้พันธมิตรฯ-ปชป. ออกมาขอโทษประชาชน พร้อมจี้ตำรวจดำเนินคดีโดยไม่ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียน
กรณีดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นอย่างกว้างขวาง ทั้งในแง่ความเหมาะสมและเจตนาของผู้ที่นำเรื่องดังกล่าวมาเปิดประเด็น ในช่วงที่มีความเห็นขัดแย้งกันในทางการเมือง
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาถึงประเทศไทย ก่อนขึ้นรถออกไปจากสนามบิน ได้เดินเข้ามาหาสื่อมวลชนกว่า 50 คน ที่มารอการชี้แจงประเด็นดังกล่าว โดยชี้แจงว่า ขอแสดงความเสียใจแทนแฟนคลับชาวอังกฤษที่ทำขึ้นมาด้วยความรักประเทศไทย รักสโมสร แต่พอเขารู้มีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็เสียใจ และฝากแสดงความเสียใจมาด้วย มันเป็นเรื่องที่วัฒนธรรมทางโน้นไม่ถือ ก็เลยไม่รู้ จึงทำไปด้วยความปรารถนาดี แต่พอเราบอกเขาก็เสียใจ และเขาก็หยุด ซึ่งคงต้องอธิบายกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
พร้อมทั้งระบุว่าวันนั้นนั่งอยู่ในสนามด้วย และเห็นแฟนคลับชูธงชาติไทยโดยมีชื่อตัวเองอยู่แต่บอลกำลังแข่ง หลังจากนั้นไปบอกเขาก็เลิก
อย่างไรก็ตามห ลังจากมีการนำเปิดประเด็นดังกล่าว ได้มีเว็บไซต์หลายแห่งโดยเฉพาะ w.w.w.pantip.com ห้องราชดำเนิน ได้โพสต์รูปของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อคราวชุมนุมก่อนการรัฐประหาร ชี้ให้เห็นถึงการนำธงชาติมาประดับเวที ใช้ประกอบข้อความโจมตีฝ่ายตรงข้าม ใช้ประดับเสื้อ หรือแม้กระทั่งนำลายสีธงชาติมาทำเป็นข้อความ “ออกไป ออกไป” เป็นผ้าชิ้นน้อย คาดอกนางแบบสาวอย่างไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีภาพการเดินสายโจมตีรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯ ในต่างประเทศ ที่ใช้พื้นหลังเวทีเป็นลายธงชาติ และทับอยู่ด้วยชื่อคนของกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง นายไกรศักดิ์ ชุณหวัณ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อีกด้วย
กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้ นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ภาพของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปรากฎบนเว็บไซต์ดังกล่างอาจจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 118
ล่าสุดในวันที่ 4 พฤษภาคม นายภิรมย์ เปิดเผยว่า จะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับวิปรัฐบาลและที่ประชุมพรรค เพื่อยื่นกระทู้ถึงนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีมาตรการอย่างไรไม่ให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และกรณีเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วทั้งกรณีที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร และกรณีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรจะมีการดำเนินการอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว จะให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงาน 7 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้าก็จะมีการทำหนังสือสอบถามต่อไป
นายภิรมย์ กล่าวด้วยว่า ตาม พ.ร.บ.ธงชาติ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะผืนธงเท่านั้น แต่มาตรา 22 แค่เป็นแถบ 5 สีแบบธง หากนำไปทำไม่เหมาะสมก็มีความผิดแล้ว เรื่องนี้ตนเองเห็นมานานแล้ว แต่ไม่คิดจะหยิบมาเป็นประเด็นเพราะไม่อยากหยิบเรื่องสถาบันมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ยังออกมาพูดเรื่องนี้ไม่จบทั้งที่เป็นเรื่องที่เกิดในต่างประเทศ และไม่รู้ใครทำ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ท่านคงไม่ทำเรื่องนี้อยู่แล้ว
การออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ก็อยากจะบอกว่าทำมพรรคประชาธิปัตย์จึงออกมาพูดแต่ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทำไมกรณีคนของพรรคตัวเองกลับไม่พูด จึงอยากฝากถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าอย่า 2 มาตรฐาน และต้องดูแลลูกน้องของตัวเองให้ดี
