จี้สำนึกพันธมิตรฯ ออกมาขอโทษกรณีใช้แถบสีธงไตรรงค์ประกอบการเคลื่อนไหวโจมตีฝ่ายตรงข้าม ทั้งในและต่างประเทศ ระบุความพยายามโยงเบื้องสูงส่อเจตนาอยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยประวัติศาสตร์นองเลือดเดือนตุลา “ประชา ประสพดี” แฉซ้ำพรรคประชาธิปัตย์ ระบุในอดีตคอลัมนิสต์ดัง “มังกร ห้าเล็บ” ใน นสพ. “ไทยรัฐ” เคยเปิดประเด็น “ชวน หลีกภัย” ทำไม่เหมาะสมต่อหน้าพระพักตร์มาแล้ว
จากกรณีที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้หยิบประเด็นธงชาติมาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง และต่อมาปรากฏว่าได้มีการเผยแพร่ภาพการนำธงมาให้อย่างไม่เหมาะสมเสียเองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งการเดินสายโจมตีรัฐบาลในต่างประเทศของพันธมิตรฯ สายประชาธิปัตย์นั้น
นายประชา ประสพดี แกนนำกลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย และ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ เท่าที่ได้เห็นจากภาพถ่าย ที่ได้นำเอาผ้ามาห่มบนร่างของสตรี แล้วลายธงชาติต่ำกว่าสะดือ ตรงนี้อยากจะทวงถามหน่วยงานด้านความมั่นคงว่าปล่อยปะละเลยไว้ได้อย่างไร โดยเฉพาะพันธมิตรฯ นำสัญลักษณ์ไปสกรีนลงไปบนผ้าพันคอ หรือว่าจะเป็นเสื้อซึ่งในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย ตรงนี้เป็นการกระทำที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับธงชาติและสถาบันเบื้องสูงอย่างยิ่ง
หากจะนำเสื้อหรือผ้าพันคอที่มีตราสัญลักษณ์หรือรูปธงชาติมาใช้ ก็ควรจะนำไปใช้ในงานพิธีที่สำคัญเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตรย์หรืองานเกียรติยศจะเหมาะสมกว่า ไม่ใช่ปล่อยให้มาอยู่ในสถานการณ์ที่สร้างความสับสนวุ่นวายของคนในชาติ และนำมาเพื่อเป็นเกมการเมือง อีกทั้งยังใช้เพื่อการต่อต้านรัฐบาลล้มล้างรัฐธรรมนูญอีกด้วย พันธมิตรฯ ไม่เคยนำสิ่งเหล่านี้เพื่อไปใช้ยกย่องเทิดทูนเลยแม้แต่น้อย
นายประชา เรียกร้องด้วยว่า วันนี้พันธมิตรฯ จะต้องหยุดการกระทำเรื่องเหล่านี้ได้แล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อเอาผิดให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องที่นำเอาผ้าสัญลักษณ์ธงชาติไทยมาให้สตรีทำเป็นผ้าแถบใส่เดินร่วมประท้วง และยังมีขอความอันไม่เหมาะสม ซึ่งตรงนี้จะตรวจดูว่าเข้าการกระทำผิด พ.ร.บ.ธง และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118 หรือไม่
ทั้งนี้ พันธมิตรฯ จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการนำสัญลักษณ์ธงชาติมาใช้เป็นเครื่องมือ หรือการกระทำอันเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่สถาบันเบื้องสูง ตรงนี้เจตนาของพันธมิตรฯ ไม่ได้มีความย่ำเกรงเลย แล้วที่ไปกล่าวหาว่า นายสมัคร สุนทรเวช ไม่จงรักภักดี ตัวพันธมิตรฯ เองหรือเปล่าที่ไม่สิ่งนี้ เพราะฉะนั้นพันธมิตรฯ เองควรจะต้องถูกดำเนินคดีเพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างเสียบ้าง หากคิดนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นเครื่องมืออีกก็เปรียบเสมือนคนชั่วไม่แสดงถึงความจงรักภักดี
ส่วนกรณีที่มี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ร่วมอยู่ด้วยนั้น นายประชา กล่าวว่า เรื่องทำนองนี้มีมานานแล้วตั้งแต่ยุคของ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 โดยเรื่องการกระทำอันไม่สมควรของนายชวน ได้มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ในคอลัมน์ของมังกรห้าเล็บ ที่ระบุว่าในงานพระราชทานเพลิงศพ คุณหญิงสุธาดา เกษมสันต์ ที่วัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมกันทั้ง 2 พระองค์
โดยนายชวนอยู่ในบริเวณที่ใกล้ชิดพระที่นั่งมากที่สุด ซึ่งมีบริเวณนั้นมีทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ และผู้คนบริเวณดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตัวอยู่ในอาการสำรวมมากที่สุด เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่บังเอิญว่าวันนั้นนายชวนได้แสดงกิริยาขีดเขียนเศษกระดาษอยู่ตลอดเวลา ไม่ทราบว่าเป็นการวาดภาพหรือบันทึกอะไรสักอย่าง นั่งก้มหน้าอยู่เกือบตลอดเวลา
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ปกติหากนายชวนถูกพาดพิงด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง มักจะใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินการกับเรื่องนั้น แต่กรณีที่เป็นข่าวใน นสพ.ไทยรัฐ ไม่ปรากฏว่ามีการฟ้องร้องแต่อย่างใด
