WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, May 5, 2008

จะออกหมายจับDSIเส้นตายกกต.ให้การ“โกงบัตร”

กกต. ส่อพิรุธ ดึงเกมส่งหลักฐานสอบโกงเลือกตั้ง ดีเอสไอ ยืนกรานมีอำนาจสอบเต็มที่ ระบุวงเงินสูงถึง 100 ล้านบาท ขู่ออกหมายจับหากยังเมินเฉย ไม่หวั่นส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ เชื่อไม่ใช่ประเด็นขัดแย้งระหว่างองค์กร ด้าน “เลขาธิการ กกต.” เผย “คนใน” ตัวการนำผลสอบคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้งไปให้ดีเอสไอ เปรยรู้ตัวแล้วเป็นใคร ดอดแจ้งความลักทรัพย์ เตรียมทำหนังสือท้วงอำนาจสอบ หลังคาใจ

หลังจากที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำหนังสือทางการไปที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้สำนักงาน กกต.ส่งเอกสารประกอบการสอบสวนคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินภายใน 30 วัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับความร่วมมือจาก กกต. แต่อย่างใด ล่าสุดทางดีเอสไอจะได้ออกหมายเรียกให้ กกต.เข้าไปชี้แจงเรื่องนี้ โดยเร็ว และหาก กกต.ยังทำนิ่งเฉยอยู่ก็จะออกหมายจับต่อไป

ในขณะเดียวกัน ทาง กกต. ที่อ้างถึงอำนาจของดีเอสไอในการตรวจสอบในการพิมพ์บัตรเลือกตั้งของ กกต. มาโดยตลอด และเตรียมจะนำประเด็นในเรื่องนี้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องอำนาจระหว่างองค์กรเช่นกัน

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดี ดีเอสไอ ในฐานะผู้รับผิดชอบคณะกรรมการตรวจสอบคดีฮั้วประมูลการจัดจ้างพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงอำนาจการตรวจสอบของดีเอสไอในคดีนี้ว่า โดยยืนยันว่า ดีเอสไอมีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบอย่างเต็มที่ ตลอดที่ผ่านมาก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับ กกต.อย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องที่ กกต.จะทำหนังสือมาเพื่อหารือและทบทวนในเรื่องของอำนาจในการตรวจสอบของดีเอสไอนั้น ทางดีเอสไอยินดีที่จะเข้าไปพูดคุยด้วย แต่ทั้งนี้จะไม่มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน

ส่วนที่ กกต.จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความอำนาจของดีเอสไอนั้น การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่าง 2 องค์กร ตนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่น่าจะรับเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาได้ เพราะหากจะต้องเข้าสู่การตีความในทุกเรื่องๆ แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ ทางดีเอสไอคงจะไม่มีอำนาจไปตรวจสอบองค์กรอื่นๆ ได้ เช่นถ้าจะต้องเข้าไปตรวจสอบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่างๆ ทั้ง อบต. อบจ. แล้วหากไม่ยินยอมให้ตรวจสอบ ก็จะยื่นเรื่องตีความ แบบนี้ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายกันไปใหญ่

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกแปลกใจมากว่า เหตุใดทาง กกต. จึงพูดถึงแต่เรื่องอำนาจในการตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้น่าจะจบลงได้ตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ดี หากยังไม่ได้รับความร่วมมือกับ กกต. ในการมอบหลักฐานเพื่อมาตรวจสอบในคดีนี้นั้น ก็คงจะมีการดำเนินการในขึ้นตอนออกหมายเรียกตัวเข้ามาสอบสวน และหากทาง กกต.ยังนิ่งเฉยอยู่ ก็คงจะต้องดำเนินการออกหมายจับต่อไป ส่วนตัวไม่อยากให้ถึงขั้นนั้นแต่ก็ต้องทำตามหน้าที่รับผิดชอบ ในส่วนของคดีนี้นั้น ทางดีเอสไอได้บรรจุเข้าไปคดีพิเศษแล้ว เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าวงเงินโดยรวมในการจัดจ้างพิมพ์บัตรเลือกตั้งมีจำนวนมากถึง 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งเข้าข่ายตามที่ระบุไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อเกตว่า เหตุใดทาง กกต. จึงไม่ส่งเอกสารหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้างมาที่ดีเอสไอ หลังจากที่ได้ทำหนังสือร้องขอเป็นทางการ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทาง กกต. ส่อมีพิรุธในเรื่องนี้

ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงการสอบสวนภายในของ กกต.เกี่ยวกับคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้ง โดยเฉพาะประเด็นเอกสารบางอย่างที่ตกไปอยู่ในมือของดีเอสไอ ว่าทาง กกต.ตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้ และได้ดำเนินการแจ้งความเรื่องลักทรัพย์ไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ระบุตัวบุคคลทำ ซึ่งจนถึงขณะนี้พอจะทราบตัวบุคคลที่นำเอกสารของ กกต. ออกไปภายนอกแล้ว บอกได้แต่เพียงว่าเป็นคนในทำเอง

อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับประเด็นความขัดแย้งระหว่างดีเอสไอ และ กกต.เรื่องกรอบอำนาจการดำเนินการทางคดีฮั้วพิมพ์บัตรเลือกตั้งนั้น เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ภายในอาทิตย์หน้านี้ กกต.จะทำหนังสือถึงดีเอสไอเพื่อทักท้วงกรณีดังกล่าว ซึ่งหากทางดีเอสไอยังยืนยันอำนาจตามเดิม กกต.จะทำหนังสือเชิญดีเอสไอมาหารืออีกครั้งต่อไป