หากพูดกันอย่างไม่เกรงใจ ต้องบอกว่าไม่ใช่เพียงข้อสังเกตว่าไม่เป็นกลาง แต่ต้องบอกว่าประชาชนครึ่งค่อนประเทศ กำลังคลางแคลงใจ ว่าเธอคนนี้รับงานใครมาหรือไม่ และเหตุใด จึงทำตัวเป็น “แกะดำ” เพียงหนึ่งเดียว และเป็นกรรมการการเลือกตั้งที่มักจะแปลกแยกออกจากกรรมการอีก 4 ท่านที่เป็นเสียงข้างมากในหลายๆ เรื่อง ตั้งแต่ การห้ามพรรคการเมืองรณรงค์หาเสียงแบบยิบย่อย จนถูกพรรคการเมือง นักการเมือง ประท้วง ร้องเรียน กันวุ่นวาย ต่อมาก็ห้ามสื่อมวลชนนำเสนอข่าว ห้ามจัดรายการโทรทัศน์ วิทยุเกี่ยวข้องกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองและพรรคการเมือง แม้กระทั่งห้ามสัมภาษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทำให้สื่อมวลชนต้องยื่นหนังสือประท้วงกรรมการเลือกตั้งทั้งคณะ อย่างพร้อมเพรียงกัน
เมื่อมีการประท้วงทั้งจากพรรคการเมือง นักการเมืองและสื่อมวลชน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็ต้องจัดการประชุมทำความเข้าใจ และปรับทัศนะต่อกัน ปรับความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน จากผิดให้กลายเป็นถูก เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ช่วยกัน ร่วมมือกันทำงานจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ทั้งๆ ที่เธอเป็นผู้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างมากมายจนวุ่นวายไปทั่วทุกวงการ และทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง แต่เมื่อพรรคการเมือง นักการเมือง สื่อมวลชน มาร่วมประชุมตามคำเชิญถึงสำนักงานกกต. เธอคนนี้กลับลาป่วย ไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ชี้แจง ไม่ตอบคำถาม ไม่ร่วมพิจารณาหาทางออก วิธีแก่ไขปัญหา ที่ตัวเองเป็นผู้สร้างขึ้น
เรียกว่าหลบหน้าหนีหายไปดื้อๆ ปล่อยให้กรรมการการเลือกตั้งอีก 4 คน ต้องรับหน้าเสื่อ ตอบคำถาม แก้ปัญหาที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อขึ้น
เมื่อวันที่ข่าวเอกสารลับปรากฎทางเวปไซต์ Hi-Thaksin และต่อมาพรรคพลังประชาชนก็นำสำเนาเอกสารลับไปให้กรรมการเลือกตั้ง ตรวจสอบ เธอคนนี้ก็โพล่งสวนขึ้นมาทันทีทันควัน โดยที่ไม่ยังไม่ทันได้อ่านสักคำเดียวว่า ต้องส่งไปให้ศาลพิสูจน์ก่อนว่าเป็นเอกสารจริงหรือเอกสารเท็จ กกต. ไม่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร
เรียกว่าแสดงพฤติกรรม ออกอาการไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคพลังประชาชน พร้อมกับแอ่นอกหญิงแกร่งเพื่อปกป้องชายชาติทหารคมช. ราวกับแม่ไก้ป้องลูกไว้ใต้ปีกประมาณนั้น
เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับที่มีนายสุพล ยุติธาดา มีมติว่าคมช.ไม่เป็นกลาง เธอก็ขัดขวางและคัดค้านผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ อย่างเห็นได้ชัด ด้วยการแสดงความเห็นว่าไม่เข้าใจเหตุใดคณะกรรมการฯ จึงมีมติว่าคมช.ไม่เป็นกลาง ทั้งๆ ที่ยังไม่สรุปว่าเอกสารเท็จหรือจริง ถึงแม้ว่าคมช.จะยอมรับแล้วว่าเคยทำเอกสารฉบับนี้จริง แต่ก็ออกตัวว่ามีถ้อยคำบางคำไม่เหมือน
เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับผลสอบและมติจากคณะกรรมการตรวจสอบ และนัดประชุมเพื่อพิจารณามติของคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับ เธอคนนี้ก็แถลงข่าวทันทีว่าได้รับหนังสือจากคมช. ลงนามโดยพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการคมช. ว่าคมช.ไม่ยอมรับมติของคณะกรรมการที่กรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ และไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับ หากแต่ยังอ้างสิทธิและอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ว่าคมช.อยู่เหนือกฎหมายเลือกตั้ง และกฎหมายทั้งปวง แม้จะทำผิดจริงก็ไม่ต้องรับโทษ ดังนั้นกรรมการการเลือกตั้งจะชี้ผิดและลงโทษคมช. ตามมติที่คณะกรรมการตรวจสอบนำเสนอไม่ได้
พฤติการณ์ของสดศรี สัตยธรรม ประหนึ่งว่าเป็นกลาง แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นใจแก่คมช. ทุกกรณี และพยายามจะช่วยให้คมช.พ้นผิด กรณีเอกสารลับ ทุกวิถีทาง ทั้งๆ ที่ผู้ออกมติและสรุปว่าคมช.ไม่เป็นกลาง และมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ก็คือ คณะกรรมการที่กรรมการการเลือกตั้ง แต่งตั้งขึ้นมาเอง
อาการเยี่ยงนี้ พฤติกรรมอย่างนี้ เรียกอย่างอื่นไม่ได้ นอกจาก เขียนด้วยมือ แล้วลบด้วยเท้า
น่าสงสารก็แต่ นายสุพล ยุติธาดา ที่ถูกกรรมการการเลือกตั้ง หลอกใช้ และตกเป็นเหยื่อของคมช. ถูกกล่าวหาให้ร้ายว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่คมช. และ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ด้วยการทำงานในฐานะกกต. ที่รู้เห็นเป็นใจกับคมช. ซึ่งต้องการทำลายและสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนทุกวิถีทาง จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า สดศรี สัตยธรรม จะมีหัวใจที่เป็นกลาง และเป็นธรรม ให้แก่พรรคพลังประชาชน ได้อย่างไร
เมื่อคณะกรรมการเลือกตั้ง มีมติว่าจะเรียกผู้บังคับบัญชาระดับสูงของคมช. มาชี้แจงพร้อมทั้งนำเอกสารลับฉบับจริงมาแสดงต่อกรรมการเลือกตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณา สดศรี สัตยธรรม ก็นั่งกางขากีดขวางด้วยการยกอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 มาปกป้องคมช. ว่าไม่ต้องรับโทษจากการกระทำความผิด ตามแนวทางที่คมช.เคยนำมาอ้างอิง ราวกับว่ามาจากหน่วยงานเดียวกัน อีกทั้งยังยกคมช. เป็นองค์กรพิเศษ ที่มีอำนาจเฉพาะ มีสถานะพิเศษเหนือกฎหมาย โดยที่กรรมการการเลือกตั้ง ไม่อาจจะไปพิจารณาวินิจฉัยการกระทำของคมช. ได้
สดศรี สัตยธรรม ทำหมดทุกวิถีทางแล้วที่จะปกป้องคมช. ไม่ให้ถูกวินิจฉัยว่ากระทำความผิด ไม่เป็นกลาง และต้องรับโทษตามกฎหมายเลือกตั้ง ที่เธอเองเป็นผู้รักษากฎหมาย และปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ในฐานะกรรมการการเลือกตั้ง ด้วยการอ้างกฎหมาย และข้อยกเว้นต่างๆ สารพัด มาปัดเป่าความผิดให้แก่คมช.
