WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, October 3, 2008

จี้ปปช.สอบด่วน‘อภิรักษ์’เสียดายงบเลือกซ่อม


“ชูวิทย์” บุก ป.ป.ช. จี้ให้เร่งสอบ “อภิรักษ์” กรณีอาจเกี่ยวพันทุจริตรถ-เรือดับเพลิง ตามที่ร้องเรียนเป็นเรื่องด่วน ห่วงต้องเสียงบประมาณมหาศาล หากต้องมีการเลือกตั้งใหม่ มั่นใจหลักฐานเต็มที่เพราะข้อมูลสมบูรณ์ ส่วนกรณีป้ายโฆษณาแฝง กกต.กทม.พิจารณาเสร็จแล้วส่งถึงมือ กกต.ชุดใหญ่ เผยมติไม่เอกฉันท์ เสียงกว่าครึ่งเชื่อผิดจริง

จากกรณีมีการร้องเรียนความไม่ชอบมาพากลสารพัดเรื่องราวเกี่ยวกับ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงในวันที่ 5 ตุลาคม 2551นั้น

ในส่วนของป้ายโฆษณาแฝงที่มีการร้องเรียนและอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.กทม. ได้รับการเปิดเผยจาก นายพิงค์ รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) เป็นประธานประชุมสืบสวนสอบสวนพิจารณาเรื่องตามคำร้องของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ร้องเรียนป้ายหาเสียงของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าฯ ว่าไม่ถูกต้องตามประกาศของ กกต.โดยคำร้องของนายชูวิทย์ ระบุให้ กกต.พิจารณาว่าป้ายดังกล่าว ขัดหรือฝ่าฝืนต่อประกาศ กกต.หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาเฉพาะประเด็นตามคำร้องและมีความเห็นสรุปแล้วว่าผิดหรือไม่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสรุปอย่างไร โดยวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2551 กกต.กทม.จะส่งเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ใหญ่ ซึ่งหาก กกต.ใหญ่มีความเห็นภายหลังว่าผิดจริง แม้ผู้ถูกร้องเรียนจะได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้ว ก็ยังสามารถให้ใบเหลืองหรือใบแดงเพื่อดำเนินการเอาผิดได้

มีรายงานว่า ที่ประชุม กกต.กทม.ได้ให้ลงมติลับ โดยคณะกรรมการทั้ง 5 คน มีความเห็นแตกต่างกัน สรุปด้วยมติไม่เป็นเอกฉันท์ โดยรายงานข่าวระบุว่ากรรมการ 3 ใน 5 คน เห็นว่าการกระทำของนายอภิรักษ์ ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง

นายชูวิทย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ อาจได้ใบเหลืองเพราะทำผิดกฎหมายเลือกตั้งกรณีป้ายประชาสัมพันธ์ กทม.เป็นโฆษณาแฝงเอื้อประโยชน์ว่า ไม่ได้รู้สึกดีใจที่ นายอภิรักษ์ จะได้ใบเหลือง แต่เชื่อว่ากรณีนี้ไม่น่าจะรอด เพราะหลักฐานที่ตนได้มอบให้ กกต.กทม.ถือว่าครบถ้วนทุกประเด็น
ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตกรณีรังสิตโพล โดยเป็นของ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยังออกมาเผยแพร่การสำรวจก่อนการเลือกตั้ง กทม.ภายใน 7 วัน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ด้าน นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กล่าวถึงเรื่อง กกต.กทม. ส่งเรื่องให้ กกต.ใหญ่ พิจารณาเรื่องการให้ใบเหลือง กรณีป้ายหาเสียงนั้นว่า ไม่กังวลใจ เพราะได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้วว่าเป็นป้ายประชาสัมพันธ์ ของ กทม.ในอดีตที่ตนเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และยืนยันไม่เคยทำผิดการเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และพร้อมที่จะชี้แจงกับ กกต.

ส่วนในเรื่องทุจริตรถ-เรือดับเพลิง ที่นายชูวิทย์ เป็นผู้ออกมาเปิดประเด็นในวันที่ 2 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ผ่านนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักการข่าว ป.ป.ช. เพื่อให้เร่งพิจารณาตรวจสอบทุจริตโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร โดยได้แนบสรุปเหตุการณ์และแง่คิดในบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม.

โดยเห็นว่าหากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าฯกทม.แล้วได้มีการชี้มูลความผิดและลงความเห็นตัดสินว่านายอภิรักษ์ มีความผิดจริง จะส่งผลให้นายอภิรักษ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.และต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ทำให้สูญเสียงบประมาณของแผ่นดินที่มาจากภาษีอากรของประชาชน ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวจึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน

นายชูวิทย์ กล่าวยืนยันว่า ตนจะติดตามเร่งรัดเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดแม้จะต้องตามจนสุดขอบฟ้า จนตนเองตายก็จะไม่หยุด จะหยุดก็ต่อเมื่อมีคนติดคุก และใครที่ถูกตนร้องเรียนก็จะไม่รอดแน่ และการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จะมาทำตีขรุมว่านายอภิรักษ์ ไม่เกี่ยวข้องทั้งๆที่ ป.ป.ช. ยังไม่สรุปคดีแม้ว่าจะไม่มีการชี้มูลความผิดในช่วงที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) รับผิดชอบคดีนี้อยู่ก็ตาม
ซึ่งทางด้าน บริษัท สไตเออร์ฯ ได้ส่งจดหมายชี้แจงมายังป.ป.ช. แล้วซึ่งตนคงไม่ไปก้าวก่าย นอกจากนี้ การที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. พรรคฯ ออกมาระบุว่าข้อมูลที่ตนนำมาเปิดเผยนั้นเป็นข้อมูลเก่าแล้วแต่ข้อมูลเก่าที่ว่านี้ทำไม่ถึงไม่ตอบในสิ่งที่ตนถามไปและการที่ให้นายอภิรักษ์ อยู่นิ่งๆ ไม่ตอบโต้ วิธีการนี้มันเป็นวิธีที่พรรคประชาธิปัตย์น่าจะใช้เมื่อ 20 ปีที่แล้วไม่ใช่ตอนนี้

“ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่การเปิด L/C ของนายอภิรักษ์ เพราะมีผลทำให้สัญญาซื้อขายสมบูรณ์ ดังนั้นนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าฯกทม.ไม่เกี่ยวข้องแน่นอนแม้จะเป็นผู้ลงนามในสัญญากับบริษัท สไตเออร์ฯ ก็ตาม

ทั้งนี้หากเป็นการกระทำของพรรครัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์คงอภิปราย 7 วัน 7 คืน แน่นอน และผมมั่นใจว่าต้องมีเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.รอบ 2 แน่ และคงจะมีใครได้ใบดำ กินข้าวในคุกแน่ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับนายอภิรักษ์ เจอกันก็ทักทายเป็นปรกติเพราะอาศัยอยู่คอนโดฯ เดียวกัน” นายชูวิทย์ กล่าว