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ใครทำอะไรก็ต้องออกมารับผิดชอบ และตนคิดว่าควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาผู้กระทำผิด ประเด็นนี้คล้ายกับกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะตำรวจต้องหาความจริงว่าใครเป็นผู้กระทำ ไม่ใช่ชื่อใครอยู่บนธงชาติ ก็คือผู้กระทำผิด แต่เหตุการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ มีความเป็นไปได้สูง และชัดเจนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ต้องมีส่วนรู้เห็น ซึ่งการนี้ผู้บุคคลที่ปรากฏในภาพอย่าง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องออกมาชี้แจง และแสดงความรับผิดชอบ
“ กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นพวกที่ไม่รู้สึกรู้สา อยู่แล้ว แม้จะเห็นกันอย่างชัดเจน ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ก็ยังไม่มีใครชี้แจงหรือรับผิดชอบ การที่นายภิรมย์แจ้งกล่าวโทษก็ไม่ใช่เป็นการเอาคืน หรือแก้เกี้ยวเพราะใครทำอะไรไปต้องออกมารับผิดชอบ ตอนนนี้มีความพยายามนำสถาบันพระมหากษัตริย์ และความจงรักภักดีต่อชาติ มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างยิ่ง” นายจตุพรกล่าว
ทางด้าน นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีต ส.ว.กทม. กล่าวถึงกรณี นายวีระ สมความคิด ออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่านายวีระก็ต้องแจ้งดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย แต่ถ้านายวีระไม่ออกมาเคลื่อนไหวในการแจ้งดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ แสดงว่านายวีระเป็นคนมี 2 มาตรฐาน ที่ปากก็บอกว่าเป็นพวกต่อต้านคอร์รัปชั่น แต่มีการแบ่งระดับมาตรฐานของการเลือกกระทำด้วย
จะเห็นได้ว่ากรณีของกลุ่มพันธมิตรฯ สังเกตได้ชัดเจนเลยว่าจงใจทำ แต่ก็ยังไม่มีการเรียกร้องประเด็นนี้ นอกจากนี้ตนมองว่าการที่มีรูปหลุดออกมาของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เอาลายธงชาติไปทำเป็นเสื้อเกาะอกนั้น มองว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง หรือจะเอามาประดับทำอะไรก็ตาม เพราะคนไทยถือว่าธงชาติเป็นสิ่งที่เราเทิดทูล เป็นสัญลักษณ์ของชาติ ใครจะมาทำให้เสื่อมเสียไม่ได้
ทางด้าน นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยการขอโทษ หากยังมีจิตสำนึกอยู่ เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่เอาตนเองไปเปรียบเทียบกับประเทศ
อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาจัดการเรื่องดังกล่าว ไม่ต้องรอให้ นายวีระ สมความคิด ยื่นเรื่อง เพราะเชื่อว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ น่าจะเป็นกระทำที่จัดทำขึ้นมาเอง ซึ่งแตกต่างจากกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ชาวต่างชาติเป็นคนทำ
ขณะที่ นายวีระ สมความคิด กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวภายหลังถูกมองว่าเลือกปฏิบัติ โดยกล่าวว่า กรณีของพันธมิตรฯ นั้นไม่เกี่ยวกับองค์ประกอบความผิด เพราะภาพที่ออกมานั้นธงชาติเป็นภาพที่วาดขึ้น ไม่เหมือนอย่างในกรณีของคุณทักษิณที่เขียนบนผืนธงชาติเลย และโดยส่วนตัวจะทำอะไรที่สังคมไม่ทำ ไม่นำเสนอ จะเอาข้อเท็จจริงออกมาตีแผ่ แต่อะไรที่เขาทำกันมาแล้ว ก็ไม่ทำ
ส่วน นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ซึ่งเป็นคนหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่าย กล่าวว่า คงเป็นการที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่า และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นที่ต่างประเทศด้วย ตนคงจะไม่ออกเคลื่อนไหวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะไม่ได้กระทำการใดๆ ที่เป็นการเหยียดหยาม
ต้องมาดูอีกทีว่าจะมีคนมาร้องเรียนกับรูปภาพดังกล่าวหรือไม่ ถึงจะต้องมาศึกษาวิเคราะห์กันไปตามตัวบทกฎหมาย ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการย่ำยีประเทศหรือไม่
ส่วนกรณีของอดีตนายกฯ ทักษิณนั้น ต้องมามองที่เจตนาของการกระทำ ตนมองว่าเป็นการกระทำที่ต้องการเอาอกเอาใจ ข้อความที่เขียนเป็นการเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเปรียบกับชาติว่ามีความสำคัญมาก เพราะว่าท่านเอาเงินไปลงทุนกับทีมฟุตบอลมาก ช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจที่ซบเซาอีกด้วย