พฤติการณ์ของสดศรี สัตยธรรม ต่อกรณีเอกสารลับ ในขณะนี้ น่าจะมีผู้นำไปร้องเรียนต่อป.ป.ช. ว่า เป็นพนักงานของรัฐ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร้องต่อศาล เพื่อให้หาทางลงโทษเธอคนนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างการใช้ตำแหน่งหน้าที่และอำนาจกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อปกป้องคนกระทำความผิด โดยเร่งด่วน ก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง เพราะยังไม่รู้ว่าเธอคนนี้จะมีแผนการอะไรมาเข้าด้วยช่วยเหลือให้คมช.บรรลุเป้าหมายในการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน อีก
ต้องไม่ลืมว่าในฐานะ กรรมการการเลือกตั้ง สดศรี สัตยธรรม คือ เครื่องมือที่สำคัญที่สุดของคมช. ในการแปรเปลี่ยนและบิดเบือนชัยชนะของพรรคพลังประชาชนให้เป็นพ่ายแพ้ได้ในพริบตา แม้ต่การยุบพรรค ก็ทำได้ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ เพราะเธอถืออำนาจกรรมการการเลือกตั้ง อยู่ในมือ
อาการของสดศรี สัตยธรรม ในขณะนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่า เธอคนนี้ได้กลายเป็นร่างทรงให้แก่คมช. แล้ว และภารกิจการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน ได้ถูกส่งทอดมายังกรรมการการเลือกตั้งที่ชื่อ สดศรี สัตยธรรม แล้ว
ดังจะเห็นได้จากการให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะรับการร้องเรียนของผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การยื่นคำร้องยุบพรรคพลังประชาชน ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง คืนสิทธิให้แก่ผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่มีชื่อเป็นสมาชิกสองพรรค ทำให้เข้าใจได้ว่าพรรคพลังประชาชน ปลอมใบสมัครสมาชิกพรรคขึ้นมาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
สดศรี สัตยธรรม แข็งขันและมีชีวิตชีวา สติปัญญาบรรเจิดมาก เมื่อตอบคำถามเรื่องนี้ ราวกับว่าคิดไว้หมดทุกขั้นตอนแล้วว่าจะยุบพรรคพลังประชาชนได้ด้วยวิธีการใด แต่ละเว้น หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เซ็นชื่อรับรองคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งจังหวัดนนทบุรี ว่าถูกต้องตามกฎหมายกำหนดไว้ทุกประการ เป็นผู้มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ปรากฎว่ากรรมการการเลือกตั้ง ตรวจสอบพบว่าผู้สมัครคนดังกล่าว ขาดคุณสมบัติ และตัดสิทธิออกจากการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งทันที ซึ่งเท่ากับว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งเท็จต่อกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งกรรมการการเลือกตั้ง ต้องดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาแจ้งเท็จ ซึ่งมีผลถึงขั้นยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน เนื่องจากส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องได้รับความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรค และเป็นมติพรรค โดยมีหัวหน้าพรรคเป็นผู้เซ็นชื่อรับรองคุณสมบัติว่าถูกต้องตามกฎหมาย
สดศรี สัตยธรรม ออกอาการหงุดหงิดและรำคาญใจกับ เวปไซต์ Hi-Thaksin อย่างออกนอกหน้า และอย่างมาก เมื่อได้รู้ข่าวว่า มีวิดีโอคลิป เชียร์สมัคร สุนทรเวช ด้วยคำว่า เลือกสมัคร ได้ทักษิณ และกล่าวหาว่าเวปไซต์ Hi-Thaksin ทำความแตกแยกให้แก่บ้านเมือง เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ สมควรจะถูกปิด โดยจะทำเรื่องไปถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ ให้ปิดเวปไซต์ Hi-thaksin
