WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, October 2, 2008

ห่วง‘สมชาย’พบ‘ป๋า’หาทางออกให้กบฏ


“สมชาย” เข้าพบ “ป๋าเปรม” แล้ว เผยหลังพูดคุย 30 นาที ได้รับคำแนะนำที่ดี ส่วน “บิ๊กจิ๋ว” ยังหวานเจี๊ยบใส่ “จำลอง” น่ารักและเป็นคนพูดรู้เรื่อง ด้านภาคประชาชน ห่วงเป็นการเปิดเจรจาหาทางลงให้ม็อบพันธมิตรฯ ระบุหาก “ป๋า” สั่งได้จริงอย่างที่ร่ำลือ ก็เป็นเรื่องดีต่อบ้านเมือง แต่รัฐบาลต้องไม่ลืมว่าแกนนำที่ทำเนียบ เป็นโจรกบฏ ทางออกมีแค่หยุดชุมนุมแล้วสู้คดีตามกฎหมาย

ท่ามกลางท่าทีของรัฐบาลที่เลือกเปิดการเจรจากับผู้เกี่ยวข้องกับความวุ่นวายในบ้านเมือง เพื่อลดความขัดแย้ง โดยมีเจตนาที่จะเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ ให้ยุติก่อความวุ่นวาย และหารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบนั้น

ในที่สุดเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและ รมว.กลาโหม ก็ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ดอนเมือง เพื่อเดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์

ทั้งนี้ นายกฯ ได้เดินทางมาถึงก่อนเวลา จึงได้แวะพักที่ห้องอาหารราชตฤณมัยสมาคม สนามม้านางเลิ้ง ประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงเดินทางโดยใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก ผ่านบริเวณการชุมนุมของกลุ่มม็อบพันธมิตรฯ เข้าถนนพระราม 5 และเลี้ยวซ้าย บริเรณหน้าวัดเบญจมบพิตร มุ่งหน้าสู่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม พร้อมกับ นายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกฯ และ พล.อ.อ.สุเมธ โพธิมณี หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ประจำ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยมี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม เป็นคนออกมาต้อนรับ

ต่อมาเวลา 18.30 น. นายสมชาย ได้เสร็จสิ้นการหารือ กับ พล.อ.เปรม และได้เดินทางออกจากบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ทันที โดยมี พล.อ.เปรม เดินออกมาส่งขึ้นรถ ที่บริเวณประตูหน้าบ้านพัก ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและอารมณ์ดี ทั้งนี้ นายสมชาย ระบุเพียงสั้นๆ ว่าได้รับคำแนะนำที่ดี

ส่วนการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ในฐานะผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เปิดการเจรจา เปิดเผยว่า ได้เรียนนายกฯไปว่า หลังการหารือกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ จะมีการหาเวลามาคุยกันอีก คิดว่า ประชาชนและรัฐบาลคิดตรงกัน เพราะอยากให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติ อยากพัฒนาปรับปรุงการเมืองซึ่งก็ไม่ว่ากัน ส่วนจะทำอย่างไร เช่นจะแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นไปตามกติกา ซึ่งคงจะมีโอกาส ไปคุยกับพันธมิตรฯใน 1-2 วันนี้

เมื่อถามว่า จะคุยในเรื่องใด เพราะพันธมิตรฯปฏิเสธมาตลอด พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า หากปฏิเสธแล้วจะอย่างไรเพราะกติกาคือรัฐธรรมนูญเขียนไว้อย่างนั้น ต้องถามกลับว่า หากไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะแก้กติกาอย่างไร ต้องถามแบบนี้ เพราะอาจมีความคิดดีๆ ก็ได้ อย่าเพิ่งต่อว่ากัน เพราะพันธมิตรฯ คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม เหมือนกับรัฐบาลเช่นกัน แต่วันนี้พันธมิตรฯ อาจอยู่ในทำเนียบ สร้างปัญหาที่ห่วงใย และมีผลกระทบกับเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจรับสถานการณ์อย่างไรบ้าง เพราะหมายจับพันธมิตรฯยังอยู่แบบนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ต้องไปถามตำรวจ ส่วนกรณี พล.ต.จำลอง ไม่ฟังเหตุผลของฝ่ายอื่น ๆ นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า พล.ต.จำลอง ยังน่ารักอยู่

