คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
* หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน ฉบับ ประจำวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2551 ประเทศไทยจะอยู่หรือไปขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่ พันธมิตรประชาชนปล้นประชาธิปไตย จะก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเกิดเมืองนอน ของพวกเรา แต่เพียงฝ่ายเดียวจริงๆ หรือ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่มีหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองและแผ่นดิน ท่านจะนิ่งดูดายให้ประชาชนล้มตาย บ้านเมืองล่มจม ไปต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นหรือ
* ประเทศไทยตกอยู่ ภายใต้อิทธิพลคำขู่ และอาณาจักรแห่งความกลัวที่ สนธิ ลิ้มทองกุล กับ จำลอง ศรีเมือง สองศาสดามารศาสานานอกรีต สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไร แล้วเหตุใดประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เห็นแตกต่างกับ โกตั๊บ กับ โกหก สองจอมมารล้างผลาญประเทศ จึงต้องรู้สึกครั่นคร้ามไปตามคำขู่ด้วย
* สถานการณ์ของคนไทยในวันนี้มิได้แตกต่างไปจากชาวบ้านร้านตลาด นอนอยู่กับบ้านดีๆ มี พวกเมากาว เมายา มาร้องตะโกนอยู่หน้าบ้าน มึงไม่ออกมาจากบ้าน ไม่ยอมให้กูเข้าอยู่แทน กูจะเผาบ้านมึงให้วอดวาย เชื่อก็โง่ กลัวก็บ้า ทางที่ดี เอาน้ำร้อนสาดให้สร่างหายจากอาการเมากาว เมายา ก็สิ้นเรื่อง ชาวพาราจะได้นอนตาหลับกันเสียที
* อ่านแต่ละคำ นำมาคิดแต่ละประโยค ชัดยิ่งกว่าชัด โกตั๊บ กับ โกหก เป็นพวกนิยมความรุนแรง และบ้าเลือด จึงได้แต่พร่ำเพรียกเรียกหาสงคราม และสถานการณ์นองเลือด ปลุกระดมเร่งเร้า “ไทยฆ่าไทย” เพราะเชื่อหัวปักหัวปำ หาก “ไทยไม่ฆ่าไทย” ใครๆ ก็จะรุมฆ่ากู... 6 เดือนที่ผ่านมาสร้างศัตรูไว้ทั่วแผ่นดิน มีแต่สร้างเหตุให้ “ไทยฆ่าไทย” จะได้ไม่เหลือใครมารุมฆ่ากู
* คำก็นองเลือด สองคำก็นองเลือด ขึ้นต้นก็สงคราม ลงท้ายก็สงคราม เหล่าแกนนำจิตทรามเห็นความเสื่อมโทรมของประเทศ เป็นความสำเร็จของตนเอง กลายเป็นพวกบ้าเลือด ไปตั้งแต่เมื่อไร ไหนบอกว่าชุมนุมโดยสันติ ใครบอกว่าผู้นำต้องรับผิดชอบชีวิตผู้ชุมนุม แล้วไยวันนี้ ผลักชีวิตผู้ชุมนุมเข้าสู่สงคราม และสถานการณ์นองเลือด โดยปราศจากความรับผิดชอบ
* ใครยิง และ ยิงทำไม ยังเป็นปริศนาดำมืดอยู่จนทุกวันนี้ แต่ความจริงวันนี้ที่ต้องยอมรับก็คือ เวทีพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล ใกล้เป็นเวทีร้าง ผู้นำ กับ ผู้จัดการเวที และการ์ดติดอาวุธ รวมกันแล้วมีมากกว่าผู้ชุมนุม หากไม่สร้างเรื่อง ไม่หาเหตุให้คนสมเพชและสงสาร แล้วโยนผิดใส่ฝ่ายตรงข้าม เพื่อปลุกระดมศรัทธาที่เหลืออยู่น้อยนิดให้จุดติดเป็นเชื้อไฟ เวทีที่ใกล้ร้างก็จะร้างในเร็ววัน
* หลังจากระเบิดลงเป็นรายวัน ทำเนียบรัฐบาลกลายเป็นหมู่บ้านกระสุนตก ทั้งๆ ที่การ์ดพันธมิตรฯ ควบคุมพื้นที่แน่นหนา เพราะ มีทหารชั้นแม่ทัพเป็นผู้วางยุทธการการรุกและการรับด้วยตนเอง ก็มีเหตุให้ปลุกระดมสาวกผู้ศรัทธาอย่างบ้าคลั่ง หลั่งไหลมายัดทะนานหน้าเวที เพื่อก่อกวนความสงบของบ้านเมืองอีกครั้ง วิญญูชนจึงพึงตรองดูว่า การตายของสาวกพันธมิตรฯ ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ แล้วเหตุใดแกนนำพันธมิตรฯ จึงต้อง ใช้ศพผู้ศรัทธาเป็นเชื้อชนวนต่อไฟให้ไหลลามตาม มาอีกหลายศพ
* หากมั่นใจว่าการใช้ศพจะปลุกระดมประชาชนออกมาโค่นล้มรัฐบาล และกดดันทหารให้ก่อการรัฐประหารได้จริง ทำไม ไม่ลองสละศพแกนนำเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้สักศพล่ะ...ที่เคยบอกว่า เจ๊งเป็นเจ๊ง ตายเป็นตาย วันนี้ก็เจ๊งไปแล้ว วันหน้าเห็นทีได้ตายแน่ๆ โกตั๊บผู้เป็นเจ้าของเหล่าสาวก ช่างมีวาจาสิทธิ์ ดีแท้หนอ