ดูท่าว่า สดศรี สัตยธรรม จะไม่รู้มาก่อนว่า อะไรก็ตาม ที่มีการปิด ประชาชน จะชอบเปิดดู แม้แต่ต้องแอบดู ก็จะดู แม้แต่ต้องเสียเงินดู ก็อยากดู เพราะฉะนั้นเพียงแค่ สดศรี สัตยธรรม บอกว่าจะปิด เวปไซต์ Hi-Thaksin จึงทำให้ผมและทีมงานเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะมีประชาชนเข้ามาชมคลิปวิดีโอดังกล่าว อย่างถล่มทลาย เพิ่มจำนวนการเรียกชมขึ้นมาเกือบ 4 หมื่นครั้งภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากที่เธอให้สัมภาษณ์จบลง
สดศรี สัตยธรรม ต้องรู้ก่อนว่า เวปไซต์ Hi-Thaksin ยืนตรงข้ามกับคมช. และต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ มาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าชม และรับรู้ข้อมูลข่าวสารอีกด้านหนึ่งของสังคมการเมืองไทย เราเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการใช้อำนาจของเผด็จการมาตั้งแต่วันแรก และ เมื่อครั้งที่นายสิทธิชัย โภไคยอุดม เป็นรัฐมนตรีไอซีที ก็ดูเหมือนว่าจะมีภารกิจหลักที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การปิดเวปไซต์ Hi-Thaksin และใช้มาหมดแล้วทั้งวิธีการตามกฎหมาย และวิธีการนอกกฎหมาย จ้างแฮกเกอร์มาก่อกวน ทำลายฐานข้อมูลของเรา แต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ แม้จะทำให้มีปัญหาอุปสรรคในการเข้าชมบ้าง สร้างความรำคาญให้แก่ประชาชนบ้าง แต่ประชาชนก็พร้อมที่จะอดทนรอ และช่วยกันคิดหาหน ทางแก้ไขสถานการณ์การเข้าชมเวปไซต์ Hi-Thaksin เรื่อยมา
สมศรี สัตยธรรม ต้องรู้ก่อนว่า ไม่ใช่มีเพียงเธอคนเดียวที่อยากปิดเวปไซต์ Hi-Thaksin ทุกคนในรัฐบาล ทุกคนในคตส. ทุกคนในคมช. และทุกคนที่รับใช้อำนาจเผด็จการ เป็นลิ่วล้อบริวารคมช. ล้วนแต่อยากจะปิดเวปไซต์นี้ด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็เคยสั่งให้หาทางปิดเวปไซต์ Hi-Thaksin มาแล้ว แต่เราก็ยังยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ และมั่นใจว่าจะยืนอยู่ได้ยาวนานกว่าอำนาจเผด็จการที่คุ้มหัวเธอ ด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องเท่ห์แต่อย่างใด กับการประกาศว่าจะปิดเวปไซต์ Hi-Thaksin ตรงกันข้ามกลับเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าไปถึงกรรมการการเลือกตั้งทั้งหมดทั้งมวล ว่ามี “แกะดำ” สดศรี สัตยธรรม ที่มีความคิดเป็นเผด็จการ ปิดหูปิดตา ปิดปาก ประชาชน ร่วมฝูงอยู่ด้วย
อาการของสดศรี สัตยธรรม ที่กระเหี้ยนกระหือรือจะยุบพรรคพลังประชาชน และปิดเวปไซต์ Hi-Thaksin เป็นอาการที่แปลกประหลาด และแปร่งๆ จากกรรมการการเลือกตั้งท่านอื่นๆ อย่างมาก ในฐานะที่เธอเป็นกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลางในการเลือกตั้ง และต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้เปรียบเสียเปรียบ และทำให้ถูกจับได้ไล่ทันว่า มีเจตนาอย่างไรต่อการพูดในแต่ละครั้ง รับแผนใครมา รับใช้ใครอยู่
กรณีเอกสารลับ ดูเหมือนว่าสดศรี สัตยธรรม จะเป็นกรรมการการเลือกตั้งที่ออกแรงดิ้นให้แก่คมช.มากที่สุด ในขณะที่กรรมการการเลือกตั้งท่านอื่น ก็พอดูออกว่าลำบากใจที่จะต้องตอบคำถามสังคม หากวินิจฉัยไปในแนวทางที่สวนกระแสความรู้ของประชาชน และสวนทางกับข้อเท็จจริงที่ปรากฎแก่สายตาและการรับรู้ของประชาชนไปแล้ว จึงยังอึดอัดติดขัดพูดอะไรได้ไม่ชัด มีแต่สดศรี คนเดียวที่พูดชัดว่าเลือกข้างคมช. และ ต้องทำให้คมช.รอดพ้นจากการการเป็นคนผิดให้ได้
กรณีการเสนอปิดเวปไซต์ Hi-thaksin ดูเหมือนว่าสดศรี จะเดือดร้อนผิดปกติ เมื่อได้ยินว่า เลือกสมัคร ได้ทักษิณ เข้าใจว่าคงพูดไปตามแรงยุของนักข่าว โดยที่ยังไม่ได้ดูรายละเอียดว่า ไม่ใช่มีเพียงเลือกสมัคร ได้ทักษิณ ยังมีเลือก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ สนธิ ลิ้มทองกุล เลือก บรรหาร ศิลปอาชา ได้ ป.สี่เสา เลือก เพื่อแผ่นดิน ได้คมช. เลือก รวมใจไทยฯ ได้เผด็จการ เลือกประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ได้ สมศักดิ์ เทพสุทิน
