กกต.เลื่อนสรุปผลสอบใบแดง “วิฑูรย์ นามบุตร” ออกไปอีกไม่มีกำหนด อ้างยังสอบพยานไม่ครบ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าไม่มีความจำเป็น ส่อจงใจยื้อช่วยพรรคการเมืองเก้าแก่ “สดศรี” เผยไม่เกินเดือนตุลาคมนี้รู้ผล ยันพิจารณาอย่างรอบคอบ ด้านอนุกรรมการฯ ที่ลาออกไป 2 คน อ้างเหตุผลจำเป็นส่วนตัว ส่วนคนที่มาแทน ที่แท้ลูกประธาน ส.ว.จากการสรรหา “ประสพสุข บุญเดช”
กรณีร้องเรียนทุจริตการเลือกตั้งของ นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขณะถูกร้องเรียนมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ส.ส.อุบลราชธานี อีก 2 คน ซึ่งกรณีดังกล่าวหากมีการแจกใบแดงก็อาจนำไปสู่การยุบพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ นั้น
กรณีดังกล่าวได้ถูกดึงเรื่องมายาวนาน แตกต่างจากกรณีของพรรคการเมืองอื่นจนเห็นได้ชัดเจน จนเกิดเป็นข้อครหาว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จงใจช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่มีการมองว่าเป็นพวกเดียวกัน และเชื่อมโยงย้อนไปถึงความสัมพันธ์กับการรัฐประหารอย่างไร หรือไม่
โดยที่การสอบสวนของคณะอนุกรรมการได้ถูกเลื่อนมาแล้วหลายครั้ง และเพิ่งจะมีการเลื่อนจากช่วงต้นเดือน จนมีข่าวออกมาว่าจะมีการสรุปความเห็นส่งให้กับกกต.ชุดใหญ่ ในวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปอีก โดยอ้างว่าจะรอพยานบางรายที่ยังไม่มาให้การ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น กกต.หลายคนออกมาบอกตรงกันว่าไม่มีความจำเป็นต้องสอบเพิ่มเติมอีกแล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องรอสอบเพิ่มเติมอีก
กรณีดังกล่าว นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนทุจริตเลือกตั้งของนายวิฑูรย์ นามบุตร ว่า กกต.ยังไม่สามารถพิจารณาลงมติได้ เนื่องจากนายสมบัติ รัตโน ผู้ร้อง ยังไม่มีการนำพยานมาสอบปากคำ ต่อคณะอนุกรรมการของกกต. ตามที่ยื่นเรื่องขอให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมได้ ล่าสุดยังเหลือพยานที่ยังไม่ได้สอบอีก 4 ปาก แต่จนถึงขณะนี้พยานผู้ร้องมาให้ปากคำเพียง 3 ปากเท่านั้น
ซึ่งหากคณะอนุกรรมการจะตัดพยานออก ก็ควรจะทำหนังสือแจ้งมายัง กกต. ภายในสัปดาห์นี้ หรือจะขอยืดระยะการดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จเป็นเวลากี่วัน ก็ควรจะแจ้งให้ทราบด้วย เนื่องจากขณะนี้ทาง กกต. ทราบรายงานการสอบพยานเบื้องต้นจากคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน
ทั้งนี้หากไม่ประสงค์จะให้สอบพยานเพิ่มเติม กกต.คงจะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อจะพิจารณาตัดพยานออกไป และพิจารณาลงมติตามหลักฐานที่คณะอนุกรรมการสรุปมาก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม นางสดศรี ยืนยันว่า กกต.จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วยความรอบคอบ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องเป็นประเด็นทางการเมืองด้วย
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการลาออกของ 2 อนุกรรมการคือ พล.ต.ต.ขรรค์ชัย อนันตสมบูรณ์ รองผบ.ตม. และนายจำนงค์ พนัสจุฑาบูลย์ ว่ามีการรายงานชี้แจ้งการขอลาออกเนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว ไม่สามารถปลีกเวลามาทำหน้าที่ตรงจุดนี้ได้
ซึ่งขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งอนุกรรมการใหม่แล้ว โดยเป็นนายตำรวจท่านหนึ่ง และอีกท่านเป็นบุตรชายของนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา แต่ 2 อนุกรรมการใหม่จะไม่มีผลต่อการสอบสวนพิจารณาที่ผ่านมา แต่จะมีผลภายหลังจากการแต่งตั้ง