กกต.ลับดาบขู่เชือดพลังประชาชน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีวีซีดีหาเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทราบว่านายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมวันอังคารที่ 11 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ ปกติการจะพิจารณาเรื่องอะไร ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำข้อมูลมาให้ดูก่อน แต่ในกรณีนี้ยังไม่เห็นข้อมูล อย่างไรก็ตาม คาดว่าเมื่อประธาน กกต. จะนำเรื่องนี้เข้าหารือ ก็น่าที่จะผ่านการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงมาระดับหนึ่ง จึงจะนำเข้าพิจารณาได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ระบุว่า วีซีดีดังกล่าวเป็นการพูดก่อนที่ กกต.จะสั่งห้ามอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยช่วยหาเสียง จึงไม่น่าที่จะผิด นายสุเมธกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่า จะใช่ประเด็นหลักที่ต้องดู เพราะการทำผิดกฎหมายต้องนับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกา หากอ้างเช่นนี้ เหมือนกับอ้างว่าทำมาแล้วสิบปีจะทำอย่างไร ปัญหาคือจะพูดตอนไหนก็ตาม แต่นำมาใช้หาเสียงในช่วงนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ กกต.ก็ต้องพิจารณาว่าการกระทำอย่างนี้ ทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์หรือไม่ นอกจากนี้ ต้องพิจารณาด้วยว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ หากผิดก็จะต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาต่อไป นอกจากนี้ ต้องพิจารณาทางพรรคมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ หากรู้เห็นด้วยก็อาจจะต้องมีความผิดด้วย
คาดพิจารณาเสร็จภายใน 3-7 วัน
นายสุเมธกล่าวด้วยว่า ต้องขอเวลาให้ กกต.พิจารณาเรื่องวีซีดีของ พ.ต.ท.ทักษิณก่อน โดยปกติ กกต.จะประชุมทุกวันอังคารและวันพุธ หากรับเรื่องไว้พิจารณาในวันอังคารที่ 11 ธ.ค.นี้ กกต.ก็จะพิจารณาให้เสร็จภายใน 3-7 วัน และเรื่องนี้ต้องพิจารณาโดยเร็ว ทั้งนี้ การนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาสามารถตั้งกรรมการสอบได้ โดยอาศัยจากข่าวที่เกิดขึ้น ไม่ต้องรอให้บุคคลใดร้องเรียน ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะให้ความเป็นธรรมอย่างไร นายสุเมธตอบว่า ขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้กล่าวโทษใคร และยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริง จึงต้องสอบสวนและสรุปผลก่อน อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงเจตนาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
อาจสั่งระงับหากพบว่าผิดกฎหมาย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า จะนำวีซีดีต้นฉบับมาถอดความว่าตรงกับที่สื่อเผยแพร่หรือไม่ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ให้ทันในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ สำหรับประเด็นที่จะต้องพิจารณาคือ ข้อความในวีซีดีเข้าข่ายความผิดมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. และเป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ รวมถึงต้องพิจารณาระยะเวลาของการผลิตวีซีดีดังกล่าวด้วย กกต.ไม่ได้ห้ามหาเสียงด้วยการเผยแพร่วีซีดี แต่การหาเสียงนั้นต้องไม่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ได้จำกัดว่าพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะกฎหมายใช้คำว่า “ผู้ใด” ไม่ได้ห้ามเฉพาะพรรคการเมือง อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่ได้มุ่งใช้กฎหมาย เพื่อให้มีผลกระทบกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งโดยเฉพาะ และเป็นดุลพินิจของ กกต.ที่จะมอบหมายให้อนุกรรมการที่มีอยู่แล้ว หรือตั้งกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาพิจารณาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม อาจมีการสั่งระงับหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย
อ้างว่าทำก่อน พ.ร.ฎ.เลือกตั้งไม่มีผล
เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า แม้จะมีการกล่าวอ้างว่าวีซีดีดังกล่าวผลิตก่อนที่พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจะมีผลบังคับใช้ แต่ถือว่าผลของการกระทำการยังมีอยู่ ยังไม่หยุดกระทำการ โดยยังมีการเผยแพร่ออกมา ไม่มั่นใจว่ามีการจัดทำเมื่อใด แต่ที่สื่อนำออกมาเผยแพร่มีวีซีดีที่มีการแจกจ่ายอยู่ในช่วงนี้ ถือว่ามีผลของการกระทำการ ถือเป็นการฝ่าฝืน และมีการอ้างอิงและเชียร์พรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด กระทบต่อกรณีที่ กกต. ได้ตอบข้อหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ “ต้องดูว่าเป็นการฝ่าฝืนหลังจากที่มีกฎหมายใช้บังคับหรือไม่ เพราะกฎหมายห้ามกระทำการในลักษณะ เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่เราก็ต้องสันนิษฐานว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อน จนกว่าจะมีพยานหลักฐานต่างๆ และยังไม่อยากเชื่อมโยงว่าจะมีความเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองอย่างไรหรือไม่ ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่จะดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรม” เลขาธิการ กกต.กล่าว
“สมัคร” ปล่อยคาราวานปราศรัย
เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน ที่พรรคพลังประชาชน อาคารไอเอฟซีที นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลัง ประชาชน เป็นประธานปล่อยคาราวานปราศรัยเคลื่อนที่ทั่วประเทศ กู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติ โดยมีแกนนำพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง โดยขบวนคาราวานดังกล่าวจะเดินทางไปตามภาคต่างๆทั่วประเทศทั้งหมด 12 สาย แบ่งเป็นภาคใต้ 2 สาย ภาคกลาง 3 สาย ภาคเหนือ 3 สาย ภาคอีสาน 3 สาย และ กทม. 1 สาย
นายสมัครกล่าวว่า ยังไปปราศรัยไม่ทั่วถึง จึงทำขบวนคาราวานขึ้น เอาเลข 12 เป็นมงคล โดยติดตั้งระบบเสียงในขบวนรถ เพื่อไปจอดตามตลาดแล้วเปิดเสียงปราศรัยของตน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ประธานทีมเศรษฐกิจ ให้ประชาชนรับรู้ว่าเราคิดอย่างไร เราไม่ใช่คนร้าย ควรจะบอกด้วยซ้ำว่าเป็นพรรคที่น่าสงสาร ถูกจับจ้องจะยุบพรรค ไม่อยากจะใช้สำนวนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ว่าแค่หายใจก็ผิดแล้ว แต่รู้สึกแบบนั้น
ฉุนพลังประชาชนโดนเตะซ้ายขวา
ต่อมานายสมัครให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ กกต. พิจารณาวีซีดีของพรรค ที่มีการเผยแพร่ในภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะวีซีดีดังกล่าวได้จัดทำขึ้น ก่อนที่จะมีกฎหมายการเลือกตั้ง เนื้อหาเก่ามาก ไปฟังดูได้ว่าเป็นการพูดแนะนำพรรคพลังประชาชน หากทำมาใหม่ๆคงไม่ต้องแนะนำพรรคแล้ว หวังว่า กกต.จะพิจารณา เพราะพรรคเดินหน้ามาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้ทำอะไรก็ผิดทั้งหมด ข่าวก็เสนอไปก่อนว่าต้องยุบพรรค ทำไมต้องเป็นพรรคนี้พรรคเดียว ส่วนพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่มีข่าวเอิกเกริก ไม่เห็นมีใครบอกว่าจะยุบพรรค นี่ข่าวนิดเดียวก็บอกยุบพรรคๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้บอกว่าไม่ผิด แต่คิดว่าถ้าเรื่องแค่นี้จะยุบพรรค ก็ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นแล้วในบ้านเมืองนี้ จะเลือกตั้งอยู่รอมร่อ มาคอยเตะซ้ายเตะขวา อะไรกันนักกันหนา มีขวากหนามตลอด ไปทำผิดอะไรนักหนา ที่นี่เป็นที่ชุมนุมคนเลวทรามต่ำช้าในบ้านเมือง ปล่อยให้หลุดเข้าสภาได้แล้วบ้านเมืองจะนองเลือดหรืออย่างไร พูดอะไรกันไม่เข้าท่า ส่วน กกต.จะเอาเข้าที่ประชุมก็เป็นสิทธิของท่าน
เพื่อแผ่นดินหน้าไม่อายเกาะ “ทักษิณ”
นายสมัครกล่าวว่า ขณะนี้ต้องระมัดระวังกันอยู่ ทุกวัน ข่าวและโพลทำให้เดือดร้อนไปหมด ทำอะไรผิดไปหมด ดีไม่ดีต้องเลิกปราศรัย นอนนับวัน คอยกาปฏิทินว่าเมื่อไหร่จะเลือกตั้ง แต่ก็ทำไม่ได้ ส่วนที่ไปเดินสายที่ภาคอีสานยืนยันว่า กระแสของพรรคดีมาก แต่ที่พรรคเพื่อแผ่นดินพยายามสอดแทรกในภาคอีสานนั้น เห็นว่าเป็นคนรู้จักกัน แต่มาพูดอะไรน่าเกลียดน่าชัง ไปหาเสียงไม่อาย ประหลาด บอกว่าจะพา พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา พรรคพลังประชาชนยังไม่เคยพูดเลย บอกแต่ว่าต้องกลับเมื่อมีสภาแล้ว มีภูมิคุ้มกัน และต้องสู้คดีล้างตัวให้สะอาดก่อน คนพูดระวังให้ดี คนที่เป็นสปอนเซอร์อยู่ ข้างหลังจะเล่นงานเอา
ปัดไม่เห็นแย้งตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
นายสมัครกล่าวว่า ส่วนเรื่องรัฐบาลแห่งชาติที่ พ.ต.ท.ทักษิณเสนอมา ก็คุยกับท่านว่าต้องเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้ ถึงจะทำตามความเห็นท่านก็เท่านั้นเอง แต่มีข่าวว่าเห็นขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับว่ามีความเห็นไม่ตรงกันอยู่ ในเรื่องที่ว่าแมนเชส-เตอร์ซิตี้จะซื้อนักฟุตบอลทีมอินเตอร์มิลานชื่ออาเดรียโน ก็บอกว่าคนนี้ฟอร์มตก ราคาก็แพง ถ้าจะซื้อควรจะซื้อปีเตอร์ เคราช์ ของลิเวอร์พูลดีกว่า ราคาถูกกว่า และเข้ากับสเวน โกรัน อีริกสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้ดีกว่าด้วย แต่ไม่รู้ว่าลงท้ายท่านจะทำอย่างไร ก็แล้วแต่ท่าน
โวยมหาดไทยสั่งกำนันผู้ใหญ่บ้านบีบ
หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงเรื่องการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ว่า รู้สึกเป็นห่วง เนื่องจากมีผู้มาลงทะเบียนขอใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก เมื่อก่อนมีร้อยละ 10 เดี๋ยวนี้มีเป็น 100 ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมมีคนอยากลงคะแนนเพิ่มมากมายขนาดนั้น ที่บางกะปิมีคน 200,000 คน ถ้า 20 วัน ก็วันละ 10,000 แล้ววันละ 10,000 คน ไปที่เขตจะรับไหวได้อย่างไร คงไปเหยียบกันตาย ถามใครก็ไม่มีใครตอบว่าจะลงคะแนนอย่างไร ลงแล้วไปเก็บไว้ที่ไหน และพบว่า บางบ้านยังมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นมา มีผีเข้ามาบ้านละ 5 คน 8 คน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องนี้ กกต.ก็ไม่มีใครเอ่ยถึง อยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เขตเข้าไปตรวจสอบ ส่วนในต่างจังหวัด พบว่ากระทรวงมหาดไทยทำแผนเต็มที่ บังคับให้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ สั่งกำนันผู้ใหญ่บ้านให้ ประชาชนกรอกแบบฟอร์ม ตอบแบบสอบถามละเอียดยิบ อ้างว่าเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตย แต่ทำไมต้องบังคับ แล้วแบบนี้ประชาชนจะอยู่กันอย่างไร
ทีมถ่ายทำเตรียมแจงปมวีซีดีทักษิณ
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะตั้งกรรมการสอบสวน การแจกจ่ายวีซีดีบันทึกภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เนื้อหาเป็นการหาเสียงช่วยพรรคพลังประชาชนว่า ขณะนี้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมาว่าวีซีดีที่นายวีระ สมความคิด นำมาเปิดประเด็น เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่เดือน ก.ย. ก่อนที่จะมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง และจะสังเกตได้ว่า ข้อมูลในวีซีดี พูดถึงเรื่องผู้ที่เคยทำงานร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ายไปอยู่กับพรรคพลังประชาชน หมายความว่าเพิ่งย้ายไปใหม่ๆ และไม่ได้พูดถึงวันเลือกตั้งด้วย เข้าใจว่าผู้ที่ถ่ายวีซีดีจะออกมาให้ข้อมูลในวันสองวันนี้ หาก กกต.มีแนวคิดที่จะสอบสวนเรื่องนี้ ก็ควรได้ตรวจสอบไปถึงพรรคอื่นๆ เพราะมีผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองได้เคยไปแสดงบทบาทที่สำคัญ เช่น ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ หรือเคยไปเป็นประธานพิธีเปิดสาขาของพรรคการเมือง หรือเคยแถลงข่าวเปิดตัว ผู้สมัคร ส.ส. และยังพาผู้สมัคร ส.ส. ไปลงสมัครด้วย ถือว่ามีบทบาทมากกว่า ก็จะเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน
ขู่ฟ้องหมิ่นฯคนเปิดโปงแก๊งปั๊มวีซีดี
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า นอกจากนั้น หากการออกมากล่าวสนับสนุนผู้สมัครพรรคใดก็ตาม แล้วจะถือเป็นเหตุให้ต้องยุบพรรคการเมืองที่ถูกสนับสนุนนั้น หากต่อไป อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ไปพูด สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคชาติไทย จะเป็นผลให้พรรคเหล่านี้ถูกยุบด้วยหรือไม่ กกต.น่าจะได้ พิจารณาให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดผลกระทบตามมาอีกมากมาย และจะเป็นปัญหาในการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อถามถึงรายงานข่าวว่า นายเหยียน ปิน นักธุรกิจชาวจีน ที่สนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนทำวีซีดี และส่งผ่านมาที่ นพ.สุรพงษ์ แล้วนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นคนเอาไปแจกจ่าย นพ.สุรพงษ์ตอบว่า อยากให้ผู้ที่มีข้อมูลนี้มีความกล้าหาญ ออกมาระบุถึงการกระทำทั้งของตน นายเหยียน ปิน และนายเนวิน จะได้ฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทได้ชัดเจน อย่าเอาแต่หลบตัวแล้วใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นจากมุมมืด
โวเสียงปึ้กไม่ต้องใช้ “ทักษิณ” ปั้นกระแส
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ชาติไทย และเพื่อแผ่นดิน ต่างออกมาปฏิเสธข้อเสนอของ พ.ต.ท. ทักษิณที่เสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เลขาธิการพรรคพลังประชาชนตอบว่า แนวคิดเรื่องรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ ถือเป็นแนวคิดที่อดีตนายกฯ ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัส ที่ให้ทุกฝ่ายรวมใจกันแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ เป็นแนวคิดหนึ่งที่เมื่อถึงเวลาที่ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ แล้วก็เป็นแนวทางหนึ่งที่สมควรจะหยิบยก มาพิจารณา เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน พรรคพลังประชาชนพร้อมและยินดีที่จะปรองดองกับทุกฝ่าย และหากจำเป็นต้องมีรัฐบาลแห่งชาติ พรรคพลังประชาชนก็พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าทุกพรรคจะพร้อมหรือเปล่า ขณะนี้พรรคพลังประชาชนเองมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจำนวนมาก ไม่จำเป็นต้องไปอาศัยแนวทางใดช่วยหาเสียงอีก โค้งสุดท้ายเราจะเร่งเสนอแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศชาติ โดยเฉพาเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง และไปรณรงค์เข้าถึงตัวประชาชนโดยตรง กลางสัปดาห์นี้จะขึ้นคัตเอาต์ใหญ่ และจะประกาศตอกย้ำให้ประชาชนสนับสนุนพรรคพลังประชาชน