ทุกคนที่ผมนำชื่อขึ้นมาอ้าง ก็มีทั้งคนรักและคนเกลียดเท่าๆ กัน
เลือก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ดีหรือ ในเมื่อสนธิ มีม็อบพันธมิตรหลายแสนคน น่าจะเป็นประโยชน์แก่ประชาธิปัตย์ ด้วยซ้ำไป
เลือก บรรหาร ศิลปอาชา ได้ ป.สี่เสา หรือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไม่ดีหรือ ในเมื่อพล.อ.เปรม เป็นประธานองคมนตรี เป็นคนดีที่บรรหาร เคารพมา 30 กว่าปี เคารพยิ่งกว่าพ่อตัวเองเสียอีก
เลือก เพื่อแผ่นดิน ได้คมช. ไม่ดีหรือ ในเมื่อ คมช. จะเข้ามาสืบทอดอำนาจ ไม่ให้ ทักษิณ กลับมาเมืองไทยได้อีก
เลือก รวมใจไทย ได้เผด็จการ ไม่ดีหรือ ในเมื่อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็เคยรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีให้กับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาแล้ว
เลือก ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ได้สมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ดีหรือ ในเมื่อ สมศักดิ์ ก็รัก ประชัย ปานจะกลืนกิน จะได้ช่วยกันทวงคืนทีพีไอ ช่วยกันให้หลุดพ้นจากคดีปั่นหุ้นทีพีไอโพลีน
แล้วเลือก สมัคร สุนทรเวช ได้ ทักษิณ ชินวัตร ผิดตรงไหน ในเมื่อ คุณสมัคร ก็รัก ทักษิณ มาตั้งนานแล้ว และเห็นว่านโยบายของทักษิณ เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ต้องทำต่อไป ซึ่งเห็นตรงกับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
หรือจะให้บอกว่า เลือกสมัคร สุนทรเวช ได้ คมช. อย่างนั้นหรือ สดศรี สัตยธรรม จึงจะพึงพอใจ
สดศรี สัตยธรรม ต้องรู้ด้วยว่า เวปไซต์ Hi-Thaksin เป็นเวปไซต์ที่ผมกับน้องๆ ทีมงานทำกันขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจนายกฯทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบ ก่อนที่จะรู้จักพรรคพลังประชาชน และก่อนที่ สมัคร สุนทรเวช จะตัดสินใจเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน หลายเดือน
เวปไซต์นี้ เป็นเวปไซต์ส่วนตัวของผมและพวกพ้อง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนายกฯทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้รับน้ำเลี้ยง ไม่มีรายได้ใดๆ มีแต่รายจ่ายที่ควักออกจากกระเป๋าของตัวเอง วันไหนทุนร่อยหรอ ก็ขอไปทำงานเก็บเงิน แล้วกลับมาทำต่อ ทั้งคนเขียน คนอ่าน คนทำเวป เข้าใจกันดี ไม่มีใครต่อว่าใคร ใครอยากอ่านก็เข้ามา ใครไม่อยากอ่านก็ไม่ต้องเข้า ใครอยากเขียนอะไรก็เขียน แต่ใครเขียนแล้วผิดเพี้ยนไปจากที่เราอยากอ่าน เราก็ไม่นำมาให้อ่าน ก็เท่านั้น
เราเป็นเวปไซต์ ที่ไม่ดัดจริต บอกว่าเป็นกลาง แต่เดินเอียงข้าง
เราเป็นเวปไซต์ ที่เลือกข้างแล้ว แต่เลือกยืนข้างประชาธิปไตย ไม่ใช่ข้างเผด็จการ
เราเป็นเวปไซต์ ที่ตัดสินใจต่อสู้กับเผด็จการมาแต่แรก เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาข่มขู่ใช้อำนาจเผด็จการกับเรา
เราเป็นเวปไซต์ ที่ผู้มีอำนาจไม่พอใจ แต่ประชาชนส่วนใหญ่พึงใจที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางของเรา
เราเป็นเวปไซต์ ที่พร้อมเสมอกับการถูกกลั่นแกล้งรังแก และไม่เคยตอบโต้ ขอความเห็นใจจากเผด็จการ แต่พร้อมสู้ทุกเวลา จนกว่าเผด็จการจะดับสูญไปจากแผ่นดินนี้
เมื่อได้อ่าน ได้รู้รายละเอียดเช่นนี้แล้ว หากยังคิดปิดเวปไซต์ Hi-Thaksin และเป็นศัตรูกับประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย ก็ขอเชิญลงมือ หากคิดว่าอำนาจเผด็จการจะคุ้มหัวตัวเองและครอบครัว ได้ตลอดชีวิต ก็อย่าได้เกรงใจ
เราไม่เก่ง เราไม่กล้า เราไม่ท้าทาย แต่เราไม่กลัว
เพราะเราคือ Hi-Thaksin