ที่มา ไทยรัฐ
เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ฐานะประธานกรรมการ บริษัท ดีสเตชั่น จำกัด พร้อมด้วยอดีตผู้จัดรายการความจริงวันนี้ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวสถานีประชาธิปไตย (ดีทีวี) สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โดยประชาชนทั่วไปที่มีจานดาวเทียมระบบ ซีแบนด์หรือจานดำ ที่สามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมไทยคม 5 หรือจานดาวเทียมพีทีวีเดิม สามารถจูนคลื่นสัญญาช่องดีทีวีได้เลย ส่วนคนที่มีจานรับสัญญาณของเอเอสทีวี ก็สามารถรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ทั้งนี้ จะทดลองออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 19 ม.ค.นี้ จะเริ่มตั้งแต่ 06.00 น. เป็นต้นไป และจะแพร่สัญญาณได้อย่างสมบูรณ์ในวันที่ 1 มี.ค. 2552 โดยถ่ายทอดสัญญาณจากสถานีที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว
นายอดิศรกล่าวว่า เนื้อหาของดีทีวีกว่า 80% จะเป็นรายการให้ความรู้ด้านประชาธิปไตย อาทิ รายการสถานีประชาธิปไตย ดำเนินรายการโดย น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รายการในสายตาโลก โดยนายจักรภพ เพ็ญแข รายการความจริงวันนี้ โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นอกจากนี้นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จะมาร่วมดำเนินรายการด้วย
“วีระ” ฝันคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้น
นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การเปิดสถานีโทรทัศน์ดีทีวีวันนี้ เพื่อขอพลังคนเสื้อแดงในการสร้างรัฐไทยขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดหลักนิติรัฐ นิติธรรม เกิดเสรีภาพประชาชนและสื่ออย่างเท่าเทียมกัน หาก ต่อไปคนเสื้อแดงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ เราก็จะสร้างรัฐไทยได้ แต่หากทำไม่ได้ก็เท่ากับว่าแพ้และต้องยกเลิกไป เท่ากับแพ้ทุกอย่างก็เท่ากับจบ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า เงินทุนที่มาดำเนินการดีทีวี ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เป็นเงินลงขันของคณะกรรมการบริษัท ที่มีนายอดิศรเป็นประธาน แล้วเงินทุนส่วนหนึ่งยังมาจากรายได้ของการจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง ภายใต้ แบรนด์ “ความจริงวันนี้” มอบหมายให้บริษัท กรุงสยามเครื่องดื่ม จำกัด เป็นผู้ผลิต และบริษัทฟิวเจอร์ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด จัดจำหน่ายในราคาขายปลีกขวดละ 10 บาท หากประชาชนมาช่วยอุดหนุนเป็นจำนวนมาก ก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้และน้ำดื่มบริสุทธิ์ เพื่อมาเป็นรายได้สนับสนุนให้ดีทีวีแข็งแกร่งยืนหยัดได้ในระยะยาว
ตามบี้ “กษิต” แกนนำปิดสนามบิน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า รูปแบบการนำเสนอรายการผ่านดีทีวี ยังจะเน้นรูปแบบการวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล ตรงไปตรงมา ดังนั้น หลังจากดีทีวีออกอากาศอย่างเป็นทางการ ขอให้ พวกเสื้อแดงทรยศ นักการเมืองที่จะย้ายพรรคให้เลิกคิดได้เลย เพราะจากนี้ไปประชาชนที่ได้รับทราบความจริงจากดีทีวี จะไม่ไปเลือกคนทรยศกลับเข้ามาอย่างแน่นอน ส่วนทิศทางความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. ต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนั้น ขณะนี้กำลังดำเนินการยื่นหนังสือให้กับสถานทูตประเทศต่างๆ 9 ประเทศ เพื่ออธิบายถึงการร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมปิดสนามบิน ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ จะไม่ดำเนินการให้นายกษิตพ้นจากตำแหน่ง เพราะเกรงกลุ่มพันธมิตรฯ จะออกมาต่อต้าน นอกจากนี้ ยังเชื่ออีกว่าการดำเนินการในด้านงบประมาณอย่างรีบเร่งของรัฐบาล จะเป็นภาระให้กับประชาชนในอนาคต
“กษิต” เดินหน้าพบ 4 ทูตยุโรป
วันเดียวกัน นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ กล่าวภายหลังได้ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส เยอรมันนี โรมาเนียและเช็ก ที่เดินทางเข้าพบหารือว่า จุดประสงค์หลักของการหารือ คือการทบทวนสถานะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับทั้ง 4 ประเทศ ซึ่งทูตทั้ง 4 แสดงความชื่นชมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ หลังจากที่ได้ พบกันไปเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้รับฟังแนวนโยบายต่างประเทศ ก็จะดำเนินการให้ต่อเนื่องไป สำหรับประเทศเช็กมีความเป็นพิเศษที่ยังเป็นประธานสหภาพยุโรปอีก 6 เดือน ก็จะได้ประสานงานร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับไทยซึ่งเป็นประธานอาเซียน เมื่อถามถึงขณะนี้ยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงตัว รมว.การต่างประเทศ นายกษิตตอบว่า อันนั้นมันเรื่องการเมือง แต่เราทำงานต่างประเทศ ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าหากมีการปิดล้อมรัฐสภาในช่วงที่จะเสนอเอกสาร 33 ฉบับ ที่จะใช้ในการประชุมอาเซียน นายกษิตตอบว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงจะดูแล อย่าไปห่วงเลย คนไทยต้องเดินหน้า
