WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 9, 2008

“ณัฐวุฒิ” ลั่นไม่ขอสังฆกรรมเผด็จการ! ดักคอพวกค้านรธน.อย่าจุดชนวนปฏิวัติ

“ณัฐวุฒิ” ย้ำจุดยืน ปชช.หนุนแก้ รธน. 50 ซัด คมช. โจรปล้น รธน. ด้วยกระบอกปืน จวก พันธมิตร ไม่เลิกอ้างไม้ค้ำประชามติ 14 ล้านเสียง ระบุ ม. 291 ให้อำนาจตามกระบวนการรัฐสภา แจงรัฐบาล 3 เดือนผลงานอื้อ ยันไม่เคยลืมสัญญา ดักคอกลุ่มค้านอย่าจุดชนวนปฏิวัติ ประกาศกลางเวทีเป็นศัตรูกับพวกเผด็จการตลอดไป

วันนี้ (9 พ.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “แก้ ไม่แก้ รัฐธรรมนูญ คนไทยได้อะไร” ที่ห้องประชุม ดร.เกริก ชั้น 1 วิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ว่า เชื่อว่าในตอนนี้พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่คงจะเห็นด้วยกับการเรียกร้องให้มีการแก้ไข รธน.50 ในส่วนของประเด็นที่ว่าแก้ รธน.แล้วประชาชนจะได้อะไรนั้นคงจะวัดออกมาเป็นรูปธรรมหรือเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ต้องมาศึกษา รธน.ในแต่ละฉบับว่าให้ประโยชน์อะไรแก่พี่น้องประชาชนและประเทศบ้าง ส่วนตัว ขอสนับสนุนให้มีแก้ รธน.50 ในทันที ตามมาตรา 291 ของ รธน.ฉบับนี้ ที่ระบุไว้ชัดเจน รัฐสภามีบทบาทหน้าที่ในการแก้ รธน. ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ ส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปทำหน้าที่ตรงนั้น แต่ก็หวังว่าจะเกิดการแก้ รธน.ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในการรณรงค์หาเสียงอย่างแน่นอน

นายณัฐวุฒิ ยังชี้ถึงสาเหตุที่ต้องแก้รธน. ว่า รธน.ฉบับนี้มีที่มาจากเผด็จการ เป็นการใช้อำนาจและอาวุธมาฉีก รธน.40 ทิ้ง แล้วตั้งกลุ่มขึ้นมาร่าง รธน.50 อย่างไรก็ดีที่เคยมีคนตั้งคำถามกับตนว่า ในเมื่อเคยออกมาเคลื่อนไหวในการไม่ยอมรับ รธน.50 แล้วเข้ามาสู่กระบวนการการเลือกตั้งของรธน.ฉบับนี้ทำไม นั่นก็เพื่อต้องการอำนาจในการแก้ไข รธน.ที่ถูกต้องตามกฏหมายที่ได้ระบุไว้ ไม่ใช่มาใช้อำนาจใช้กำลังจากกระบอกปืนอย่างที่ผ่านมา

ส่วนที่อ้างถึงประชามติรับร่าง รธน.ฉบับนี้ 14 ล้านเสียงนั้น ตรงนี้ยังคงเป็นไม้ค้ำ และเป็นความชอบธรรมอย่างเดียวของ รธน.ฉบับที่กล่าวอ้าง แต่ในเมื่อที่มาและวิธีการดำเนินการไม่ถูกต้องอย่างเช่นการสรรหาและการเลือกตั้ง ส.ว. (สมาชิกวุฒิสภา) มีที่ไหนที่คนเรือนแสนเลือก ส.ว.- ส.ส. ได้คนเดียว อีกทั้งในหลายมาตราหลายประเด็นทำให้ประชาชนไม่อาจตัดสินความเป็นมาเป็นไปของบ้านเมืองเองได้ เราจึงต้องแก้ รธน. เพื่อประชาชนจะได้มีสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาพตามที่เราได้เรียกร้องมาโดยตลอด

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวตอบถึงเสียงวิพากษ์วิจารย์เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล ที่ให้ความสนใจกับการแก้ รธน.มากกว่าการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนนั้น ว่า รัฐบาลเพิ่งทำงานแค่ 3 เดือน ตอนนี้ก็เริ่มเห็นผลงานบ้างแล้ว แต่ก็ต้องเข้าใจว่าบางนโยบายก็ต้องใช้เวลา แต่รัฐบาลไม่เคยลืมสิ่งที่ได้ให้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ โดยเฉพาะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ต้องปรับแผนงบประมาณที่ใช้มาแล้ว 5 เดือนของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา รวมถึงต้องปรับฟื้นในหลายๆ นโยบายของรัฐบาลขิงแก่ที่ได้ทำไว้ และภายในเดือนพฤษภาคมนี้ รัฐบาลจะเปิดแถลงผลงานที่ผ่านมาภายในไตรมาสแรกให้ได้ทราบกัน และขอย้ำให้ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า ปัญหาเรื่องปากท้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือการพัฒนาประเทศเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนเรื่องการแก้ไข รธน.นั้นเป็นหน้าที่ของรัฐสภา

“หยุดกล่าวหาเสียที่ว่า แก้ รธน.เพื่อต้องการไม่ให้บางพรรคต้องถูกยุบ เพราะว่าพรรคการเมืองจะถูกยุบหรือไม่นั้น เปรียเหมือนกับ จิต ที่ไม่เกี่ยวกับ จิตวิญญาณหรือว่าอายุขัยของพรรค ผมอยากให้ดูที่ผลงานที่ผ่านมามากกว่าว่าให้อะไรกับประเทศบ้าง เพราะถึงจะโดนยุบอีกกี่ครั้ง ก็จะยังอยู่ในหัวใจของประชาชน และเลิกกล่าวหาเสียที่ว่าต้องการแก้เพื่อคนๆ เดียว คือ อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่การฉีก รธน. และการร่าง รธน.เพื่อคนๆ เดียวได้เกิดขึ้นแล้ว” นายณัฐวุฒิ กล่าว

พร้อมระบุถึงมาตรา 237 ขัดต่อบัญญัติของกฎหมายชัดเจน และจะยินยอมให้มีบทบัญญัตินี้ต่อไปไม่ได้ พร้อมทั้งข้อสังเกตที่ว่า เมื่อโจรกระทำความผิดแล้วจะมาแก้กฎหมายเพื่อไม่ให้ผิดนั้น ไม่จริง ในเมื่อโจรก็เป็นโจร จะเข้ามานั่งแก้กฎหมายไม่ได้ นอกเสียจากโจรที่ใช้คมหอกกระบอกปืนเข้าไปฉีกกฎหมายได้

“ผมอยากจะฝากไว้ว่า ตอนนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญญา ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน คิดแตกต่างภายใต้เจตนาที่บริสุทธิ์ เพื่อยุติข้อโต้แย้ง ไม่ให้เกิดความแตกแยก กระทำตามกระบวนการที่อยู่ภายใต้ประชาธิปไตย และขอให้ทุกคนใช้สติ ผมประเมินว่าวิจารณญาณของคนทั้งประเทศอยู่ในระดับสูง ข่าวลือเรื่องปฏิวัติลืมไปได้เลย เพราะว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ขอให้จำไว้ ถ้าเมื่อไรที่เกิดการรัฐประหารขึ้นอีก จำชื่อ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไว้เลยว่าจะอยู่ต้องข้ามและเป็นศัตรูกับพวกที่คิดทำรัฐประหารตลอดไป”