ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : โต๊ะข่าวประชาทรรศน์
โดย อัชฌาวดี
แทบไม่น่าเชื่อว่าบรรดาสื่อมวลชนจะให้ความสนอก สนใจการเปิดตัวพรรคใหม่ที่ชื่อว่า “พรรคภูมิใจไทย” ขนาดนี้
เนื่องจากตลอดทั้งวันที่ 13 มกราคม ก่อนการเปิดตัวพรรค 1 วันมีการรายงานข่าวจากสื่อต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่า “พรรคภูมิใจไทย” ที่สื่อมวลชนจับตาเป็นพิเศษนั้น ต้องมีความสำคัญทางการเมืองชนิดที่นักข่าวทุกคน “ตกข่าว” นี้ไม่ได้เด็ดขาด
เพราะการกำเนิดของพรรคภูมิใจไทย เป็นการรวมตัวกันของ ส.ส. ที่จะมาจาก พรรคมัชฌิมาธิปไตย และ กลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งจะทำให้พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส. ถึง 40 เสียง
นั่นก็หมายถึง “พรรคภูมิใจไทย” กลายเป็นพรรคอันดับ 2 ในทันที
แม้จะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ขณะนี้ค่อนข้างชัวร์แล้วว่าจะมี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นหัวหน้าพรรค
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จาก พรรคมัชฌิมาธิปไตยเดิม เป็นเลขาธิการพรรค
อย่างไรก็ตาม ในงานเปิดตัวพรรควันที่ 14 มกราคม ที่โรงแรมสยามซิตี้ จะมีรายการ “บิ๊กเซอร์ไพร์” เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะหลังการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เมื่อวันที่ 11 มกราคม ทำให้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป บรรดา ส.ส. ที่ยัง ลังเลการเข้าสังกัด “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งยังมีหลงเหลืออยู่บางส่วน ก็อาจเข้าร่วมด้วย เนื่องจากสภาพของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ “หมดรูป” ไปแล้ว
ดูได้จาก การประชุมของพรรคเพื่อไทยที่มีมติให้เลื่อนการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคออกไป และให้แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธานสส. ของพรรค ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา
แค่เห็นชื่อตำแหน่ง ประธาน ส.ส. ก็เดาออกแล้วว่า สถานการณ์ภายในพรรคเป็นอย่างไรบ้าง
แถมออกอาการร้อนรนอย่างที่เห็น เพราะไปดึง พล.อ.เชษฐา ฐษนะจาโร อดีตหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย หวังกู้ภาพลักษณ์กลับคืนมา
เป็นอันว่าตอนนี้ “พรรคเพื่อไทย” กลายเป็นพรรคที่ไม่น่าสนใจไปแล้ว
ขณะเดียวกันว่ากันว่า“บิ๊กเซอร์ไพรส์” ในงานวันเปิดตัว“พรรคภูมิใจไทย” จะมีการปรากฏตัวของ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี และ นายสุชาติ ตันเจริญ
ความน่าสนใจของพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวบุคคล เพราะในส่วนของนโยบายด้านการเมืองการปกครอง ก็เน้นว่าต้องยึดมั่นและดำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และที่สำคัญคือการเร่งรัดการแก้ไขกฎหมายการกระจายอำนาจเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอิสระเต็มที่ในการบริหารงาน
หันไปดู สโลแกนของพรรคภูมิใจไทยได้ใช้คำว่า “ประชานิยม...สังคมเป็นสุข” โดยใช้โลโก้เป็นรูปริ้ว 2 ริ้ว สีแดงและสีน้ำเงิน ประกบเข้าด้วยกันเป็นรูปหัวใจล้อมรอบแผนที่ประเทศไทยที่ใช้สีแดงทั้งหมด
การเปิดตัวพรรคภูมิใจไทย ครั้งนี้ หวังว่าจะสร้างประวัติศาสตร์การเมืองไทย และ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในยามบ้านเมืองเกิดวิกฤติได้อย่างแท้จริง!