WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, January 13, 2009

เหตุ ‘เฉลิม’ปฏิเสธหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ที่มา ประชาทรรศน์

โต๊ะข่าวประชาทรรศน์

โดย เอกฉัตร


ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน 22 จังหวัด 26 เขตเลือกตั้ง คงทำให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลายกิโลขีด

โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ชนะคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย นายยุรนันท์ ภมรมนตรี อย่างขาดลอย ในขณะที่ คุณปลื้ม ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล ขวัญใจเด็กแนวผู้มีความเชื่อมั่นและมีความ “นิ่ง” อย่างหาคนเทียบยาก ได้คะแนนมาเป็นที่ 3 ก็ไม่ถือขี่เหร่นักสำหรับการลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งแรก โดยไม่มีฐานเสียงของพรรคการเมืองอยู่ในมือเลย

3 แสนกว่าคะแนนที่ได้รับถือว่าเป็นคะแนนที่นิยมศรัทธาในตัวคุณปลื้มเพียวๆ คงทำให้คุณปลื้มมีกำลังใจที่จะทำงานการเมืองต่อไป แต่ก็ไม่อยากให้ทิ้งงานสื่อมวลชนที่ทำให้คนรู้จักตัวตนของคุณปลื้ม ผมในฐานะกองเชียร์ข้างเวที ขอให้คุณปลื้มสู้ต่อไป แต่อดเป็นห่วงลึกๆ หากจะทำงานการเมืองในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่มีฐานคะแนนของพรรคการเมืองรองรับ คงลำบากที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

กลับมาดูการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ใน 22 จังหวัด 26 เขตเลือกตั้ง ผลที่ออกมาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 7 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนาได้ 10 ที่นั่ง พรรคประชาราชได้ 4 ที่นั่ง พรรคเพื่อแผ่นดินได้ 3 ที่นั่ง โดยพรรคเพื่อไทยได้เพียง 5 ที่นั่ง ถือว่าผิดความคาดหมายของผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคที่ชื่อ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง

เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างนี้ ยิ่งทำให้คนที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง ยืนกราน นั่งยัน นอนยัน ตีลังกายัน ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย การอ้างว่าไม่อยากจะถูกเว้นวรรคทางการเมือง หากพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบทิ้งอย่างง่ายดาย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคไทยรักไทย และ พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นการอ้างได้แต่เชื่ออยาก เพราะการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านไป ยังไม่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยถูกร้องเรียนกล่าวหาแต่อย่างใด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดรักษาการ ก็ยังไม่มีใครโดดเด่นที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามจ้องจับผิดได้ แล้วพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบได้อย่างไร

ดังนั้นการปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอย่างไร้เยื่อใยของ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นคนละเรื่องกับการปฏิเสธเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา โดยการปฏิเสธของนายชวนนั้น เป็นการยึดหลักการของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะต้องให้คนที่เป็นหัวหน้าพรรคเท่านั้นได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี “เทพประทาน” ที่นักการเมืองทั่วๆ ไปต่างพากันอิจฉา

แต่กรณีการปฏิเสธเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยของ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่ได้มีหลักการอะไร เพียงแต่ผู้ที่ปฏิเสธทราบดีว่า อนาคตข้างหน้าเป็นอย่างไร คงไม่อยากเห็นพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคมวลชน ที่ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเลือกตั้งทุกครั้ง จะได้ ส.ส.เข้าสภาไม่ถึง 10 คน เรียกว่าเป็นพรรคต่ำ 10 มาตลอด

ด้วยเหตุนี้แหละที่คนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งเพิ่งเปิดไวน์ราคาแพงฉลองล่วงหน้ามาแล้วกับการได้รักษาการนายกรัฐมนตรี แต่มาได้เป็นตามที่หวังไว้ และเพิ่งประกาศว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ย่อมรู้ดีว่า หากตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเมื่อไร โอกาสที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งห่างไกลไปทุกที ประวัติศาสตร์การเมืองไทย คงไม่ย้อนรอยให้หัวหน้าพรรคที่มี ส.ส. 18 เสียง ได้เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างที่ พล.ต.ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี เคยทำไว้ เมื่อครั้งเป็นหัวหน้าพรรคกิจสังคม เมื่อปี 2518

อดีตและปัจจุบันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หาก ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง จะเป็น ส.ส. สังกัดพรรคใหญ่ ต้องเป็นลูกพรรคเท่านั้น เช่น เคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชน หากจะให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ ก็ต้องไม่เป็นหัวหน้าพรรค ใช่ไหมครับทั่นดอกเตอร์เหลิมที่เคารพรักอ

ผลการเลือกตั้งที่ออกมานั้น เป็นการบ่งชี้ให้เห็นถึงความนิยมในตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลดลงอย่างน่าใจหาย อย่างในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงคุมพื้นที่แทบจะเรียกได้ว่าเบ็ดเสร็จ แต่ผลการเลือกตั้งต้องเสียพื้นที่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ คงทำให้ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่เคยคุยโม้โอ้อวดว่าสามารถระดมคนได้เป็นแสนคนจะทำโน่นทำนี่ ต่อไปนี้คงเลิกโม้ไปอีกนาน

นอกจากนั้นผลการเลือกตั้งที่ออกมา ยังเป็นการชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่เบื่อหน่ายกับความขัดแย้งไม่เลิกราในสังคมไทย “เหลืองไปแดงมา” วันนี้เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่อยากจะเห็น

อย่างกรณีผลการเลือกตั้งเขต 1 จ.ลำพูน ที่กลุ่มคนเสื้อแดงไล่ตามราวี นายชวน หลีกภัย วันที่เดินทางไปปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ผลที่ออกมาเช่นเดียวกับการเลือกตั้งที่ จ.สมุทรปราการ

วันนี้ผมในฐานะเป็นคนหนึ่งที่สวมเสื้อแดงมาตลอดและวันนี้ก็ยังใส่ตามปกติ จึงอยากจะให้พวกเราคนเสื้อแดงตั้งสติคิดกันสักนิดว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ เสื้อแดงที่เราสวมใส่กันนั้น วันเริ่มต้นก็คือแสดงสัญลักษณ์กันรักษาประชาธิปไตย ร่วมกันต่อต้านเผด็จการ มิใช่หรือ