รักษาการปลัก ยธ. หวังคลายปมขัดแย้งข้อกฎหมายอำนาจสอบสวนของ ดีเอสไอ ไม่ให้ถูกโยงเป็นปรัเด็นการเมือง ด้าน พ.ต.อ.ทวี ย้ำหยุดไม่ได้ เพราะคดีความเข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว
นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โต้แย้งว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่มีอำนาจสอบสวนคดีฮั้วประมูลการพิมพ์บัตรเลือกตั้งว่า ตนได้ทราบจากข่าวว่า มีการถกเถียงในประเด็นอำนาจสอบสวนคดี ซึ่งในวันที่ 6 เม.ย. จะเรียก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาสอบถามข้อเท็จจริง เพราะไม่ต้องการให้กรณีดังกล่าวถูกหยิบยกไปเป็นประเด็นทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเห็นว่า ดีเอสไอ ปฏิบัติตามหน้าที่หลังได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะหากไม่ดำเนินการใดๆ จะกลายเป็นว่า ดีเอสไอ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของ กกต.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ อาจมองว่า ดีเอสไอ ไม่มีอำนาจสอบสวน ดังนั้น ตนจะเข้าไปตรวจสอบในประเด็นข้อกฎหมายให้ได้ข้อยุติว่า หาก ดีเอสไอ ไม่มีอำนาจสอบสวนแล้วหน่วยงานใดจะมี หรือตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีการกล่าวหาองค์กรอิสระ
ด้าน รักษาการอธิบดี ดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอ มีอำนาจสอบสวนคดีฮั้วประมูลพิมพ์บัตรเลือกตั้ง เพราะเป็นการประมูลที่มีวงเงินเกิน 100 ล้านบาท และในสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี ส่วนกรณีที่นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. จะทำหนังสือเชิญ ดีเอสไอ ไปชี้แจงเรื่องอำนาจสอบสวนนั้น ตนยังไม่เห็นหนังสือเชิญและคงไม่เดินทางไปชี้แจง แต่จะมอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปพบเลขาธิการ กกต. เพราะกรณีการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเข้าสู่กระบวนการสอบสวนแล้ว
สำหรับเอกสารที่ กกต.ระบุว่า สูญหายและมีบุคคลภายในนำมามอบให้ ดีเอสไอ นั้น กกต.ต้องสอบสวนภายในว่า เอกสารสำคัญของ กกต.สูญหายได้อย่างไร เพราะดีเอสไอคงเข้าไปขโมยออกมาไม่ได้