WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, October 3, 2008

มทภ.2ใหม่เตรียมหารือเขรมปรับกำลังทหารเขาวิหารรอบ2

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ระหว่าง พล.อ.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 คนเดิม ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก (อัตรา พล.อ.) กับ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพน้อยที่ 2 ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ โดยมีหน่วยทหารในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่ระดับกองพันขึ้นไปจนถึงระดับกองทัพจำนวน 74 หน่วย จัดหมู่ธงประจำหน่วย สวนสนามเพื่อเทิดเกียรติยศให้แก่แม่ทัพภาคที่ 2

ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 มีผู้บังคับบัญชาดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 เป็นต้นมา โดยมี พล.ท.หลวงวีระโยธา เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 คนแรก จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 60 ปี มีผู้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 แล้วจำนวน 31 คน และคนปัจจุบัน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 คนที่ 32

พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 มีภาระหน้าที่รักษาอธิปไตยในดินแดนของประเทศ และดูแลความสงบเรียบร้อยภายใน รวมถึงช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งได้ทำตามแผนงานที่ได้มีแผนไว้ต่อเนื่อง จากนี้ไปก็จะปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบก และสืบทอดเจตนารมณ์ของแม่ทัพภาคที่ 2 ในอดีตที่ผ่านมา

สำหรับนโยบายเพิ่มเติมภายหลังได้รับมอบหน้าที่แล้วนั้น จะเน้นไปที่เรื่องปัญหาชายแดนและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โดยเฉพาะการดูแลป่าไม้ ซึ่งได้ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการดูแลรักษาผืนป่าทุกรูปแบบเพื่อให้ได้ป่าที่อุดมสมบูรณ์คืนมา และมีการลาดตระเวนร่วมกันเพื่อไม่ให้ทำลายป่าเพิ่มเติม

ส่วนสถานการณ์ด้านชายแดนไทย-กัมพูชา นั้น จากรายงานล่าสุดไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงทุกอย่างยังเรียบร้อยดี และเป็นไปตามขั้นตอนที่รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยตกลงกันไว้ ขั้นตอนการดำเนินการต่อจากนี้ไปสำหรับข้อพิพาทกรณีเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ จะมีการเจรจาปรับกำลังของทหารทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อให้ทหารของทั้ง 2 ประเทศมีความพร้อมในการดูแลชายแดนเหมือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้เนื่องจากบางจุดโดยเฉพาะบนปราสาทเขาพระวิหารทหารของฝ่ายกัมพูชายังมีกำลังเหลืออยู่มาก ซึ่งจะมีการหารือกันภายในสัปดาห์หน้า โดยเป็นการประชุมหารือระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 กับแม่ทัพภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชาเพื่อตกลงในรายละเอียด สาระสำคัญที่จะหารือกันในครั้งนี้ คือเรื่องเกี่ยวกับเขาพระวิหารอย่างเดียว โดยเฉพาะการปรับกำลังทหารของทั้ง 2 ประเทศเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคาดว่าแนวโน้มสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น หน่วยทหารตามแนวชายแดนทางกัมพูชาก็มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาโดยตลอด

"กรณีชายแดนด้านปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นั้น ได้มีการหารือตกลงกันและเข้าใจกันดีแล้ว ซึ่งจุดนั้นอยู่ในเส้นเขตแดนที่เป็นข้อพิพาทกันอยู่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน ฉะนั้นต่าง ฝ่ายจึงต่างถอยกำลังทหารออกมาเพื่อให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา เข้ามาดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมาจัดระเบียบกันใหม่อีกที" พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว