ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
** สวัสดีท่านผู้อ่าน หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน พบกันอีกเป็นฉบับที่ 322 วันอังคารที่ 13 มกราคม 2552 อยู่กับ แทง แทนไท เข้าประจำสถานี สามเหลี่ยมดินแดง แห่งนี้ เพื่อต่อกรกับ “อำมาตยาธิปไตย” “อนาธิปไตย” ทั้งหลายที่ยังตามราวีไม่เลิกรา แม้ว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยเต็มใบแล้วก็ตาม ยังจะพาลพาให้ถอยหลังอยู่เรื่อย ๆ
** ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ จับพลัดจับผลูมาชนะเลือกตั้ง ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะลงสมัคร (หากตั้งใจคงจะลงสมัครไปนานแล้ว) ที่จะมาฝังกลบโครงการรถและเรือดับเพลิง จากดำเป็นขาว หรือไม่คงต้องติดตามผลงาน แต่ที่แน่ๆ หากจับผู้ร้ายในคดีรถและเรือดับเพลิง เอาเงินมาคืนหลวงไม่ได้ ให้ท่านผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ไปหาแถวๆ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นั่นแหละ เขาสุมหัวโครงการสุดอัปรีย์แห่งทศวรรษกันอยู่ที่นั่น !!!
** ประเทศไทย ที่มีหลายคนออกแนวเปรียบเทียบประหลาดๆ คล้ายๆ กับว่าเป็น “ประเทศสาระขัน” เผอิญมาเห็นทีท่า มองด้วยตาแล้วต้องขยี้หลายๆ ครั้ง “รัฐบาลหนีทหาร” กำลังจะ “ถอดยศ นรต.” ซึ่งเป็นอดีตผู้นำรัฐบาล คู่แข่งทางการเมือง เปิดเกมการเมืองน้ำเน่า ไม่ดู อีร้าค่าอีรม เล่นกันแรงๆ แบบนี้ มีหวัง บ้านเมืองลุกเป็นไฟ!!! ไหนว่าสมานฉันท์ คุยกันแล้วกับคนใกล้ชิด นี่ไงล่ะที่เขาว่า พรรคการเมืองนี้พูดจาเชื่อถือไม่ได้ ออกข่าวมาหวังจะเคลม ราคาค่างวดอะไรหรือไม่? ยี่ห้อ “เทพเทือก” ไม่ธรรมดานะ ท่านคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งกรม
** ต้องชื่นชม บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ยังมีจิตใจเป็นธรรม ออกปากเตือนให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับไปพิจารณาเรื่องการปลดยศใหม่ทุกมิติ หวังว่า “คนหนีทหาร” ควรจะเข้าใจ “ยศ” ที่ได้มานั้น ทหาร ตำรวจ หลายคนเขาได้มาด้วยความทุ่มเท เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ไม่ใช่ไปยืนบิดก้น ซ้ายหัน ขวาหัน วันทยาวุธ 7 วัน 10 วัน แถมหนีหน้าที่ แล้วบอกว่า ฝึกทหารแล้ว ไม่ยอมใส่ยศเอาไว้หน้าคำเรียกขานนามตัวเอง เพราะมันไม่มีความภาคภูมิใจ ผิดกับคนที่เขาใช้ชีวิตต่อสู้ ฝึกหนัก 4-5 ปี
** ว่ากันไปทีเดียวเลย เพราะเห็นเป็นพวกเดียวกัน “ยัยปอง” เอ๊ย “อีปอง” พิธีกร ASTV โยนหินถามทาง "สุริยะใส กตะศิลา” ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เหมาะนั่งประธานบอร์ดองค์การโทรศัพท์ หลายคนบ่น แหวะ!!! ไม่รู้ไปสนับสนุนได้อย่างไร ความรู้ความสามารถไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากพากันไปม็อบ คราวนี้ใครไม่ยอมมันคงปิดโทรศัพท์ทั่วประเทศ ให้เดือดร้อนกันเป็นทิวแถว งานนี้เป็นสัญญาณให้จ้องมองกันว่า จะมีบอร์ดสายพันธมิตรฯ เข้ามาอยู่ในรัฐวิสาหกิจแห่งใดบ้าง
** สอดส่ายสายตาไปที่ ช่อง 9 อสมท. วิ่งล็อบบี้ ซื้อเวลาถูกๆ ต่อเวลาถูกๆ โดยโฟกัสไปกันที่ โฆษกแว่นหนา ปัญญาอ่อน ชายผิวดำแห่งเวทีพันธมิตรฯ ที่พนักงานลือกันกระหึ่ม ว่าจะได้เข้ามานั่งแป้น เพื่อสนองนโยบาย เอ๊ย ... ไม่ใช่ เพื่อเฉลี่ยสุข ร่วมกันกับ “นักการเมือง” ที่กำกับดูแลอยู่ในขณะนี้มีการต่อสายถึงรายการต่างๆ หลากหลายแขนงทางจอตู้ ให้สวามิภักดิ์ กับ “นกคุ่ม” แห่ง จ.ตรัง และทีมงาน วันหน้าวันหลัง แทง แทนไท รับอาสาจะทำหน้าที่ในการชำแหละ ทีมงาน รัฐมนตรีนกคุ่ม คนนี้ดูบ้าง เพราะตัวเล็กแต่กร่างไม่เลือกที่ แบบนี้น่าจับมาตบกะโหลกสัก...สี่...ห้า ป๊าบ
** ยังไม่ทันไร “ครม.มาร์ค 1” ออกอาการคุกคามสิทธิเสรีภาพสื่อสารมวลชนเข้าให้เสียแล้ว โดย เฉพาะสื่อในวงการไซเบอร์ สื่อทีวีดาวเทียม และสื่อวิทยุชุมชน ที่ถูกตั้งเป้าจะขจัดเสี้ยนหนามนี้ไปให้ได้ ใครไม่ทำตามมีหวังโดนเล่นงานด้วยข้อหาคลาสสิก ที่ทุกรัฐบาลพยายามยัดเยียด นั่นคือ “ข้อหากระทบต่อความมั่นคง” และ “ข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง” แทง แทนไท ไม่นึกไม่ฝัน สติปัญญารัฐมนตรีคุมสื่อเสียจริงๆ ก่อนหน้านี้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์นี่แหละที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อหานี้ ใช่ไม่ใช่ และยังให้ท้าย สถานีวิทยุ 92.25 และ เอเอสทีวี แต่พอมามีอำนาจรัฐ กลับทำตัวไม่แตกต่าง แบบนี้ ใครที่ทำตัวน่าสำรอก...ยิ่งกว่ากัน
** หันมาดูการเลือกตั้งซ่อมที่สนามใหญ่ 29 ที่นั่ง ซึ่งพรรคพลังประชาชนเคยครองเก้าอี้เก่าอยู่เกินครึ่ง วันนี้พรรคเพื่อไทย กลับได้เก้าอี้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทย ตกต่ำสุดๆ (นี่...ไม่ใช่ทำไม่ดีแล้วตำหนิไม่ได้ บอกไว้ก่อนว่า แทง แทนไท ติเพื่อก่อ) ภายใต้บังเหียนของใคร วันนี้คนมีอำนาจเต็มในพรรค ประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ ยุทธตู้เย็น-ยงยุทธ ติยะไพรัช เจ๊หน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เสี่ยเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล และ เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ดูผลเลือกตั้งคราวนี้ มองทะลุไปถึงวันข้างหน้า ท่ามกลางสถานการณ์ “ฝ่ายค้าน” แล้วสุดสงสารกับ ฯพณฯ “พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร” ใช้ใครไม่ใช้? เชื่อใครไม่เชื่อ? อยู่ดีไม่ว่าดี ไปเลือกเอาพวก...แก้มตุ่ย...
** เป็นเรื่องน่าอับอาย คนจะเป็นแคนดิเดต ผู้นำฝ่ายค้าน ของ พรรคเพื่อไทย ยังหาตัวไม่เจอ ทั้งที่เป็นตำแหน่งสำคัญในวิถีทางรัฐสภา กลับไม่มีคนกล้าจะมาทำหน้าที่ อดทนในระบบเล่นการเมืองในระบอบรัฐสภากลับไม่เล่นกัน กลับไปเล่นการเมืองในโรงแรม มันจะไปได้เรื่องอย่างไร หน้าที่ของฝ่ายค้าน หน้าที่ของนักการเมืองคือ ทำการเมืองในรัฐสภา ส่วนหน้าที่ของภาคประชาชน เขาทำการเมืองนอกรัฐสภา อย่าทำให้ผู้คนออกอาการสับสน เล่นให้ถูกสนาม ไม่ใช่มา แข่งฟุตบอลในสนามแข่งรถ มันจะมั่วกันใหญ่ สนามภาคประชาชน แข็งขันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมาแย่งซีน ไม่ต้องมาแย่งงาน