* ตำรวจ–ทหาร ทั้งใหญ่และน้อยทุกระดับ หากท่านไม่จับ ไม่หยุดยั้งพวกบ้าคลั่ง พลังแผ่นดินของประเทศไทยจะลดลงและเสื่อมถอยอย่างแน่นอน หากพวกมันจุดชนวนติด พวกท่านจะนั่งไม่ติด บ้านเมืองจะร้อนดั่งเพลิงประลัยกัลป์เผาผลาญจนหมดสิ้น เพราะลิ้นสามนิ้วของโกตั๊บ กับ โกหก ที่หลอกลวงผู้คนให้มาก่อกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองของตนเอง
* จงรัก ภักดีราช สงสารก็แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความเศร้าโศกเสียพระทัยในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ยังดำรงคงอยู่ไม่จางหาย พระเมรุยังไม่รื้อถอน ความอาวรณ์ของประชาชนยังอบอวลทั่วท้องทุ่งพระเมรุ กลับต้องมาพบกับสถานการณ์ที่ทำให้ไม่สบายพระทัยอีกครั้ง เพราะ คนไทยถูกปลุกเร้าออกมาฆ่ากัน ห้ำหั่นกันเอง อีกครา ทหารของพระราชาทั้ง 3 เหล่าทัพ ท่าน จะทำสิ่งใดถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงสบายพระทัย ก็เร่งมือเข้าเถิด
* ประธานรัฐสภา ชัย ชิดชอบ ประกาศครั้งแล้วครั้งเล่า ย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ไม่มีการประชุมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีแต่วาระการ พิจารณาสนธิสัญญาที่จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แต่แกนนำพันธมิตรฯ ก็ยังอ้างเหตุต้องยึดรัฐสภา เพื่อสกัดกั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบนี้ต้องเรียกว่าอยู่ในสภาพ จิตหลอน ยกเหตุปกป้องรัฐธรรมนูญโจร หลอกสาวกออกมาชุมนุม จนตัวเองอยู่ในสภาพจิตหลอน เปิดสภาเมื่อไร ก็ผวารัฐธรรมนูญโจรจะถูกแก้เมื่อนั้น...ประสาทแดกเสียแล้วม้าง
* ไม่รู้ว่าสมาชิกรัฐสภาแต่ละคน แต่ละท่าน ที่เห็นดีเห็นงาม และเห็นชอบให้ย้ายที่ประชุมรัฐสภา จะคิดอย่างไร หากมีคนบ้ามาไล่ท่านให้ออกจากบ้านตัวเอง เพราะพวกมันจะยกแก๊งเข้ามาอาละวาด รื้อข้าวของในบ้านท่าน ท่านจะรีบเก็บข้าวของออกไป หรือจะช่วยกันปกป้องบ้านของท่าน ...ฤๅว่า รัฐสภาอันทรงเกียรติที่พวกท่านพร่ำพูดกันจนติดปาก และทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อจะมาเป็นสมาชิก มีคุณค่าน้อยกว่าน้อย จึงไม่ต้องคอยรักษา ปล่อยให้พวกคนบ้าบุกยึดตามใจชอบ
* ยินดีต้อนรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เข้าสู่สนามนักสู้ผู้ว่าฯ กทม. ตามมติพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่า “หม่อม” เป็นผู้ที่ได้รับการคัดสรรแล้ว ว่ามีฝีไม้ลายมือมากพอที่จะมาสานต่องานของอดีตผู้ว่าฯ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้ ว่าแต่ว่าที่ตั้งใจจะมาสานงานต่อนั้น เป็นงานใด กรุณาแจ้งให้ชัด ประชาชนอย่างผมจะได้ตัดสินใจถูก
* แต่ก่อนจะสานงานต่อ ก่องานใหม่ กรุณาช่วยสะสางและแก้ไขงานเก่าของอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกชี้มูลว่า กระทำทุจริตคิดมิชอบ จนเป็นเหตุให้รัฐต้องเสียหายหลายพันล้านบาท และต้องเสียงบประมาณมาเลือกตั้งกันใหม่อีกกว่า 150 ล้านบาท
* ถ้าวันนั้น อภิรักษ์ ไม่เซ็นเปิดแอลซี ซึ่ง เปรียบเสมือนเปิดประตูให้โจรปล้นบ้าน และพรรคประชาธิปัตย์ไม่หน้าด้านส่งอภิรักษ์ลงสนาม เพื่อหวังใช้คะแนนคน กทม. ฟอกตัว แล้วละก็ วันนี้เราก็คงไม่ต้องเสียเงินหลายพันล้านบาทไปฟรีๆ และไม่ต้องเปลืองงบประมาณเลือกตั้งใหม่...จริงไหมครับ “หม่อม”
* ไหนๆ ก็ไหนๆ จงรัก ภักดีราช ขอประกาศตรงนี้เลยว่า อยากเห็นการรื้อพรมห้องอดีตผู้ว่าฯ อภิรักษ์ จะได้ประจักษ์แก่ใจไปเลยว่า มีขยะถูกกวาดเก็บซุกซ่อนอยู่ใต้พรมกี่เรื่อง กี่กอง ฉะนั้นแล้ว หากใครเห็นด้วยกับ การรื้อขยะใต้พรมในห้องผู้ว่าฯ กทม. ขออย่าได้กระทำผิดซ้ำสอง ซ้ำสาม อีกเลย ...แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าหลักฐานถูกทำลายไปเท่าไรแล้ว