ที่มา ไทยรัฐ
ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันหรือไม่ กับคิวที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังเผชิญกับเสียงโห่ฮา กระแสวิพากษ์วิจารณ์การตั้งคนพะยี่ห้อม็อบพันธมิตรฯเป็นทีมงานรัฐมนตรี ถือเป็นการท้าทาย
ราดน้ำมันเข้ากองเพลิง
ล่าสุดพรรคประชาธิปัตย์ได้จ้างบริษัทเอกชนติดตั้งอุปกรณ์ลูกบอลดับเพลิง จำนวน 50 ลูก กระจายทั่วบริเวณที่ทำการพรรคทั้ง 2 อาคาร รวมถึงห้องทำงานของบุคคลสำคัญ
อาทิ ห้องทำงานของนายอภิสิทธิ์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
นัยว่า เพื่อป้องกันความปลอดภัย
โดยเฉพาะในห้วงที่ม็อบเสื้อแดงเดินสายเพิ่มดีกรีอาละวาด ประกาศดับเครื่องชนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้พังกันไปข้าง
อารมณ์ไวไฟ จุดติดได้ง่ายๆ
รู้กันอยู่ว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านตากันไปได้ แม้จะเป็นแค่เก้าอี้ที่ปรึกษารัฐมนตรี ตำแหน่งเท่ๆเอาไว้ใส่นามบัตร
แต่โดยเงื่อนไขการเผชิญหน้าระหว่างม็อบสีเหลืองกับม็อบสีแดง และโดยสถานะของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกผูกโยงกับฝ่ายม็อบพันธมิตรฯ โดนจ้องอยู่แล้วเรื่องของรายการต่างตอบแทน ปูนบำเหน็จสปอนเซอร์ที่อยู่เบื้องหลังเกมพลิกขั้วรัฐบาล
งานนี้จึงเป็นอะไรที่จับ “ใบเสร็จ” ได้คาหนังคาเขา
ทั้งๆที่ถ้าเอาความจริงมาพูดกัน การตั้งคนของม็อบพันธมิตรฯเป็นทีมงานรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยก็อธิบายได้ คนที่ได้รับตำแหน่งก็คืออดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์
ถือเป็นเรื่องของความชอบธรรมภายใน
แต่ที่ผิดก็คือพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยยืดอกยอมรับอย่างลูกผู้ชายที่ผ่านมาแตะมือกันเล่นกับม็อบพันธมิตรฯในการทุบทำลายเครือข่าย “ทักษิณ”
ทั้งๆ ที่มีหลักฐานจะจะ ไม่ใช่แค่ชื่อของพวกหางๆ แถวอย่างนายประพันธ์ คูณมี นายพิเชฐ พัฒนโชติ นายสำราญ รอดเพชร
แม้แต่พันธมิตรฯ “ตัวพ่อ” อย่างนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำใหญ่ 1 ใน 5 หัวขบวนม็อบ ก็เป็น ส.ส.สัดส่วน พะยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์
ภาพมันฟ้อง เกินเลยกว่าที่จะอมพะนำทำไขสือ
ขุนศึกร่วมรบชนะมาก็ต้องปูนบำเหน็จกันเป็นธรรมดา
ในทางตรงกันข้าม ถ้ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยึกยักไม่ตั้งแกนนำม็อบในบัญชีผู้รับบำเหน็จ ก็จะผิดใจกับม็อบพันธมิตรฯ เสียแนวร่วมสีเหลือง
โดนคนกันเองหันมาถล่มแน่
อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้ว เมื่อประชาธิปัตย์สวมบทคนใจถึง กล้าตั้งคนของม็อบพันธมิตรฯเป็นทีมงานรัฐมนตรี มันก็เท่ากับการประกาศเลือกข้าง ลุยรับศึกทางเดียว
เปิดหน้าเล่นกันชัดๆไปเลย
และงานนี้ก็ถือเป็นการช่วยแบ่งกระสุนจาก “เป้าใหญ่”
นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ โควตาม็อบพันธมิตรฯที่แว่วๆข่าวจากคนในกระทรวงบัวแก้วว่า ออกอาการแกว่ง สูญเสียความมั่นใจ หลังจากโดนรับน้องคิวที่คะนองปากกับฝรั่งต่างชาติ ปล่อยวาทะ ยึดสนามบินเป็นเรื่องสุนทรี ดนตรีไพเราะ อาหารเลิศรส
สะอึกกันไปทั่วโลก
วันนี้กลายเป็นเตมีย์ใบ้ ถูกคำสั่งจากผู้ใหญ่ในพรรคให้สงบปากสงบคำ มีอะไรก็โบ้ยให้โฆษกรัฐบาล แล้วเดินหนีนักข่าวขึ้นรถดื้อๆ
นั่นก็เพราะหลายคำถามยากแก่การอธิบาย
เบื้องหน้าเลยแค่เรื่องเขาพระวิหาร ที่โดนย้อนเกล็ดเรื่องที่เคยวาดฝีปากด่าผู้นำประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นแค่กุ๊ย ถึงตอนนี้ไฟต์บังคับ ต้องไปเจรจาง้องอนให้เขามาประชุมอาเซียนซัมมิตที่เมืองไทย
งานนี้ถือว่าได้ลิ้มรสคำว่า “การเมือง” ของจริง
มันไม่ใช่ง่ายเหมือนขึ้นเวทีด่าคนอื่นมันปาก
ถึงคิวที่ต้องมาเล่นเองบ้าง โดนด่าแล้ว รู้สึกยังไง.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน