ที่มา เดลินิวส์
เจอหน้าลูกสาวเพื่อนที่ใกล้จบการศึกษาปีนี้ กำลังวิตกว่า จบแล้วจะเดินเตะฝุ่นมั้ย เห็นทางการบอกจะมีคนว่างงานตั้ง 1 ถึง 2 ล้านคน ก็น่าวิตกอยู่หรอก แต่ คุยไปเรื่อย ๆ เลยรู้ว่าเธอประทับใจ บารัค โอบามา มาก ถึงขนาดฟังสุนทรพจน์แล้วน้ำตาซึมไปเลย
เธอเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่สหรัฐ เลยฟังภาษาอังกฤษเข้าใจได้
โอบามา นอกจากพูดถึงตำนานการต่อสู้ของคนผิวสีใน สหรัฐ จนกระทั่งตัวเองได้ก้าวมาเป็นประธานาธิบดีผิวดำคนแรกในประวัติศาสตร์ 200 ปีของสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังสร้างฝันและสร้าง (ความ) หวังให้อเมริกันชนอีก 200 ล้านได้ด้วย
แสดงว่าภาวะผู้นำสูงมาก ดังที่ก็รู้ ๆ กัน คำประกาศแรก ๆ คือ จะเป็นประธานาธิบดีของทุกคน ไม่ว่าผิวสี หรือไม่สี ไม่ว่าเลือกมา หรือไม่เลือกมา นั่นล่ะ
แต่ที่ประทับใจสุด-สุด เธอว่า เป็นคำพูดของ ดาราหญิงจอมบทบาท เมอริล สตรีพ (ที่คว้ารางวัล “ออสการ์” มาแล้ว หากจำไม่ผิด “เอาต์ออฟแอฟริกา” หนังรักโรแมนติก โศกนาฏกรรม ที่เล่นคู่กับพระเอกตลอดกาล โรเบิร์ต เรดฟอร์ด)
เมอริล สตรีพ พูดว่า เธอรู้แน่ว่า สักวัน บารัค โอบามา จะต้องทำอะไรที่ผิดพลาดแน่ เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนไม่เคยพลาด (นอกจากคนไม่ทำอะไร ลอยตัวทุกสถานการณ์ แต่ คนแบบนี้ล่ะ ที่คนไทยเชิดชูนัก) แต่หากถึง เวลานั้นเธอและคนอเมริกัน จะยังยืนเคียงข้าง โอบามาและพร้อมจะเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นไปด้วยกัน
เมอริล พูดได้น่าซึ้งใจจริง-จริง น่าดีใจที่อเมริกา ที่มีคนอย่าง เมอริล สตรีพ อยู่ด้วย
แล้วเธอก็ขมวดปมแทงใจดำว่า ทำไมคนไทยไม่ค่อยให้อภัยกันเลย คนที่ทำงาน มาก ๆ เวลาทำอะไรพลาดไป ทำไมเอากันถึงตายลูกเดียว เสียดาย พอดีเธอถึงบ้านเลยไม่ได้ถามต่อ ใครงั้นหรือ ???
แต่ถึงจะไม่ได้ถาม ก็ดีใจที่เด็กรุ่นใหม่ ที่ใครชอบมองว่าไร้สาระ สมองกลวง เอาแต่เฮฮา ไม่บ้าบอล ก็เดินช้อป หรือแชตทางเน็ต ไปวัน ๆ ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย พวกเขามีสาระ และอาจมากกว่าผู้ใหญ่อีกมากมาย
ที่มีแต่จ้องจะทำร้าย ทำลายล้างกัน ไม่จบไม่สิ้น ความเมตตาไม่รู้เหือดแห้งไปไหนหมด
บังเอิญเปิดวิทยุฟังรายการหมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ สัมภาษณ์ ดร.ทนง พิทยะ อดีตขุนคลังคนดัง เสนอแนะวิธีแก้เศรษฐกิจ ก็ดีอยู่แล้ว แต่ที่สะดุดคือตรงที่ ดร.ทนง บอก สิ่งที่รัฐบาลมาร์คคงแก้ไม่ได้ คือ โรคซึมเศร้า โดนใจมาก ๆ
เพราะมันจริง ทุกวันนี้คนไทยไม่น้อยป่วยเป็นโรค “ซึมเศร้า” เทศ กาลปีใหม่อาจช่วยให้ลืม ๆ ไปบ้าง แต่พอหมดเทศกาลก็จะกลับมาป่วยกันใหม่ ป่วยเป็นโรค “ซึมเศร้า” ต่อไป
ซึมเศร้าจากอะไร คงไม่ต้องเขียนสาธยายให้มากความแล้ว ทุกคนรู้อยู่เต็มอกว่า เกิดจากอะไร โดยเฉพาะความเป็นธรรมที่ถูกกัดกร่อนไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ มันเป็นเรื่องที่แสนอัดอั้นตันใจ ไม่รู้จะไประบายกับใคร นอกจากซุบซิบกันเองในแวดวงที่ยังพอพูดคุยกันได้
คอลัมน์วันนี้อาจเพ้อ ๆ ไป แต่ไม่รู้สิ มันเจอโรค “ซึมเศร้า” กระแทกกระทั้นเข้าให้ เหมือน ดร.ทนง พิทยะ ไม่ผิด จนเกิดอาการเขียนไม่ออก บอกไม่ถูกเหมือนกัน
สวรรค์มีดวงตาเห็นธรรมเมื่อไหร่ อะไร ๆ คงดีขึ้น แต่จบแบบนี้ก็อย่าซึมเศร้าไปด้วยนะ ถ้าหากทุกปัญหามีทางออก สักวันก็มีทางออกจนได้ จะเร็วจะช้าเท่านั้นเอง ???.
ดาวประกายพรึก