รัฐบาลเมิน “ทักษิณ” โฟนอินดีทีวี
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงการเปิดสถานีโทรทัศน์ดีทีวีของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า คงเป็นสถานีที่มีอยู่แล้ว หากเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องสามารถทำได้ แต่เนื้อหาต้องดูว่าเป็นอย่างไร ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เข้าไปตรวจสอบเรื่องเนื้อหา เพราะถือเป็นการแทรกแซงสื่อ ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินเข้ามาในรายการทางสถานีโทรทัศน์ดีทีวีนั้น เห็นว่าอดีตนายกฯมีสิทธิ์ ไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกแขนง นำเสนอเนื้อหาในทางที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือสร้างวิกฤติ ส่วนการวิจารณ์ว่ารัฐบาลจะใช้กฎหมายความมั่นคงสั่งปิดวิทยุชุมชนและเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่ สถาบันนั้น รัฐบาลยังไม่ได้ปิดใดๆทั้งสิ้น อำนาจการเปิด-ปิดสถานีมีกฎหมายเฉพาะ หากเนื้อหาอยู่ในกรอบที่กฎหมายกำหนด ก็ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะรัฐบาลสนับสนุนเสรีภาพของสื่ออยู่แล้ว แต่ต้องเป็นเสรีภาพที่มีความรับผิดชอบ หากเนื้อหาไปพาดพิงใคร ผู้ถูกพาดพิงสามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายได้
มหาดไทยตั้งศูนย์ตรวจเข้มดีทีวี
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีทีวีของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า มีสิทธิที่จะขอถ้าถูกต้องตามกฎหมายไปห้ามไม่ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าการตั้งดีทีวีของกลุ่มเสื้อแดงจะทำให้การชุมนุมวุ่นวายมากขึ้น เหมือนกรณีกลุ่มคนเสื้อเหลืองหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า เนื้อหาที่จะพูดก็ต้องมาตรวจดูอีกทีว่าเป็นอย่างไร คงไม่มีการเซ็นเซอร์ เมื่อถามว่า จะมีการตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังหรือไม่ นายชวรัตน์ ตอบว่า จะจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังที่กระทรวงมหาดไทย จะทำหน้าที่ตรวจสอบไม่ให้เลยเถิดเกินกฎหมายกำหนด หากพบข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทก็ต้องเตือนกัน เมื่อถามว่าการตั้งดีทีวีจะกระทบต่อความมั่นคงเหมือนกรณีเอเอสทีวีหรือไม่ นายชวรัตน์ตอบว่า ต้องมีคณะกรรมการขึ้นมาดูแล พยายามดูแลอย่าให้เลยเถิด เพราะประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเราไปห้ามไม่ได้ แต่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
“เชาวริน” ว่างจัดไล่จับผิด “อภิสิทธิ์”
ที่รัฐสภา ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ได้ติดตามดูการแต่งกายเต็มยศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ มาตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ก็ไม่เห็นมีการแก้ไขสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย อาทิ มีการประดับแพรแถบเหรียญอิสริยาภรณ์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเป็นที่ระลึก ในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ พ.ศ. 2499 และการติดเหรียญแพรแถบที่ระลึก เนื่องใน โอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปยุโรป ในปี พ.ศ. 2504 ซึ่งผู้ที่เกิดหลังจากปี พ.ศ.ดังกล่าว ไม่สามารถประดับเหรียญแพรแถบเหล่านั้นได้ เพราะมีกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน จึงได้ทำหนังสือถึงนายกฯให้แก้ไขโดยด่วน
ร.ต.ท.เชาวรินกล่าวถึงการแห่เข้าพรรคภูมิใจไทย ของอดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชนว่า อยากเตือน ส.ส.พรรคเพื่อไทยด้วยว่าการตัดสินใจทางการเมือง ไม่ใช่การชักเข้าชักออก เพราะหากลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยเมื่อใด ต้องหมดสมาชิกภาพทันที เมื่อถามว่ามองการเมืองขณะนี้อย่างไร ร.ต.ท.เชาวรินตอบว่า ไม่ใช่การเมืองปกติ แต่มีวาระพิเศษซ่อนเร้น เริ่มตั้งแต่มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีการพูดกันว่าหากไม่เปลี่ยนขั้วจะอยู่ลำบาก แต่สำหรับตนแล้วไม่กลัว