WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, January 16, 2009

รัฐบาล 3 มติ

ที่มา ประชาทรรศน์

คอลัมน์ : ละครชีวิต

โดย อสรพิษ


ในช่วงสถานการณ์ของการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ทำให้หลายฝ่ายต่างจับตามองว่าเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลในการบริหารประเทศ จะมีน้ำยานำพาสถานการณ์ไปสู่ทิศทางที่ดีกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ ดั่งคำพูดจาของนายกฯ เอง และแรงสนับสนุนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อทอดสะพานให้พรรคเทวดาเข้ามากำหนดชะตาของประเทศ

ภายหลังจากการเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ไม่นาน หลายฝ่ายเริ่มจับตามองถึงท่าทีและแนวนโยบายของรัฐบาลอดีตฝ่ายค้านว่าจะ ท่าดีทีเหลวหรือไม่ ถึงแม้ว่าหลายคนที่จับตามองรัฐบาลชุดนี้จะออกอาการเซ็งไม่น้อยเพราะท้ายที่สุด แนวนโยบายที่คุยนักคุยหนาก็หนีไม่พ้น ก็อปปี้ นโยบายประชานิยม มาทั้งดุ้น

แต่ในปัจจุบันประเด็นเรื่องการคัดลอกแนวนโยบายไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญหากจะเปรียบเทียบกับนโยบาย ต่างตอบแทน ที่เริ่มขยายผลและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

จะเห็นได้จากการแต่งตั้ง ครม. ที่มีโต้โผใหญ่อย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หรือจะเรียกให้เข้าใจง่ายว่าเป็น ผู้จัดการทีมฟุตบอล มีหน้าที่ในการวางตัวผู้เล่นว่าคนไหนอยู่ในตำแหน่งใดบ้าง ถึงแม้ว่าการจัดตั้ง ครม.ชุดนี้จะมีการพลิกโผไปบ้าง แต่คนที่น่าจะหลุดโผแต่ก็ไม่หลุดอย่าง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ยังอยู่เป็นปลาเน่าให้ ครม.ชุดนี้ด่างพล้อย ตามสุภาษิตไทยที่ว่า ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นทั้งข้อง

จะว่าไปแล้วหลายคนคงคาดไม่ถึงว่ารัฐบาลช่างกล้าเปิดเผยถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับคนบางกลุ่ม และหลายคนอาจคิดว่ารัฐบาลคงจะไม่กล้าทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อไปมากกว่านี้

แต่ใครจะไปรู้ว่านี่เพิ่งเข้าสู่นโยบายต่างตอบแทน step 1 เพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เห็นถึง step 2 ในการแต่งตั้งให้ นายนาม ยิ้มแย้ม มาเป็นที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ภายใต้ข้อกังขาที่ว่าคนผู้นี้คือบุคคลที่หักดิบอนาคตทางการเมืองของอดีตนายกฯ ขวัญใจคนรากหญ้า และตำนานแห่งบ้านเลขที่ 111

ใครจะไปรู้เลยว่า นโยบายต่างตอบแทนจะมีความเข้มข้นมากกว่าปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของกลุ่มคนที่ยอมพลีชีพเป็นสะพานให้รัฐบาลชุดปัจจุบันก้าวข้ามมาบริหารประเทศ เพราะเราได้เห็น step 3 เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ ในการแต่งตั้งให้ นายประพันธ์ คูณมี มาเป็นที่ปรึกษา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ในกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คนพื้นที่เดียวกันก็พูดจาภาษาเดียวกันรู้เรื่อง

แม้ว่านายประพันธ์ จะออกมาให้สัมภาษณ์โก้ๆ ว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ด้วยความสามารถล้วนๆ แถมเหน็บไปที่พี่ตู่ ขวัญใจคนเสื้อแดงว่าอย่ามาทำให้คนเสื้อแดงไขว้เขวในหลักการของการออกมาเคลื่อนไหว เล่นเปิดเผยออกมาขนาดนี้แล้ว จะมาปฏิเสธได้อย่างไรว่าไม่ได้เป็นผลผลิตของพันธมิตรฯ เพราะแนวทาง เอาความดีเข้าตัว โยนความชั่วให้คนอื่น มีแต่สายพันธุ์ของพันธมิตรฯ เท่านั้น ที่ทำได้อย่างไม่ละอายต่อบาป

อย่าด่วนใจร้อนตัดสินว่านี่คือตอนจบ เพราะว่านโยบายต่างตอบแทนยังมีความเข้มข้นชวนให้ติดตามอีกมาก โปรแกรมหน้าตามมาติดๆ step 4 นายพิเชฐ พัฒนโชติ แกนนำพันธมิตรฯ จะได้รับตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข และคาดว่า step ต่อไป จะแต่งตั้งให้ นายสำราญ รอดเพชร แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นที่ 2 เป็น ผอ.อสมท.

ไม่อยากจะคาดเดาเลยว่า นโยบายต่างตอบแทนจะมีจุดจบที่ตรงไหน บ้านนี้เมืองนี้กำลังเข้าสู่ยุคอณาธิปไตย รัฐบาลเองก็มาจากรัฐธรรมนูญครึ่งใบ เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง เพราะแทนที่จะทำประโยชน์เพื่อพี่น้องทั้งประเทศ กลับเลือกปฏิบัติกับคนที่ทำลายประเทศ แต่ทำคุณให้กับตัวเอง เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว คนดีทำดีไม่ได้ดี คนชั่วทำดีได้เป็นรัฐบาล เมื่อรัฐบาลเป็นคน 3 มติ คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่าง แล้วอย่างนี้ประชาชนจะไปพึ่งใคร???