เมื่อถามว่า การหารือเบื้องต้นกับ พล.ต.จำลอง นั้น พันธมิตรฯ แจ้งว่า จะออกจากทำเนียบเมื่อใด พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า วันแรก พล.ต.จำลอง บอกว่า รอหลังศาลอุทธรณ์ มีคำตัดสินยกเลิกข้อหากบฏ จากนั้น พล.ต.จำลอง บอกว่ารอหลังการแถลงนโยบายรัฐบาล ตนจะไปบอกว่าหากออกไปตอนนี้ เดี๋ยวจะติดเหรียญกล้าหาญให้ ทั้งนี้ มองว่า พล.ต.จำลอง เป็นคนที่พูดจากันได้ขอแต่เพียงใจเย็นๆ เวลาพูดกับ พล.ต.จำลอง ต้องพูดมื้อเช้า เพราะ พล.ต.จำลอง กินข้าวมื้อเดียว

อย่างไรก็ดี ท่าทีในการเจรจาดังกล่าวก็อยู่ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่าย เพราะเกรงว่าจะมีการหาทางลงให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ตอนนี้เปรียบเสมือนขี่หลังเสือและหยุดการชุมนุมไม่ได้ เนื่องจากมีคดีติดตัวกันคนละหลายคดี โดยเฉพาะที่หนักที่สุด คือ 9 กบฏ ที่มีโทษถึงประหารชีวิต

ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า เป็นห่วงอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องความพยายามที่เข้าเจรจากับพันธมิตรฯ หรือกับ พล.อเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ตนมองว่าเป็นการกระทำที่มีเจตนาดี แต่การเจรจานั้นต้องไม่ใช่การยื่นเงื่อนไขให้ความสำคัญกับพันธมิตรฯ หรือเสนอให้ความช่วยเหลือใด

การที่ พล.อเปรม ยอมให้เข้าพบเพื่อพูดคุยเรื่องดังกล่าว เท่ากับเป็นการชี้ให้เห็นตามที่ประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.เปรม สั่งพันธมิตรฯ ได้อย่างนั้นหรือไม่ ประกอบกับพฤติกรรมและการกระทำของบุคคลใกล้ชิด เช่น พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ได้เคยประกาศบนเวทีว่าขออนุญาต กับพล.อ.เปรม แทนที่จะเป็นต้นสังกัด หรือความเห็นผู้ใหญ่ในกองทัพท่านอื่น ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ องคมนตรีระบุเอาไว้ว่าต้องไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

แต่ถ้า พล.อ.เปรม ยินดี ที่จะประสานทำให้พันธมิตรฯ เลิกการชุมนุมได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ยกให้พันธมิตรฯ มีอำนาจต่อรองเด็ดขาด และต้องไม่ลืมว่าพันธมิตรฯ เป็นกบฏแผ่นดิน

และหากว่าการเจรจากับพันธมิตรฯมีท่าทีที่จะอ่อนข้อ เท่ากับเป็นการกระทำที่ขัดเจตนาของพี่น้องประชาชนที่ต้องการเห็นพันธมิตรฯได้รับการพิจารณาความภายใต้กฎหมาย

ดังนั้นการเจรจาที่รัฐบาลจะมีให้กับพันธมิตรฯ ควรเป็นการเจรจาให้ยุติการชุมนุม ย้ายออกมาจากทำเนียบและเรียกร้องให้ออกมาต่อสู้คดี ซึ่งหลังจากที่มีการต่อสู้คดีความเสร็จสิ้นไปแล้ว พันธมิตรฯ อยากจะออกมาเล่นการเมืองแบบถูกต้องก็ย่อมสามารถทำได้ แต่ต้องให้เรื่องเป็นไปตามขั้นตอนตามแบบที่ควรจะเป็นเสียก่อน