ด้าน นายศิริโชค สิริวรรณภา รองโฆษกพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่น่าจะนำเอามาเล่นเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะประเทศอื่นเขาก็มีการใส่ชื่อหรือข้อความต่างๆ ลงบนธงเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากต่างประเทศเขาไม่ถือ การที่มีการเขียนชื่ออดีตนายกฯ ลงไปนั้นคงเป็นเรื่องที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้ตั้งใจซึ่งตรงนี้น่าเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อให้นำมาเล่นเป็นประเด็นทางการเมือง
รวมทั้งการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาแสดงความเสียใจและกล่าวขอโทษประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเป็นการแสดงความรับผิดชอบ ส่วนจะให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือไม่นั้นไม่สามารถไปบังคับได้ ขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึก เพราะเป็นการตัดสินใจ ซึ่งอยากให้แต่ละฝ่ายได้ดูข้อเท็จจริงของกันและกัน เพราะเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องของธรรมเนียมฟุตบอล และหากมองในเชิงวิเคราะห์แล้วก็จะเห็นเจตนาที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ จะเอาไปใช้อย่างไรไม่อยากกล่าวถึง
“เรื่องการขอโทษเป็นการตัดสินใจของเขาว่าจะทำหรือไม่ทำ เพราะไม่สามารถไปบังคับเขาได้ ซึ่งตรงนี้อยากให้แต่ละฝ่ายได้ดูข้อเท็จจริงคือรูปที่เกิดขึ้นนั้น รู้ได้ว่าเป็นการนำเอามาทำคนละประเด็นกัน ฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นชาวต่างชาติทำ เพราะเขาไม่ถือเรื่องนี้ แต่ทางฝ่ายของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนไทยทำอย่างเห็นได้ชัดเจน”
ด้าน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ถ้าเป็นคนไทยคงไม่ทำในลักษณะนี้เพราะธงเป็นสัญลักษณ์ที่เรายืนตรงเคารพเป็นประจำ ที่ต่างชาติทำเป็นเพราะเขาไม่รู้ธรรมเนียมของคนไทย หากคนไทยทำคงไม่เหมาะสม และอยากให้ทั้งสองฝ่ายยุติเรื่องนี้
เมื่อถามว่าแล้วการที่ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นคนทำ ซึ่งเป็นคนไทยทั้งนั้น มันเหมาะสมแค่ไหน นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่อง ซึ่งความเห็นส่วนตัวบางอย่างก็ไม่ควรเอาออกมาพูด ก็อยากให้ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เองควรนำเรื่องนี้กลับไปคิดด้วยเช่นกัน
ทางด้าน รศ.ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นำเอาลัญลักษณ์ธงชาติไทยมาประกอบการเคลื่อนไหว ทั้งในและนอกราชอาณาจักรไทยว่า หากมองโดยเจตนาการกระทำแล้ว ถือว่าไม่เหมาะสม ไม่ว่าประการใดทั้งปวง ที่นำสัญลักษณ์ธงชาติที่คนไทยเคารพนับถือ มาเคลื่อนไหวเพื่อหวังผลทางการเมือง
นอกจากนี้หากพิจารณาในฐานกฎหมายเดียวกัน การที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีความผิด แต่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมีความผิดนั้น ก็ไม่ถูกเพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีความผิดเช่นกัน แต่ทั้งนี้การกระทำกรณีของอดีตนายกฯนั้นเป็นความเข้าใจผิดของชาวต่างชาติ รวมถึงมีการบิดเบือนในข้อเท็จจริง เพื่อมุ่งเป้าไปที่ความผิดของอดีตนายกฯ แต่ของกลุ่มพันธมิตรฯ เห็นได้ชัดเจนว่า คนไทยทำ ฉะนั้นเจตนาแตกต่างกันแน่นอน
“ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามีความพยายามที่จะย้อนรอยเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลา 2519 และ 19 กันยายน 2549 ตั้งแต่ที่ นายชวน หลีกภัย ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องป๋าเปรม และก็รับลูกต่อมาเรื่องๆ โดยเอาประเด็นเรื่องความจงรักภักดี และสถาบันเบื้องสูงมาจุดชนวนเพื่อสร้างเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวต่อต้าน คิดว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรจะยุติเรื่องนี้ และหันหน้าทำหน้าที่ที่เหมาะสมของแต่ละคนดีกว่า อย่าไปสนเรื่องอื่น” รศ.ประสิทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อกองปราบปราม กับุคคลในภาพที่มีการเขียนชื่อและข้อความลงบนธงชาติไทย ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.สหรัฐ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2549 นั้น
พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบบุคคลที่ปรากฏตามภาพเป็นบุคคลใดบ้าง ซึ่งถ้าสอบสวนพบว่ากระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายอาญา แต่เบื้องต้นที่ดูตามภาพกรณีที่นำธงชาติมาคาดไว้ที่หน้าอกของหญิงสาวคนหนึ่งนั้น พบว่ายังไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ธง เนื่องจากภาพดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นธงชาติไทย อย่างไรก็ตาม รองผู้บังคับการกองปราบปราม จะต้องตรวจสอบเว็บไซต์ที่เผยแพร่ว่ามีปรากฏอยู่หรือไม่