ที่มา ประชาทรรศน์
โดย ลวดหนาม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ผมติดตามดูข่าวการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. และเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แล้ว รู้สึกเศร้าใจ แต่ต้องยอมรับว่านี่คือ “การเมืองไทย”
ก่อนการเลือกตั้ง ผมก็แอบเดาไว้ในใจแล้วว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้คงจะเป็นตัวชี้วัดอะไรได้หลายอย่าง
แล้วก็จริงๆ อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เพราะหลังจากผลออกมาแบบนี้แล้ว ทุกคนยอมรับว่า วันนี้ “พรรคเพื่อไทย” อ่อนแรงลงไปเยอะ
ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น “จุดขาย” แต่ผลการเลือกตั้งก็ออกเช่นนี้ ทั้งในพื้นที่ภาคอีสาน และพื้นที่ภาคเหนือ
ผมนั่งดูคะแนนของพรรคเพื่อไทยแล้ว แทบไม่เชื่อว่า จ.ลำพูน และ จ.สมุทรปราการ จะแพ้ได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กระแสของคนเสื้อแดงมาแรงตลอด
หลายคนนั่งวิเคราะห์ให้ฟังว่า เกิดอะไรขึ้น? กับพรรคเพื่อไทย ที่มีแกนนำคนสำคัญชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
บางคนบอกว่า ประชาชนสับสนใน “จุดยืน” ของพรรคเพื่อไทย เพราะขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่า ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” อีกทั้งตัวผู้สมัครที่ประชาชนยอมรับในพื้นที่ไม่เด่นมากพอ
กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เช่นกัน ที่พรรคเพื่อไทยพยายามสนับสนุนให้เป็นแม่ทัพคนสำคัญ คอยเดินนำหน้า ส.ส. เป็นขวัญกำลังใจ
หากเปรียบ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นสินค้าแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม แทบไม่มีอะไรเป็นจุดขายเลย เหมือนอย่างที่มีหลายคนตั้งฉายาว่า “เป็ดเหลิม” เล่นการเมืองมาหลายปี แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นชิ้นเป็นอัน
พ.ต.ท.ทักษิณ อุตส่าห์ไว้วางใจเลือก ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้นำของพรรคเพื่อไทย หวังจะช่วยขับเคลื่อนให้พรรคประสบความสำเร็จ แต่อย่างที่เห็นๆ ล้มเหลวไม่เป็นท่า
ผิดกับ “พรรคพลังประชาชน” ที่มีระบบการจัดการที่ดี แถมได้ นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็น “ผู้นำ” จึงทำให้พรรคประสบความสำเร็จ
โบราณบอกว่า “มีเรือดีพายดีใช้ขี่ข้าม อย่าเอาเรือรั่วน้ำมาข้ามขี่ เลือกใช้คนที่ชำนาญการงานดี อย่าเอาคนผีผีมาทำงาน”
นี่เป็นหลักการธรรมดาของการบริหารงาน เป็นหลักการที่ว่าด้วย “การใช้คน ให้ทำงาน” หรือ “put the right man in the right job” ใช้คนให้ถูกกับงาน
หากใช้คนไม่ถูกกับงาน ท่านจะปวดหัวไม่สร่างซา เช่นใช้เด็กอายุ 8 ขวบไปซื้อลอตเตอรี่ ย้ำนักย้ำหนาว่าให้ซื้อเลขท้าย 93 ถ้าไม่มี 93 ก็เอา 39 หรือถ้าไม่มีจริงๆ เอาอะไรก็ได้ เด็กหายไปครู่ใหญ่กลับมาบอกว่าหนูหาทุกแผงแล้วไม่มีเลย เห็นว่าถ้าไม่มีให้เอาอะไรก็ได้ หนูเลยซื้อไอติมมา
การใช้คนให้ถูกกับงานนี่เป็นหัวใจหลักของการบริหาร งานการเมืองก็เหมือนกัน โดยเฉพาะในยามวิกฤติ
ผลการเลือกตั้งซ่อมออกมาแบบนี้แล้ว หลายคนก็ได้แต่บ่น “เสียใจ” และเสียดายคนดีๆ เก่งๆ
หากวันนี้ “พรรคเพื่อไทย” ยังพร้อมจะสู้ต่อ ก็ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด!